|
สวัสดีครับ...ชาว Sanook ทุกท่าน
หลังจากลงเรื่องราว (ดองเค็ม) ที่ Primo Posto และ Palio เขาใหญ่ไปคราวก่อน และก็มีเสียงตอบรับดีพอสมควร วันนี้ผมขอนำเสนอทริปสู่ดินแดนหิมาลัย ณ ประเทศเนปาล
ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะไปเนปาล เพราะไม่มีเงินจะไปเที่ยว (5 5 5 +) แต่โดนเชิญไปบรรยายในที่ประชุมของ Pacific Asia Travel Association (PATA) เกี่ยวกับ Adventure Travel and Responsible Tourism 2010 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และหัวหน้าผมก็ไม่รู้อีท่าไหน...ไว้ใจส่งผมไปแทนซะงั้น
เรื่องราวก็เป็นไปด้วยประการฉะนี้...
ขออนุญาติเปิดกระทู้ด้วยภาพมุมสูงของกรุงกาฎมัณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาลละกันนะครับ
 ^ จะเห็นว่า...เป็นเมืองหลวงที่ค่อนข้างแออัดใช้ได้เลยทีเดียว
สามารถเข้าไปอ่าน blog ของผมได้ที่ http://footprintsfollower.blogspot.com/ นะครับ มีที่เที่ยวอื่นๆ อีกเยอะ
|
|
|
|
Tags: |
|
|
|
|
และแล้วก็ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง...แน่นอนว่าผู้โดยสาร Business Class ได้ขึ้นก่อน (ทั้งลำมีอยู่ 2 คนเอง) ทำให้ห้องโดยสารชั้นนี้โล่งมากราวกับเป็นห้องส่วนตัวของผมไปเลย กว่าเครื่องจะออกก็มืดแล้ว...ดังนั้นความหวังที่จะได้เห็นเทือกเขาหิมาลัยจากเครื่องบินก็ต้องยกยอดไปเป็นตอนขากลับแทน
นั่งไปซักพักก็ได้รับน้ำส้มคั้นแก้วใหญ่ พร้อมทั้งเมนูเครื่องดื่มและอาหารให้เลือก ผมสั่ง Vodka Tonic มาหนึ่งแก้วจะได้หลับสบายๆ เพราะต้องบินหลายชั่วโมงพอสมควร พอเครื่องไต่ระดับที่นิ่งแล้วก็เริ่มเสิร์ฟอาหารครับ
 ^ อาหารที่เสิร์ฟเพื่อเรียกน้ำย่อย (แค่นี้ก็จะอิ่มแล้ว)
 ^ อาหารจานหลัก ใหญ่มากนะครับ อร่อยมากด้วย กินกันจนพุงปลิ้นเลยทีเดียว
หลังจากกินอิ่มแล้ว...ผมก็หลับสนิทครับ เหนื่อยเพลียกับการเดินทางและรอคอยเอามากๆ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็กำลังจะลดระดับลงสู่สนามบินนานาชาติตรีภูวัน แห่งเนปาลแล้วครับ กัปตันประกาศสภาพอากาศภายนอกว่าแจ่มใส (แต่ดึกแล้ว) และอุณหภูมิภายนอก 11 c!!
