กระแสกำลังมาแรงกับ BitCoin หรือเหรียญ Cryptocurrency มาทำความรุ้จักเทคโนโลยีนี้กันว่ามันคืออะไร
BitCoin คืออะไร
https://goo.gl/CdhVCn
มันคือ สกุลเงิน Digital & Fintech ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น Bitcoin หรือเรียกย่อว่า BTC เป็นสกุลเงิน Digital สกุลแรกๆ ที่เกิดขึ้นมาโลกนี้ โดยใช้ Technology ที่เรียกว่า Blockchain นอกจาก Bitcoin แล้ว ก็ยังมี สกุลเงิน Digital หรือ Cyptocurency อื่นอีกหลายตัว ที่เราเรียกรวมๆกันว่า All Coin Bitcoin ถือกำเนิดมาโดย บุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ไม่เปิดเผยตัวตน แต่ ได้รับการเรียกกันในนาม Satoshi Nakamoto โดยกำเนิดมาได้ ถึงวันนี้ราวๆ 12 ปีแล้ว
เมื่อตอนเริ่มต้นมันเหมือนเงินเกมส์ ของเด็กเล่น ที่ไม่มีใครสนใจ เมื่อตอนเปิดตัวใหม่ มันแทบไร้ค่า ว่ากันว่า ในยุคเริ่มต้น โปรแกรมเมอร์ชาวอเมริกัน คนนึง ประเดิมใช้จ่ายเงิน ชำระค่าสินค้า ด้วย BTC ที่ขุดมา 10,000 Coin เพื่อจ่ายค่าพิซซ่า 2 ถาด
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนี้ 1 BTC = 40000 US $ เกือบๆ หนึ่งล้านสองแสนบาทไทย 10000BCT ก็คือ ราวๆ เกือบ 400,000,000 US $ หรือราวๆ หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทไทย พิซซ่า 2 ถาดนั้น เลยมีราคาตกถาดละ 12000 ล้าน บาท กลายเป็นกระทู้ ในตำนานของ Bitcoin Forum ไปเลย
หลายคนกลัวว่า ในเมื่อมันเป็นเงิน ดิจิตัลเสกมาจาก อากาศ มันจับต้อง ตัวตนไม่ได้ อย่างนี้ คนคิดจะเสกผลิต เข้ามาในระบบเท่าไรก็ได้ งั้นต่อไป มันก็ต้องเฟ้อแน่นอน จริงมั้ย ???
คำตอบคือ "ไม่จริง"
Bitcoin ในโลกนี้ ถูกอุปมาให้เหมือนกับทองคำที่หายาก และมีให้ ขุดค้นหา ได้ไม่เกิน 21 ล้าน coin หรือ 21 ล้าน BTC เท่านั้น
โดย Satoshi ผู้คิดค้น เค้ากำหนด โปรแกรม หรือ Algorithm ที่ตายตัวแก้ไขไม่ได้ ให้ Bitจะถูกปล่อย หรือ ถูกขุดออกมาหมุนเวียน ในโลกนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย โดนเพิ่มเร็วในระยะแรก เหมือนทองคำที่
หาง่าย แต่จะค่อยๆลดลง ไปเรื่อย จนในที่สุดก็หมด เหมือนทองที่หมดจากโลก ไม่สามารถ ขุดสร้างเพิ่ม เข้ามาได้อีกแล้ว ได้แต่ใช้หมุนเวียน แค่ที่มี 21 ล้าน BTC กันตลอดไป
ซึ่งจากการคำนวน coin จะออกมาหมุนเวียนครบ 21 ล้าน หรือหมดไม่มีให้ขุดเพิ่มในปีประมาณ 2140
1 BTC หรือ 1 Bitcoin มีหน่วยย่อยของมัน เรียกว่า Satoshi ตามชื่อคนคิดค้น
โดย 1 BTC =100,000,000 (หนึ่งร้อยล้าน) satoshi ดังนั้น ไม่ต้องห่วง ในโลกนี้ มี Bitcoin แค่ 21 ล้าน (21,000,000) BTC เท่านั้น
Bitcoin หากจะให้เข้าใจง่ายกว่านั้นอีก ก็ขอให้คิดว่า Bitcoin นั้นเปรียบเสมือน "เหรียญทองคำ"
