หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: “แกงส้ม” ของอร่อย หนึ่งในแกงไทยต้านมะเร็ง  (อ่าน 20 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 13 ก.พ. 23, 14:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ในหลายๆ งานวิจัย มักพบว่า สาเหตุของการเกิดมะเร็งล้วนมาจากไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต และการกินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของอาหารการกินที่ได้รับการค้นพบว่า มีหลายอย่างที่อาจกลายเป็นสารก่อมะเร็งให้เกิดขึ้นในร่างกาย (อาหารบางอย่างกินผิดเวลาอาจเกิดโทษได้ https://www.smk.co.th/newsdetail/212) แต่ขณะเดียวกันก็มีอาหารหลายชนิดที่ช่วยต้านมะเร็งได้เช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่แกงประเภทต่างๆ ของไทย แล้วแกงชนิดไหนบ้างที่ถูกค้นพบว่า ช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี

สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากการวิจัยโดยนำน้ำแกงของไทย 5 ชนิดไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว เปรียบเทียบกับการให้ยารักษามะเร็ง แล้วดูผลจากการตายของเซลล์มะเร็ง พบว่า ยารักษามะเร็งสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ประมาณ 70% ในขณะที่แกงไทยเองก็มีสรรพคุณต้านมะเร็งอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

1. แกงเลียง
จากการศึกษาพบว่า น้ำแกงเลียงที่ได้มาจากผักหลากชนิดและเครื่องแกงที่อุดมไปด้วยสมุนไพร สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45%

2. แกงส้ม
สำหรับแกงส้มที่มีสมุนไพรหลากชนิดในเครื่องแกง พบว่า น้ำแกงส้มสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% ในอัตราที่เท่ากันกับแกงเลียง

3. แกงป่า
น้ำแกงป่าเผ็ดร้อนจากกระชาย หอมแดง พริก และใบกะเพรา สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% เทียบเท่ากับแกงเลียงและแกงส้มเช่นกัน

4. ต้มยำ
แม้ไม่ใช่อาหารประเภทแกง แต่ต้มยำก็มีสมุนไพรอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริก อยู่ด้วย ดังนั้นจากการศึกษาจึงพบว่า น้ำต้มยำสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 30%

5. แกงเหลือง
น้ำแกงเหลืองที่มีส่วนประกอบของขมิ้นและสมุนไพรชนิดอื่น ๆ มีอัตราฆ่าเซลล์มะเร็งอยู่ที่ 25%

อย่างไรก็ตาม การตายของเซลล์มะเร็งจะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ การตายแบบธรรมชาติ ที่เซลล์มะเร็งจะตายทีละเซลล์โดยไม่กระทบกับเซลล์รอบข้าง และการตายแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงเซลล์มะเร็งจะถูกกระตุ้นจนเกิดการอักเสบ บวม และแตกตายในที่สุด โดยที่การแตกของเซลล์มะเร็งนั้น จะทำให้เซลล์รอบข้างได้รับผลกระทบและตายไปด้วย ซึ่งจากการวิจัยได้ลงลึกถึงวิธีตายของเซลล์มะเร็งก็พบว่า การตายแบบผิดธรรมชาติพบได้น้อยที่สุดในแกงเลียง รองลงมาคือต้มยำ แกงส้ม แกงป่า และแกงเหลือง

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า แกงเลียงเป็นอาหารต้านมะเร็งที่ดีที่สุด รองลงมาคือแกงส้มและแกงป่านั่นเอง