|
|
Tags: |
|
|
|
|
อากาศก็หนาวเย็นกว่าที่กรุงเทพพอสมควร (ตอนออกจากกรุงเทพ 32 c น่ะครับ) และที่สำคัญต้องเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารเอง ไม่มีรถมารับเหมือนที่อื่นๆ (เหอๆ) เมื่อเข้าสู่อาคารแล้วก็ต้องวิ่งแข่งกันไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรงนี้แหละครับที่จะวุ่นวายหากไม่มี Visa มาจากเมืองไทย เพราะเจ้าหน้าที่มีเพียง 3 คน แถม 2 ใน 3 ก็เป็นช่องสำหรับผู้ถือ passport ของ Nepal, Bangladesh, India, และ Bhutan เหลือเพียงช่องเดียวที่เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป
โชคดีที่ผมทำ Visa มาเรียบร้อย ก็เลยได้ผ่านไปรอรับกระเป๋าอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่ต้องยืนทนหนาวนาน เพราะในอาคารผู้โดยสารไม่มีเครื่องทำความร้อน (คาดว่าอาจจะมีแต่ปิดแล้ว เพราะตอนนั้นก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว)
อ้อ...เวลาที่เนปาลจะช้ากว่าที่เมืองไทย 1 ชั่วโมง 15 นาทีครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีติ่ง 15 นาทีด้วย
ผมขึ้นรถที่ทาง PATA จัดไว้ให้ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งก็อยู่ใจกลางเมืองเลยทีเดียว จากนั้นก็หลับสนิทครับ...เช้ารุ่งขึ้นต้องไปประชุมแต่เช้าเลย
 ^ Soaltee Crowne Plaza โรงแรมที่เป็นที่ประชุมครับ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
Bhaktapur (ภักตะปูร์) หรือชื่อแบบไทยว่า ภักดีปุระ แปลว่า เมืองแห่งผู้ภักดี เป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศเนปาลเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งสมัยนั้นเนปาลมีเมืองหลวง 3 เมือง ได้แก่ Kathmandu (กาฎมัณฑุ), Bhaktapur (ภักตะปูร์) และ Patan (ปาทาน หรือ Lalitapur (ลลิตปูร์)) แต่ละเมืองปกครองโดยกษัตริย์ที่เป็นพี่น้องกัน ทั้งสามเมืองอยู่ในหุบเขาเดียวกัน หรือว่าง่ายๆ ก็คืออยู่ติดกันน่ะแหละครับ
Bhaktapur เป็นเมืองมรดกโลกที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ ของโบราณต่างๆ ยังคงอยู่ในจุดที่มันเคยอยู่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งถ้าเป็นที่อื่นคงโดยย้ายไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์อย่างดีไปแล้ว ถือเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ
 ^ ระหว่างเมือง Kathmandu และ Bhaktapur มีการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมกันอยู่เยอะ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ถึงแล้วครับ...เมืองภักตะปูร์ เนื่องจากเป็นเมืองมรดกโลก...นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าชมเมืองด้วยครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่เพราะทางที่ประชุมออกเงินให้ โดยจ่ายครั้งเดียวสามารถมากี่วันก็ได้ ในเมืองเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมายครับ  ^ เดินมานิดเดียวก็เจอวิหารเล็กๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่มีหญิงคนหนึ่งกำลังสวดมนต์อยู่ ผมเลยต้องแอบถ่ายไกลๆ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนขอเงิน
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ประตูเมือง...จุดขายตั๋วจะอยู่ข้างๆ ประตูนี่แหละครับ  ^ พ้นประตูเมืองมาก็จะเป็น Bubar Square หรือประมาณสนามหลวงบ้านเราน่ะครับ ด้านหนึ่งจะเป็นพระราชวังฯ ส่วนรอบๆ ก็จะเป็นวัดของเทพต่างๆ ของศาสนาฮินดู
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ทางเข้าพระราชวัง แม้จะเป็นประตูเล็กๆ แต่มีการประดับอย่างสวยงาม  ^ ยามเย็นก็จะมีผู้คนมานั่งคุยกัน เป็นเหมือนจุดนัดพบประจำเมือง
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ดูความละเอียดของการแกะสลักไม้บนหน้าต่างของชาวเนปาลซิครับ ละเอียดมาก นี่ขนาดอายุกว่า 500 ปียังดูสวยงามอยู่เลย  ^ ที่ผนังก็มีการแกะสลักเป็นอักษรภาษาสันสกฤตโบราณ ซึ่งอ่านไม่ออก 5 5 5 +
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ พระราชวังหน้าต่าง 55 บาน  ^ เจดีย์ทรงเนปาลแท้ๆ ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดเจดีย์ลักษณะอื่นๆ ในประเทศต่างๆ ของเอเชียในเวลาต่อมา
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ภาพนี้ถ่ายโดยที่ผมปีนไปบนเจดีย์อีกองค์หนึ่ง ขาขึ้นสบายมากครับ แต่ขาลงเสียววาบเลย เพราะบันไดชันมาก (และสูงมาก) ที่สำคัญก็คือไม่มีราวบันไดซะด้วย!!  ^ เดินไปไหนมาไหนในเนปาลก็ระวังจะเหยียบหรือข้ามพื้นที่ลักษณะประมาณนี้เข้าล่ะครับ เพราะนี่เป็นแท่นบูชาเทพที่กระจายอยู่ทั่วเมือง
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ อากาศเย็นๆ แบบนี้ น้องหมาน้อยนอนขดขนฟูเชียว นอนยิ้มอีกต่างหาก อิอิ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
|
|
เช้าวันที่ 3 ก.พ. ผมต้องทำการบรรยายถึง 2 หัวข้อด้วยกัน และด้วยความที่เป็นผู้บรรยายที่อายุน้อยที่สุดในงาน (และตำแหน่งต่ำต้อยที่สุดด้วย คนอื่นๆ เป็น CEO งี้ Managing Director งี้) ทำให้ผู้เข้าประชุมให้ความสนใจรอฟังถึง 200 คน โอว...จะมารอฟังกันทำไมเนี่ย ไม่ออกไปนั่งกินชากาแฟกันเร้อ...