Bitcoin ถือเป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งที่เราสามารถใช้เงินซื้อมาได้ และมีการขึ้นการลงของราคาตามตลาด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในขณะนั้น 1 Bitcoin มีมูลค่าเท่ากับ 100,000 บาท เราก็สามารถกำเงิน 100,000 บาท เข้าไปซื้อ Bitcoin จากเว็บที่เปิดให้เราสามารถซื้อได้ และเราก็จะได้ Bitcoin มาประดับกระเป๋าตังค์(ที่จับต้องไม่ได้)ทันที
และถ้าปล่อยไปสักพักนึงราคา Bitcoin อาจจะขึ้นเป็น 200,000 บาท เราก็สามารถเอา Bitcoin ที่เราถือไว้ไปขายและได้เงินมา 200,000 บาทออกมาใช้ได้
เห็นมะ เหมือนทองคำป่ะ
ดังนั้นเวลาเห็นมีคนบอกว่า ของชิ้นนี้ราคา 2 Bitcoin นะ ก็อารมณ์คล้ายๆกับมีป้ายราคาติดไว้ว่าคุณสามารถซื้อของชิ้นนี้ด้วยทอง 2 บาทนะ (แต่ไม่ได้แปลว่า 1 Bitcoin จะราคาเท่ากับทอง 1 บาทนะ อันนี้เทียบให้ดูเฉยๆว่ามันอยู่ในรูปแบบลักษณะเดียวกัน)
Bitcoin ไม่ได้เหมือนทองแค่เรื่องนี้ ยังมีเรื่องอื่นอีก
พูดแบบนี้แล้วน่าจะเข้าใจถึงตัวตน Bitcoin ได้ง่ายมาก สรุปแบบเบื้องต้นเลยมันก็คือสกุลเงินแบบนึงนี่แหละ เพียงแต่เงินในรูปแบบ Bitcoin จะไม่สามารถจับต้องได้ ไม่มีเหรียญเป็นชิ้นเป็นอันให้เราถือ ทุกอย่างจะอยู่ในรูปแบบดิจิตอล
นอกจาก Bitcoin แล้ว สกุลเงิน Crytocurrency อื่นๆ เกิดขึ้น มาอีกหลายสกุล เช่น ETH หรือ Ethereum ซึ่งได้ยักษ์ใหญ่ ไมโครซอฟท์หนุนหลังสนับสนุน และ นอกจากจะโอนเงินแล้ว ยังมีการใส่ Smart contact หรือ แนบข้อมูลเอกสาร ต่างๆ และยืนตันรายการต่างๆแนบไปกับการโอนเงินได้ ด้วยทันสมัยกันไปใหญ่
หรือ Zerocash หรือ Zcash หรือ ZEC ซึ่งใช้ อัลกอริ่ทึ่มในการ จ่ายเงินเข้าสู่ระบบคล้ายกับ Bitcoin และจำกัดจำนวนไว้ 21 ล้าน Coin เช่นกันโดย ทำ block ไวกว่าทุก 2.5 นาที แต่จ่ายเงินต่อบล็อคน้อยลง ทำให้โอนเงินได้ไวกว่า และมีการเข้ารหัส ปกปิดชื่อคนโอน และรับเงินได้ ทำให้ปิดข้อด้อยของ Bitcoin ไปได้อีกหน่อย แต่ใช้การถอดรหัสคนล่ะแบบ
หรือยังมีอีกหลายค่ายที่ กำลังทำออกมา และได้รับความนิยม
เป็นที่น่าห่วงเหมือนกัน ว่า Bitcoin ที่ออกมาก่อน และ ล็อคอัลกอลิธึ่มตัวเองในการทำรายการไว้แบบนั้นแล้ว จะถูก พวกน้องใหม่รุ่นหลังๆ แก้ไขปรับปรุง แล้วล้มแช้มป์พี่ใหญ่ เหมือนที่ Yahoo โดน Google และ Face Book น็อคไปแล้ว หรือป่าว
ถามว่า ถ้าเราต้องการจะครอบครองเงิน BitCoin หรือ All Coin ต่างๆต้องทำอย่างไร
วิธีการได้เหรียญ BitCoin และ All Coin ต่างๆ ก็แบ่งเป็น 3 แบบใหญ่คือ
1. ขุดเอง ( Miner ) ด้วยเครื่องขุด มีทั้งการใช้ VGA Card หรือที่เรียกว่าการ์ดเกมส์คอม หรือการ์ดจอ หรือเครื่องขุดเฉพาะที่เรียกว่า Asic
2. ขุดผ่านเว็ป CloudMining ซึ่งเป็นการซื้อกำลังขุดจาก web ที่เปิดให้บริการ
3. จากการ Trade หรือการซื้อขายแลกเปลี่ยนเหมือน Forex
เนื่องจากรายละเอียดมีค่อนข้างมาก
ถ้าสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิ๊กได้ที่ -> Link ไปอ่านรายละเอียดได้เลยจ้า ->>
ถ้าใครสนใจอยากจะอ่านเพิ่มเติม ลองไปศึกษาได้ที่ https://cloudminingfreebitcoin.blogspot.com/