เกิดเหตุไหม้ร้านค้าส่งขนาดใหญ่กลางดึกที่บุรีรัมย์ สินค้าและทรัพย์สินในร้านวอดเสียหาย เงินสด 4 แสนบาท ไหม้เสียหาย เคราะห์ดีสาวเจ้าของร้านรู้สึกตัวตื่นกระโดดหนีออกหน้าต่างรอดหวุดหวิด ก่อนไฟโหมลุกไหม้รุนแรง จนท.ระดมฉีดน้ำกว่า 2 ชม.จึงสกัดเพลิงได้ เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 00.20 น. วันนี้ (8 พ.ย.65) ร.ต.อ.เสนอ สุภาษิต รอง สว. (สอบสวน) สภ.ถาวร จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าส่งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านถาวร ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลถาวร , เทศบาลตำบลยายแย้มวัฒนา , เทศบาลตำบลพนมรุ้ง , เทศบาลเมืองนางรอง ,อบต.โคกว่าน , เทศบาลตำบลประโคนชัย , กู้ภัยสว่างจุดเฉลิมพระเกียรติ, กู้ภัยสว่างจุดละหานทราย ร่วมระงับเหตุเพลิงไหม้
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบไฟโหมลุกไหม้ร้านค้าส่งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 160 หมู่ 11 ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยจึงได้เร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่โหมลุกไหม้ร้านค้าส่งดังกล่าว โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงก็เผาสินค้า และทรัพย์สินภายในร้านเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะเงินสดจากการขายของจำนวน 400,000 บาท ที่เก็บไว้ภายในร้านถูกไฟไหม้เสียหาย ส่วนสินค้า และทรัพย์สินภายในร้านที่ถูกไฟไหม้ ก็คาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท
จากการสอบถาม น.ส.จุฑารัตน์ ไขสาร อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ขณะกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง ช่วงกลางดึกก็ได้ยินเสียงดัง จึงตกใจตื่นและรีบลุกขึ้นมาดูก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในร้าน ตนจึงรีบกระโดดหนีออกมาทางหน้าต่างเพื่อเอาตัวรอด โดยไม่สามารถเอาทรัพย์สินอะไรออกมาได้เลย โดยเฉพาะเงินสดที่เก็บไว้ในร้าน 4 แสนบาทก็ถูกไฟไหม้เสียหาย ส่วนสาเหตุก็น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ด้านนายปรีดา คำนิล หัวหน้างานป้องกัน เทศบาลตำบลถาวร บอกว่า ตนได้รับแจ้งเวลาประมาณเที่ยงคืน 20 นาที ก็รีบระดมเจ้าหน้าที่พร้อมระดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุทันที พร้อมประสานดับเพลิงจาก อบต. เทศบาล และกู้ภัยจากหลายแห่งเข้าร่วมระงับเหตุด้วย เพราะไฟโหมลุกไหม้รุนแรง เนื่องจากเป็นร้านค้าขนาดใหญ่มีสินค้าหลายอย่างที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และได้ยินเสียงถังแก๊สระเบิดดังหลายรอบ ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าส่งในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์รายวัน.สยามประชา