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี...หลังเสร็จสิ้นการประชุมผมขอปลีกตัวไปเที่ยว "คนเดียว" โดยว่าจ้างคนขับรถไว้ประจำตัวเลย 1 คน เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน สนนราคาเหมาจ่าย 100 USD ก็ถือว่าคุ้มนะครับ ได้ทั้งนักขับฝีมือเยี่ยมและเป็นไกด์ในตัว อิอิ
ผมจะไปพักรีสอร์ทเล็กๆ ที่หมู่บ้าน Nagarkot (นาการ์ก๊อต) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ บนเทือกเขาหิมาลัย ห่างจากกาฎมัณฑุประมาณ 2 ชั่วโมง และห่างจากภักตะปูร์เพียง 1 ชั่วโมง โดยสามารถมองเห็นยอดเขา Everest ได้ด้วย!!
 ^ ระหว่างทางยังคงเห็นการทำเกษตรแบบขั้นบันไดอยู่ริมสองข้างทาง
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ถนนไปยังหมู่บ้านนาการ์ก๊อตราดยางมะตอยเรียบร้อยก็จริง แต่แคบมากและเป็นโค้งขึ้นเขาที่ทรหดยิ่งกว่าแม่ฮ่องสอนหลายเท่านั้น ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าเมารถก็เตรียมยาแก้เมาและถุงพลาสติกไว้ได้เลย ได้ใช้งานแน่ๆ แต่สำหรับผมประสาทแข็งพอสมควรก็เลยไม่เป็นอะไรมาก
 ^ โค้งเยอะมาก ทางก็แคบ
 ^ ยิ่งตอนพระอาทิตย์ใกล้ๆ จะตกเนี่ย วิวสวยมากเลยครับ แต่อากาศก็หนาวมากเช่นกัน
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ และแล้วก็มาถึง Nagarkot Cottage ตอนพระอาทิตย์ตกพอดี  ^ จากห้องที่ผมพัก จะมองเห็นวิวยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ และถูกแดดฉาบเป็นสีทองด้วย
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ต้องขอท้าวความก่อนว่าทำไมผมถึงเลือกพักที่ Nagarkot Cottage ทั้งๆ ที่มีที่พักอื่นๆ อีกเยอะแยะ
ประการแรกเลย...ผมพยายามจองห้องพักที่อื่นแล้ว แต่ว่าเต็มหมดเลย เพราะว่าเป็นช่วง high ของที่เนปาล
ประการที่สอง...Nagarkot Cottage เพิ่งเปิดใหม่หลังจากปิดปรับปรุงอยู่นาน และไม่มีแขกเลย น่าจะมีความเป็นส่วนตัวสูง
ประการที่สาม...ผมบังเอิญพบกับเจ้าของที่นี่ตอนประชุม เค้าก็เลยให้ผมพักฟรี
จากเหตุผลทั้ง 3 ประการ (โดยเฉพาะประการสุดท้าย) ทำให้ผมไม่ลังเลที่จะพักที่ Nagarkot Cottage ครับ ข้อแม้เพียงข้อเดียวที่ผมต้องทำก็คือ...กินอาหารที่โรงแรมทุกมื้อ ซึ่งผมก็โอเค จะได้ไม่ต้องไปเดินหาของกินท่ามกลางอากาศหนาวเกือบติดลบ
 ^ คืนนี้ฝากท้องที่นี่คร๊าบ ห้องอาหารของโรงแรม เป็นแขก VIP มากๆ อ่ะ พักอยู่คนเดียวเลย
ที่หมู่บ้าน Nagarkot แห่งนี้จะมีไฟฟ้าใฟ้ใช้งานเฉพาะ 3 ทุ่ม ถึง 9 โมงเช้าเท่านั้น ดังนั้นช่วงเวลาที่เหลือก็ต้องจุดเทียนเพื่อให้เกิดแสงสว่าง และก่อไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน
