หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ในปี 2565  (อ่าน 10 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 22 ก.พ. 23, 14:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

รายได้รวมเกิน 272 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก

ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ (Dubai International Financial Center - DIFC) ซึ่งเป็นศูนย์การเงินชั้นนำระดับโลกในภูมิภาคตะวันออกกลาง, แอฟริกา และเอเชียใต้ ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ในปี 2565

จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนทั้งหมดกับ DIFC เพิ่มขึ้นแตะระดับ 4,377 แห่งในปี 2565 เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 ที่ระดับ 3,644 แห่ง และในปี 2565 นั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีบริษัทใหม่เกิน 1,000 แห่งมาจดทะเบียนกับ DIFC โดยอยู่ที่ 1,084 แห่ง

DIFC รายงานผลการดำเนินงานทางการเงินที่โดดเด่น โดยในปี 2565 DIFC มีรายได้รวมเกิน 272 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง แตะระดับ 288 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2564 ที่ระดับ 244 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้ที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับประสิทธิภาพการดำเนินงานส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% จากปี 2564 ที่ระดับ 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 4.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ DIFC

สินทรัพย์ธนาคารทั้งหมดที่ DIFC คงระดับที่ 1.99 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และในฐานะศูนย์กลางการบริหารความมั่งคั่งและสินทรัพย์ของตลาดเกิดใหม่ระดับโลกแล้ว เหล่าผู้บริหารพอร์ตลงทุนของ DIFC ได้ลงทุนไป 1.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ 1.51 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) เพิ่มขึ้น 78% แตะระดับ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในบรรดาหน่วยงานทั้งหมด 4,377 แห่ง DIFC เป็นที่ตั้งของธนาคาร 17 แห่งจาก 20 อันดับแรกของโลก, ธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบระดับโลก 25 แห่งจาก 30 อันดับแรกของโลก, บริษัทประกันภัย 5 แห่งจาก 10 อันดับแรก, บริษัทจัดการสินทรัพย์ 5 แห่งจาก 10 อันดับแรก และยังมีสำนักงานกฎหมายและการให้คำปรึกษาชั้นนำระดับโลกอีกหลายแห่งด้วย

ภาคฟินเทคและนวัตกรรมได้กลายเป็นภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของ DIFC โดยมีลูกค้าใหม่ 291 ราย ปัจจุบัน บริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 686 แห่ง ตั้งแต่บริษัทสตาร์ตอัปไปจนถึงบริษัทยูนิคอร์นระดับโลกต่างก็ประจำอยู่ใน DIFC

ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินและนวัตกรรมทั้งหมด 1,369 แห่งดำเนินงานภายใน DIFC เพิ่มขึ้น 22% ในปี 2565 โดยมีบริษัทฟินเทคและบริษัทนวัตกรรมแห่งใหม่ 291 แห่งเข้าร่วมในปี 2565 เพิ่มขึ้น 36% รวมเป็น 686 แห่ง

ฯพณฯ เอสซา คาซิม (Essa Kazim) ผู้ว่าการ DIFC แสดงความคิดเห็นว่า "เศรษฐกิจของดูไบเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ DIFC ภูมิใจที่ได้เป็นผู้สนับสนุนต่อ GDP ของดูไบและเป็นผู้สร้างการจ้างงานรายสำคัญ โดยเป้าหมายของเราในปี 2566 คือการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตโดยต่อยอดจากสถานะของเราที่แข็งแกร่งอยู่แล้วในฐานะช่องทางสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายและเติบโตภายในตลาดตะวันออกกลาง, แอฟริกา, เอเชียใต้ (MEASA) ที่มีขนาดใหญ่ และดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมในภาคการเงินที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)"

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/2006078/DIFC.jpg
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1874040/DIFC_Logo.jpg

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม