เจาะข้อมูลสเปกและราคา
iPhone 13 เตรียมเป็นเจ้าของได้ที่ AIS
ใครที่กำลังมองหา
มือถือระดับพรีเมียม อดใจไม่นานเกินรอเพราะ iPhone 13 ล่าสุดเปิดตัวออกมาแล้ว ถึงแม้ดีไซน์หน้าตาหรูหราเป็นพิมพ์เดียวกับรุ่นก่อน แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ อัปเกรดระบบกล้องครั้งใหญ่ ชิบเซ็ตใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น แบตเตอรี่อึดขึ้นมากและประหยัดพลัง
งาน ทุกรุ่นรองรับการใช้งาน 5G ที่มีสัญญาณดีกว่าเดิมและความเร็วสูงเหมาะที่สุดสำหรับเล่นเกม เตรียมเป็นเจ้าของได้ที่ AIS โดยสมาร์ทโฟน iPhone 13 ราคา เพิ่มจากรุ่นก่อนพอสมควร มีราคาเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันค่ะ
ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ iPhone 13 เปิดตัวออกมาพร้อมกัน 4 รุ่นเหมือนเดิม ดังนี้
-
iPhone mini หน้าจอ 5.4 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท
-iPhone 13 หน้าจอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
-
iPhone 13 Pro หน้าจอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท
-iPhone 13 Pro Max หน้าจอ 6.7 นิ้ว ในรุ่น iPhone 13 Pro ราคา (เพิ่มเติมที่ :
) เริ่มต้น 42,900 บาท
เผยโฉม iPhone 13 ดีไซน์โดยรวมไม่แตกต่างจากรุ่นก่อน หน้าจอขนาดเท่าเดิม ยกเว้นรอยบากเล็กลงและปรับตำแหน่งกล้องหลังใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งแนวทแยงในรุ่น iPhone 13 mini และ iPhone 13 ส่วนอีกสองรุ่นใช้กล้องหลังเรียงแนวตั้งเหมือนเดิม นอกจากนี้ 2 รุ่นท็อปอย่าง iPhone Pro และ iPhone Pro Max สเปกกล้องหลังมาพร้อมเซ็นเซอร์จับความลึก LiDAR เป็นฟีเจอร์เด็ดสำหรับการถ่ายรูปบุคคลให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถวัดส่วนสูงของคนได้อย่าง
แม่นยำด้วย พร้อมฟีเจอร์ระบบกันสั่น Sensor Shift ทุกรุ่น ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นตัวช่วยให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่
iPhone 13 ทุกรุ่นเปลี่ยนมาใช้ A15 Bionic ชิปสมาร์ทโฟนที่เร็วที่สุดในโลก มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อน มาพร้อมกับชิปโมเด็มรุ่นใหม่ปี 2021 อย่าง Snapdragon X60 ของ Qualcomm ซึ่งขยายการรองรับสัญญาณ 5G ครอบคลุมคลื่นความถี่ mmWave, sub-6 GHz และ low-band ได้ ไม่เพียงประหยัดพลังงานกว่าเดิมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้การดาวน์โหลดและอัปโหลดรวดเร็วและลื่นไหลขึ้นด้วย ถือเป็นจุดขายสำคัญในรุ่นนี้เลยล่ะ
การอัปเกรดชิปประมวลผลส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานและความอึดที่เหนือชั้นกว่ารุ่นก่อน ในรุ่น iPhone 13 mini และ iPhone 13 ใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มีอัตราการรีเฟรช 60Hz แบตเตอรี่อึดขึ้นมาก โดย iPhone 13 mini สามารถเล่นวิดีโอนานสูงสุด 17 ชั่วโมง แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 19 ชั่วโมง แบตเตอรี่อึดเพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมง
มือถือระดับกลาง iPhone 13 Pro และรุ่นท็อป iPhone 13 Pro Max ใช้จอภาพแบบ Super Retina XDR พร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 120Hz เหมาะกับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงสามารถรองรับการเล่นเกมที่แรงขึ้นเร็วขึ้นและลื่นไหลมากกว่าเดิม สำหรับคอเกมเมอร์ทั้งหลาย ขอแนะนำตัวเลือกดีที่สุดคือ iPhone 13 Pro Max ที่สามารถเล่นวิดีโอนานสูงสุด 28 ชั่วโมง อีกทางเลือกคือ iPhone 13 Pro ราคาย่อมเยากว่ารุ่นท็อปถึง 4,000 บาท เล่นวิดีโอนาน 22 ชั่วโมง สนุกเพลิดเพลินได้เต็มวัน
ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่า iPhone 13 ราคาจะยังคงเดิม แต่ภายหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาก็ปรับขึ้นมาพอสมควร เปรียบเทียบกับสเปกที่อัปเกรดความสามารถหลายด้านและคุณภาพกล้องที่ดีขึ้น โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เต็มวันและแบตเตอรี่อึดยิ่งขึ้นก็ต้องบอกว่าค่อนข้างจะสมเหตุสมผลอยู่บ้าง ทีนี้ก็เหลือแต่เพียงการตัดสินใจเลือกใช้งานของผู้ใช้ระหว่าง 4 รุ่นนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการใช้งานที่เหมาะกับตัวเรา
ที่มาข้อมูล:
-https://www.iphonemod.net/apple-announce-iphone-12-pro-iphone-12-pro-max.html
-https://droidsans.com/iphone-12-series-officially-announced/
-https://thestandard.co/iphone-12-launc-event/