 ^ ระหว่างรออาหารก็ต้องนั่งผิงไฟเพื่อความอบอุ่น
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ตอนอยู่ที่โรงแรมใน Kathmandu ผมก็ได้กินอาหารเนปาลีแบบที่ไม่ค่อยจะแท้เท่าไหร่ เพราะมีการดัดแปลงให้ชาวต่างชาติคุ้นเคย มาถึงนี่ผมเลยสั่งอาหาร "เนปาลีแท้ๆ" เอาแบบที่คนเนปาลกินกันประจำ แล้วก็สมใจอยากครับ
 ^ อาหารเยอะมาก ราวกับกินกัน 3 คน แต่ผมเหมาคนเดียวเรียบ...อร่อยมาก
กินเสร็จก็ต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เช้าเค้าจะพาผมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขา แต่ปัญหาในการนอนอยู่ตรงที่ "ไม่มีฮีตเตอร์!!" ตลกละ...อากาศติดลบขนาดนี้แต่ไม่มีเครื่องทำความร้อน แล้วจะให้นอนกันยังไง???
Aakas (พนักงานที่คอยบริการผมแบบ VIP มาก) เอากระเป๋าน้ำร้อนมาให้ผม แล้วบอกว่า "ให้เอานี่ไปนอนกอดเอาไว้ใต้ผ้าห่ม แล้วระวังอย่าให้ผ้าห่มมีช่องเปิดเด็ดขาด" เอาวะ...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วลองดูซักตั้งละกัน ปรากฏว่าใช้ได้แฮะ อุ่นกว่าที่คิดเยอะเลย แต่อย่างที่ Aakas บอกจริงๆ แหละครับ...ถ้าผ้าห่มมีช่องเปิดเมื่อไหร่ไอเย็นทะลักเข้ามาเต็มที่เลยครับ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
และแล้วค่ำคืนอันหนาวเหน็บก็สิ้นสุดลง...
หกโมงเช้าผมได้รับสัญญาณปลุกจากการเคาะประตูห้อง (เรียกว่าทุบดีกว่าเพราะดังมาก) ผมรีบล้างหน้าแปรงฟันด้วยน้ำประปาที่เย็นยิ่งกว่าน้ำที่เราเอาออกมาจากตู้เย็น (เสียวฟันมากๆ ขอบอก) แล้วรีบไปขึ้นรถเพื่อขับไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งอันที่จริงอยู่ห่างจากโรงแรมแค่ไม่กี่กิโลเมตร แต่ด้วยอากาศที่หนาวจัดอาจทำให้เราเดินไปไม่ถึง เลยจำเป็นต้องขับรถไป
 ^ มีคนมาดูก่อนหน้าเราด้วย แต่ก็ไม่ได้มีคนพลุกพล่านเท่าไหร่
 ^ มีคราบหิมะจางๆ เกาะอยู่เต็มไปหมด ทำให้ลานชมวิวขาวโพลนไปหมดเลย สวยดีครับ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ก่อนพระอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้าและทิวเขาหิมาลัย ก็จะทอแสงย้อมยอดเขาเป็นสีทองให้เราได้เห็นก่อน  ^ พอพระอาทิตย์ขึ้น...ความอบอุ่นก็เริ่มเข้ามาอาบร่างกายคลายหนาวได้บ้าง
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ทนหนาวไม่ไหวครับ มือเท้าชาไปหมดแล้ว ถ้าอยู่ต่ออาจโดนน้ำแข็งกัดได้ อีกอย่างนึงก็หิวด้วยเพราะตื่นมาเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่น้ำเปล่า ขอกลับไปหาอะไรกินที่โรงแรมดีกว่า จะได้นั่งผิงไฟด้วย
 ^ กลับมากินอาหารเช้าแบบเนปาลีที่โรงแรมดีกว่า
 ^ กินอิ่มแล้วก็ขอเก็บบรรยากาศรอบๆ โรงแรมซะหน่อย ก่อนจากลา