ทั้งนี้ ทีมวิจัยซึ่งมีความสนใจในสรรพคุณของแกงเลียงอยู่แล้วนั้น ก็ได้ทำการต่อยอดงานวิจัยกับหนูทดลองด้วย โดยทีมวิจัยได้ทำแกงเลียงแล้วนำไปเข้าสู่กระบวนการอบให้แห้ง จากนั้นก็นำแกงเลียงอบแห้งไปป้อนหนู โดยทีมวิจัยได้แบ่งหนูทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นหนูที่เลี้ยงตามปกติ กลุ่มที่สองเป็นหนูที่ให้สารก่อมะเร็ง และกลุ่มที่สามเป็นหนูที่ให้แกงเลียงอบแห้งมาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งการทดลองนี้ใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ โดยในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ทางทีมวิจัยจะชักนำให้หนูทดลองทั้งหมดได้รับสารก่อมะเร็ง ซึ่งเมื่อครบ 6 สัปดาห์ หลังจากผ่าตัดลำไส้หนูมาดูก็พบว่า หนูที่ไม่ได้รับแกงเลียงเลย จะมีโอกาสเกิดเซลล์ผิดปกติมากกว่าหนูที่ได้รับแกงเลียงกว่า 50%

อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษากับหนูทดลอง ยังไม่ได้เคยทดลองในคน และทีมวิจัยยังชี้แจงชัดว่า แกงทั้ง 5 ชนิดนี้ไม่สามารถรักษามะเร็งได้ เพียงแต่อาจช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งได้บ้างเท่านั้น และยังไงการรักษามะเร็งด้วยยาจึงยังเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ไม่ควรกินแกงเหลืองรักษามะเร็ง!
นอกจากนี้ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้จะมีงานวิจัยรองรับในเบื้องต้น แต่อาหารก็คืออาหาร ยาก็คือยา และอาหารทดแทนยาไม่ได้ เพราะฉะนั้นประสิทธิภาพในการรักษาโรคย่อมแตกต่างกัน และน้ำแกงเหลืองนั้น แม้จะมีส่วนผสมที่สามารถทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ แต่ก็เป็นการที่เซลล์ตายแบบไม่ธรรมชาติ (Necrosis) คือจะเกิดการอักเสบของเซลล์มะเร็งก่อนแล้วแตกออก ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการตายแบบธรรมชาติ (Apoptosis) หรือแบบที่ทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อแล้วหายไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำร้ายเซลล์ดีอื่นๆ อย่างที่พบในน้ำแกงเลียง จะส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่า

ในแง่ของการรักษาโรคมะเร็งนั้น ผู้ป่วยไม่ควรคาดหวังว่าการรับประทานแกงเลียงหรือแกงเหลืองแล้วจะส่งผลดีมากไปกว่าการใช้ยา ผู้ป่วยมะเร็งควรไปพบแพทย์และทำการรักษาให้แน่ใจก่อนว่า เนื้อร้ายได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว หลังจากนั้น จึงค่อยปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดยเฉพาะพฤติกรรมการรับประทาอาหาร โดยเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมร่างกายให้สามารถปกป้องหรือลดความเสี่ยงหากต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน

ผลการวิจัยนี้ แม้จะพบว่าการรับประทานแกงเลียงมีประโยชน์ในแง่ของการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง แต่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องรับประทานแกงเลียงทุกวันเพราะยังมีอาหารไทยอีกหลายอย่างที่ประกอบไปด้วยพืชผักสมุนไพร คล้ายๆ กับแกงเลียง เช่น แกงส้ม แกงป่า น้ำพริกผักจิ้ม เป็นต้น เพื่อให้มีความหลากหลาย เพราะการรับประทานอาหารซ้ำๆ อาจก่อให้เกิดการตกค้างของสารพิษ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถขับทิ้งหรือทำลายได้ทัน

อีกทางเลือกหนึ่งของการคุ้มครองปัญหาทางสุขภาพเพื่อคุณ ประกันภัยโรคมะเร็งจากสินมั่นคงประกันภัยที่สามารถลดความเสี่ยงทางการเงิน จ่ายเป็นเงินก้อนเต็มทุนประกันทันทีที่ตรวจพบโรคมะเร็งครั้งแรก สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/producthealthdetail/6 หรือ โทร.1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม