
เกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มีชื่อว่า Dengue Virus มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์...
โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มีชื่อว่า Dengue Virus มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธ์จะมีความรุนแรงแตกต่างกัน โรคนี้พบมากในฤดูฝนช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงกันยายน ซึ่งยุงลายที่เป็นพาหะจะออกหากินในเวลากลางวัน จึงควรระวังไม่ให้ยุงกัดในเวลากลางวัน เมื่อยุงลายไปกัดผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกจะดูดเลือดซึ่งมีเชื้อไวรัส และจะเพิ่มจำนวนเชื้อมากขึ้นในตัวยุง เมื่อยุงไปกัดคนแล้ว ก็จะปล่อยเชื้อเข้าสู่คนทำให้ป่วยเป็นไข้เลือดออก เชื้อไวรัสนี้จะอยู่ในตัวยุงประมาณ 1 เดือน หลังจากเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายคนไข้ 5 – 8 วัน จะปรากฏอาการของโรค คือ มีไข้สูงต่อเนื่องเล็กน้อย จนถึงเกิดภาวะช็อค มีเลือดออก และเสียชีวิตได้
ผู้ ป่วยจะมีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน หน้าแดง ปวดศีรษะ พบจุดเลือดออกได้ตามลำตัวแขน ขา อาจมีอาการมากถึงไม่ยอมรับประทานอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และ ซึม บางคนมีเลือดกำเดาออก ช่วงที่อันตรายคือช่วงที่ไข้เริ่มลดลงหลังมีไข้นาน 2 –7 วัน ระยะนี้เกิดภาวะไหลเวียนเลือดล้มเหลวได้ โดยจะพบมีอาการมือเท้าเย็น กระสับกระส่าย ชีพจรเต้นเร็ว เต้นเบา แรงดันเลือดล้มเหลวได้ จนถึงกับช็อค และอาจเสียชีวิตภายใน 12-24 ชม.ในกรณีที่รักษาพยาบาลไม่ทันท่วงที
ใน ระยะเริ่มต้นจะวินิจฉัยโดยอาศัยประวัติการป่วย การระบาดของโรค การตรวจร่างกายโดยละเอียด และการตรวจทางห้องปฎิบัติการเบื้องต้น เพื่อตรวจหาความเข้มข้นของเลือด และหาเชื้อไวรัสไข้เลือดออก (PCR for Dengue. Dengue IgG and IgM)
เด็กที่มี ไข้สูงควรให้รับประทานยาพาราเซตามอล และเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ห้ามทานยาแอสไพริน เพราะจะทำให้เลือดออกมากขึ้น หากพ้น 36 ชั่วโมงแล้วยังมีไข้สูงอยู่ อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพาเด็กเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนรักษาป้องกันโรคไข้เลือดออก การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การกำจัดหรือ ลดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย หาทางป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด
ด้วยความปราถนาดีจากโรงพยาบาลสมิติเวช : http://www.samitivejhospitals.com/healtharticle_detail/โรคไข้เลือดออก_159/th