|
|
Tags: |
|
|
|
|
แล้วก็ถึงเวลาโบกมือลา Nagarkot ครับ วันนี้โปรแกรมตะลอนทัวร์กาฎมัณฑุเต็มวันเลย เดี๋ยวจะไปไม่ทัน ค่าเสียหายทั้งหมดก็ประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น (ถือว่าไม่แพงมาก) ประทับใจสุดๆ เลยครับกับที่นี่ ถ้ามาเนปาลอีกผมจะไปพักที่นี่อีกครั้ง
 ^ ดูกันชัดๆ ว่าถนนแคบแค่ไหน ดูเหมือนเลนเดียว แต่ต้องวิ่งสวนกันนะครับ
จากรูปด้านบนจะเห็นรถสองแบบที่วิ่งเส้นทางเดียวกัน คันแรกก็คือ Local Bus ราคาถูกมาก คนแน่นไปจนถึงหลังคา วิ่งไปกลับระหว่าง Nagarkot - Bhaktapur ทั้งวันครับ ส่วนคันหลังนั่นคือ Tourist Bus รับเฉพาะนักท่องเที่ยว วิ่งไปกลับระหว่าง Nagarkot - Kathmandu แล้วแต่ว่าจะมีคนจองไว้หรือไม่ ต้องตรวจสอบกับที่ซื้อตั๋วในเมืองเอาเอง
|
|
Tags: |
|
|
|
|
อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าเราจะไปทัวร์สถานที่สำคัญๆ รอบเมืองหลวงของเนปาลกันครับ ดังนั้นแล้วผมให้ B.K. (คนขับรถที่จ้างมา) วางแผนเส้นทางให้ โดยเราจะเริ่มจากสถานที่แรกซึ่งนั่นก็คือ
วัดปศุปตินาถ (Pashupatinath Temple) อันเป็นสถานที่เผาศพของคนฮินดู
 ^ สังเกตดีๆ จะเห็นศพอยู่ในห่อผ้าเหลืองๆ ด้วย
การเผาศพของคนฮินดูจะมีการแบ่งแยกวรรณะด้วย โดยวรรณะสูงก็จะได้รับสิทธิ์ในการเผาใกล้ๆ วัด ส่วนวรรณะที่ต่ำกว่าก็จะต้องกระเถิบไกลออกไป แต่สุดท้ายทุกศพก็จะโดนผลักลงแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นหลังผ่านการเผาจนครบกำหนดเวลาแล้ว
 ^ ที่นี่จะมีการเผาศพกันริมแม่น้ำที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ตามเจดีย์ต่างๆ ก็จะมีการแกะสลักเรื่องราวของกามสูตร สอนผู้คนอย่ามากชู้มากรัก (ติดเรทนิดนึง) หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อพิธีสะตี ซึ่งเป็นพิธีประกอบการเผาศพผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว โดยภรรยาต้องกระโดดลงไปในกองไฟที่กำลังเผาศพของสามีอยู่ ปัจจุบันพิธีดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฏหมายไปแล้ว เหลือแต่เพียงจุดที่เคยประกอบพิธีดังกล่าว  ^ ลานประกอบพิธีสะตี
|
|
Tags: |
|
|
|
|
จากนั้นไปต่อกันที่สถูปโพธินาถ (Bodhanath Stupa) ซึ่งเป็นสถูปที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ตั้งอยู่กลางใจเมืองหลวงเลยครับ
 ^ เป็นสถูปของศาสนาพุทธนะครับ
 ^ ดวงตาที่วาดไว้นี่เป็นตัวแทนดวงตาของพระเจ้าตามความเชื่อแบบฮินดู เพราะศาสนาพุทธเราไม่มีพระเจ้า (มีแต่ศาสดาคือองค์พระพุทธเจ้า)
