ปัจจุบันการกินยาคุมกำเนิดไม่เพียงเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ได้มีการพัฒนาให้มีผลข้างเคียงน้อยลงและมีประสิทธิภาพด้านอื่นมากขึ้น เป็น ยาปรับฮอร์โมนต่ำ ที่มีคุณสมบัติอื่น ๆ ตามยาปรับฮอร์โมนแต่ละชนิด โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ ee20d, ee30d และ ee35c แต่ละชนิดคืออะไร มีประโยชน์และข้อควรระวังอย่างไร ลองมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ดังนี้
1.ยาปรับฮอร์โมน ee20d เป็นยาแผง 28 เม็ด นิยมกินเป็นแผงแรกสำหรับคนที่เริ่มกินยาคุมกำเนิด ประโยชน์ของยาคุมชนิด ee20d คือ
-ลดสิว ลดผิวมัน แก้ปัญหาสิวระดับปานกลาง
-ลดอาการปวดท้องประจำเดือน
-ลดอาการแปรปรวนทางร่างกายและอารมณ์ฉุนเฉียวก่อนมีประจำเดือน
-มีตัวยาดรอสไพรีโนน ไม่ให้ตัวอ้วนบวมเนื่องจากการคั่งของน้ำในร่างกาย น้ำหนักตัวไม่เพิ่ม
-ปริมาณเอสโตรเจนต่ำ ลดผลข้างเคียงให้น้อยลง ไม่คลื่นไส้ อาเจียน และปวดหัว
-กินยาคุมหมดแผงแล้วเริ่มกินแผงใหม่ได้ทันที ต้องกินยาไปแล้ว 7 วันจึงจะมีฤทธิ์คุมกำหนดได้ผล
2.ยาปรับฮอร์โมน ee30d เป็นยาปรับฮอร์โมนแผง 21 เม็ด กินหมดแผงแล้วเว้นระยะ 7 วันจึงเริ่มแผงกินใหม่ ประโยชน์ของยาคุมชนิด ee30d คือ
-ลดสิว ลดผิวมัน แก้ปัญหาสิวระดับปานกลาง
-ลดอาการปวดท้องประจำเดือน
-มีตัวยาดรอสไพรีโนน ป้องกันตัวบวมน้ำ น้ำหนักตัวไม่เพิ่ม
-เนื่องจากปริมาณเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นมีผลให้เกิดอาการข้างเคียงมากกว่ายาคุมชนิด ee20d จุดเด่นของ ยาปรับฮอร์โมน ชนิดนี้คือคุมกำเนิดทันทีหลังจากกินยาเม็ดแรก
3.ยาปรับฮอร์โมน ee35c เป็นยาปรับฮอร์โมนแผง 21 เม็ด มีฮอร์โมนทุกเม็ด กินหมดแผงแล้วต้องเว้นไป 7 วันก่อนกินยาแผงใหม่ ประโยชน์ของยาคุมชนิด ee35c คือ
-มีส่วนประกอบของไซโปรเตอโรน อะซิเตท ช่วยปรับฮอร์โมนที่ไม่สมดุลภายในร่างกายและลดฮอร์โมนเพศชาย ยาคุมช่วยลดสิว ผิวมันน้อยลง
-ลดอาการขนดกที่เกิดขึ้นในหญิงวัยเจริญพันธุ์เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไป
ยาปรับฮอร์โมนแต่ละชนิดมีข้อดีแตกต่างกันไปควรเลือกคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตัวเรา ประโยชน์หลักคือป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ ฮอร์โมนทุกชนิดเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ลดอาการปวดประจำเดือน สังเกตได้ว่าตัวยาดรอสไพรีโนนในฮอร์โมนชนิด ee20d และ ee30d ช่วยลดปัญหาสิว ลดความมันของผิวหนังและเส้นผมได้ดีระดับหนึ่ง เป็น ยาคุมช่วยหน้าใส แต่ถ้าต้องการเน้นปรับลดฮอร์โมนเพศชายโดยเฉพาะให้ใช้ยาปรับฮอร์โมน ee35c ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวใสไร้สิว
ข้อควรระวังของการกินยาปรับฮอร์โมน
-ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เพื่อเลือกยาที่เหมาะสมกับความต้องการ และไม่ทำให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และใช้ยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
-สำหรับหญิงตั้งครรภ์และแม่ให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม หันมาใช้ฮอร์โมนเดี่ยวที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว ไม่มีเอสโตรเจนที่ส่งผลให้อาการข้างเคียงน้อยลง
-ผู้ป่วยโรคหัวใจ ไมเกรน เบาหวาน โรคตับ โรคมะเร็ง หัวใจขาดเลือด เลือดออกในช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ และคนสูบบุหรี่ ไม่ควรใช้ยาปรับฮอร์โมน
-ก่อนใช้ยาปรับฮอร์โมนควรเรียนรู้วิธีการใช้ยาที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญและกินยาสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ชมเพิ่มเติมที่
https://www.wongnai.com/beauty-tips/ee35c-birth-control-for-acne