‘คนไทย เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก’
นิยามข้างต้นอาจฟังดูคล้ายไกลเกินเอื้อม แต่หากมองถึงความเป็นจริง ณ ปัจจุบันนี้แล้ว แทบจะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป เมื่อคนไทยสามารถทลายขีดจำกัดต่างๆ จนก้าวไปสู่จุดที่ได้รับการยอมรับและเปล่งประกายเฉิดฉายบนเวทีระดับโลก เช่นเดียวกับ ‘King Power’ ที่ยึดถือนิยามนั้นเช่นกัน พร้อมลงมือผลักดันเหล่าคนไทยผู้มีศักยภาพทั้ง ด้านกีฬา (Sport Power) ด้านดนตรี (Music Power) และ ด้านชุมชน (Community Power) ภายใต้โครงการ ‘KING POWER THAI POWER พลังคนไทย’ – คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย
และสำหรับในปีนี้ที่เป็นย่างก้าวสู่ปีที่ 6 ของโครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขายังคงพร้อมให้การสนับสนุนคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฟากฝั่งธุรกิจที่ดูแล้วมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมีหลากหลายแบรนด์สินค้าที่หยิบจับเอาเอกลักษณ์ความเป็นไทยใส่ลงไปในตัวผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่า ชนิดที่เรียกได้ว่ามาตรฐานเกินกว่าแค่เป็นสินค้า OTOP อาทิ THANIYA1988 แบรนด์เครื่องเบญจรงค์ที่จับคู่กับเทียนหอมได้อย่างลงตัว, ETHNICA แบรนด์กระเป๋าสไตล์ New-Boho โดยฝีมือชุมชนชาวกะเหรี่ยง, และ Horoscarf แบรนด์ผ้าพันคอ 12 นักษัตร เอาใจสายมูเตลู
The Momentum จับมือกับโครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ชวนผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ ฐาณิญา เจนธุระกิจ, ชัยวัฒน์ เดชเกิด, และ ดร. ณัฐธิดา ภู่จีบ 3 ผู้บริหารแบรนด์ไทยดังกล่าว ถึงที่มาที่ไปและแนวคิดในการพาผลิตภัณฑ์ให้โด่งดังไปสู่เวทีระดับโลก
เผยเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านเครื่องเบญจรงค์ พร้อมสูดกลิ่นหอมจากเทียนไปกับแบรนด์ THANIYA1988
ถ้าจะยกตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์ ‘THANIYA1988’ ว่าถึงขั้นไหน คงต้องขอหยิบยกตัวอย่างเมื่อปี 2562 ที่ผลิตภัณฑ์เครื่องเบญจรงค์และเทียนหอมจากแบรนด์ดังกล่าว ถูกนำไปใช้เป็นของขวัญแด่แขกผู้มีเกียรติในงานแฟชั่นโชว์ CHANEL Cruise 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และแฟชั่นวีกของ Louis Vuitton ที่มิลานและเซี่ยงไฮ้ ด้วยความพิถีพิถันผสมผสานระหว่าง งาน Art x Craft x Contemporary x Oriental x Elegance x Modern ให้เข้ากับความเป็นสากลและความเป็นไทย ตั้งแต่การออกแบบโลโก้โปรดักต์สินค้าที่ใช้ตัวเลขไทยเข้ามาเป็นกิมมิกหลัก จึงไม่น่าแปลกใจหากแบรนด์เครื่องหอมนี้จะดังไปไกลระดับโลก
ขอย้อนความกลับไปเมื่อปี 2555 ก่อนแบรนด์ THANIYA1988 จะถือกำเนิด ‘แม็ทช์’ – ฐาณิญา เจนธุระกิจ ผู้ก่อตั้ง เพิ่งจะเรียนจบจาก University of Warwick ประเทศอังกฤษหมาดๆ และมุ่งหน้ากลับมายังบ้านเกิด ด้วยความตั้งใจอยากกลับมาสานต่องานกิจการของครอบครัว ที่ทำกิจการเครื่องหอม (OEM) อยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยใช้วิชาความรู้ใหม่ที่เพิ่งได้มา และมีอยู่แล้วจากการเรียนปริญญาโทวิศวกรรมอุตสาหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทว่านั่นไม่ใช่แค่การสานต่อธรรมดา เพราะเธอต้องการสร้างแบรนด์ให้มีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“จริงๆ เราซึมซับงานหัตถกรรมมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นพี่ๆ ที่โรงงาน เห็นคุณแม่ทำมา ตัวแม็ทช์เองเรียนสายวิศวะ แต่ชอบด้านศิลปะ ชอบความเป็นไทย ก็เลยคิดว่าอยากทำแบรนด์ เพราะเรามีศักยภาพ มีทีมงานที่พร้อม มีองค์ความรู้ด้านเครื่องหอมมาพอสมควร เราน่าจะทำแบรนด์ของตัวเองที่นำความเป็นไทย งานคราฟต์ งานอาร์ตมาบวกกัน จนมาเป็นสินค้าที่คนไทยและคนต่างประเทศยอมรับ”
https://themomentum.co/brandedcontent-king-power-thai-power/