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ เวลาเดินวนรอบสถูปสามรอบ (คล้ายๆ เวียนเทียน) ก็ให้หมุนวงล้อเหล่านี้ไปด้วย  ^ นกพิราบเยอะไม่แพ้สนามหลวงบ้านเราเลย
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ต่อไปก็ถึงคิวสถูปสวยัมภูนาถ (Swyambhunath Stupa) ซึ่งเป็นสถูปที่อยู่สูงที่สุดในเนปาล อย่าเพิ่งสับสนกับโพธินาถเมื่อสักครู่นะครับ โพธินาถเป็นสถูปที่สูงที่สุด แต่สวยัมภูนาถอยู่สูงที่สุดเพราะตั้งอยู่บนยอดเขานั่นเอง
 ^ รอบๆ สถูปก็จะมีธงที่วาดเป็นบทสวดมนต์โยงเต็มไปหมด
 ^ เสียดายที่องค์สถูปกำลังบูรณะอยู่ ก็เลยมีนั่งร้านเกะกะไปหมด
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ เป็นวัดที่ลิงเยอะมาก ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า Monkey Temple  ^ บันไดชันมาก...ก...ก...พลาดท่าเข้าเมื่อไหร่เจ็บหนักแน่นอน
|
|
Tags: |
|
|
|
|
จุดหมายสุดท้ายของวัน (เพราะใกล้มืดแล้ว) ของวันนี้ก็คือ Kathmandu Dubar Square ครับ อย่างที่บอกว่ามันเป็นเหมือนสนามหลวงซึ่งก็จะตั้งอยู่กลางเมือง ข้างๆ พระราชวัง และรายล้อมด้วยวัดของเทพองค์ต่างๆ ซึ่งลักษณะจะคล้ายกับที่เมือง Bhaktapur มากๆ แต่ว่าที่นี่จะแออัดหนาแน่นกว่า เพราะดันอนุญาตให้รถยนต์วิ่งผ่านได้ (ให้ตายซิ)
 ^ วัวถือเป็นสัตว์เทพที่ได้อภิสิทธิ์ในการไปไหนมาไหนก็ได้โดยไม่มีใครไล่
 ^ วัดอะไรสักอย่าง แอบได้ยินไกด์ไทยบอกว่าจะเปิดให้คนเข้าไปทำพิธีแค่ปีละครั้ง นอกนั้นมีแต่สาวกอยู่ข้างใน
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ พระราชวังโบราณ ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่าง ผมว่าความอลังการสู้ที่ Bhaktapur ไม่ได้อ่ะ  ^ เจดีย์แต่ละองค์ก็คือวัดสำหรับเทพหนึ่งองค์ เยอะมากๆ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ งานแกะสลักอลังการอีกแล้ว ชอบจริงๆ เลย  ^ ถ่ายรูปเพลินเลย แต่กว่าจะหาจังหวะปลอดคนได้เนี่ยยากเย็นจริงๆ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ ชอบหน้าต่างบานนี้มากๆ เลย ดูแล้วอบอุ่นยังไงไม่รู้  ^ แวะเยี่ยมวังกุมารี (เด็กหญิงสกุล ศากยะ หน่อเนื้อของพระพุทธเจ้า ที่นับถือศาสนาฮินดู เป็นตัวแทนเทพ) แต่เสียดายไม่ได้เจอ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ เวลากุมารีจะปรากฏตัว ก็จะโผล่ออกมาทางหน้าต่างบานนี้แหละครับ  ^ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมเพียงหนึ่งเดียวที่เห็นในเนปาล
|
|
Tags: |
|
|
|
|
 ^ งานแกะสลักอลังการอีกแล้ว เฮ้อ...เห็นแล้วอึ้งทึ่งกับฝีมือช่างโบราณจริงๆ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
เช้าวันที่ 5 ก.พ. ก็ถึงเวลาต้องอำลาเนปาล...
ผมได้ตั๋วเครื่องบิน flight แรกของวันตอนเก้าโมงเช้า แต่เชื่อไหมครับ...ว่าเกิดความล่าช้าจนกว่าผมจะได้ขึ้นเครื่องก็เกือบบ่ายโมง และไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ สำหรับผู้โดยสาร Business Class อย่างผม นอกจากการได้ใช้บริการ Lounge เท่านั้น และสนามบินก็ไม่มีระบบจัดการที่ดี ไม่มีป้ายบอกว่า Gate ไหนกำลัง boarding เที่ยวบินอะไร ทำให้มั่วมากๆ เลยครับ
ที่สำคัญระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่มีเครื่องมือทันสมัยใดๆ นอกจาก "มือ" คือใช้มือคลำทั้งตัวเลยครับ แถมต้องถอดเสื้อผ้าออกเกือบหมดเหลือแต่ชิ้นที่ติดตัวอยู่เท่านั้น แล้วคิดดูดิคับ...อากาศก็หนาว ต้องมายืนใส่เสื้อผ้าบางๆ รอโดนคลำไปทั้งตัว โหย...แย่สุดๆ อ่ะ อ้อ...กระเป๋าไม่ต้องจัดดีนะครับ โดนรื้อทั้งใบเลยครับ ค่อยจัดตอนตรวจสอบเสร็จทีเดียวดีกว่า
 ^ แต่ขากลับได้เห็นเทือกเขาหิมาลัยแบบใกล้ชิด เจ๊ากันไปครับ...
|
|
Tags: |
|
|
|
|
แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นยอด Everest เพราะว่าเมฆบังซะงั้น ไม่เป็นไรยังไงซะเราก็ได้เห็นที่ Nagarkot บ้างแล้ว (ถึงจะไกลลิบๆ ก็เหอะ)
ขอลากันไปด้วยภาพยอดเขา Everest ที่ถูกเมฆบดบังก็แล้วกันนะครับ
สวัสดีและขอบคุณครับ (Namaste and Dhayabat)

|
|
Tags: |
|
|
|
|
|
|
Tags: |
|
|
|
annie
|
ตื่นมาแต่เช้า เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่คุ้มมาก เพราะได้ไปเที่ยวเนปาล สวยมากค่ะ ชอบๆๆ 
|
|
Tags: |
|
|
|
ไอริน
|
นาธาน จัดทริปเมื่อไหร่บอกด้วยนะิ อิอิ
|
|
Tags: |
|
|
|
|
ขอบคุณครับ เหมือนได้ไปเที่ยวมาเลย
|
|
Tags: |
|
|
|
เสียศร
|
ไปครั้งหน้า จ้างนาธานไปเป็นคนนำเที่ยวซิ จะได้ไม่มึน  แต่ก็สวยดีครับ
|
|
Tags: |
|
|
|
โม กาก
|
เห้ย ไป เนปาล ทั้งที ไม่ไปบ้านของนาธาน อ่ะ บ้านเค้าหลังใหญ่ นะเว้ยที่ เนปาล
|
|
Tags: |
|
|
|
พร้อม
|
น่าไปเที่ยวมากครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ
|
|
Tags: |
|
|
|
pimmykiko
|
ต้องเอานาธานไปเป็นไกด์ ^^
|
|
Tags: |
|
|
|
123
|
ขอบคุณ คะ ที่นำมาให้ชม จะรอติดตาม ครั้งต่อไป 
|
|
Tags: |
|
|
|
วีๆวีๆๆ
|
เป็นคนไทย อยู่เมืองไทย ภูมิใจที่สุดแล้วครับ..ผมไม่อยากไปเนปาล ไม่อยากอยู่เนปาล 555
|
|
Tags: |
|
|
|
MoshiMaru
|
(พิธีสะตี ซึ่งเป็นพิธีประกอบการเผาศพผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว โดยภรรยาต้องกระโดดลงไปในกองไฟ) แล้วถ้ามีลูกด้วยกันล่ะค่ะ ใครจะดูแลเลี้ยงลูก
|
|
Tags: |
|
|
|
|