Sanook.commenu

ค้นหา ตรวจหวย ข่าว อีเมล์ ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ คลาสสิฟายด์ ริงโทน เกมส์ ดูทั้งหมด »

หน้า: 1 ... 5 6 7 8 9 10 11 12

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: สอบเอ็นทรานซ์  (อ่าน 12186 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« ตอบ #495 เมื่อ: 29 ก.ย. 13, 21:11 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ขนมและของหวานของชาวอิตาเลี่ยน


ชาวอิตาเลียนนิยมทานขนมและของหวาน และมีของหวานมากมายหลายชนิดให้เลือกรับประทาน ของหวานที่มักจะได้พบบ่อยๆ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย



Cassata ไอศกรีมเค้กทำจากชีส ผสมผลไม้เชื่อม ลูกนัทวางสลับชั้นกับไอศกรีมรสต่างๆ อีก 1-2 รส ชั้นนอกหรือชั้นล่างสุดจะเป็นเค้กเนื้อเบา




Cannoli ขนมกรอบแผ่นบางอบ กำเนิดจากซิซิลี ใส่ไส้ครีมชีส ช็อคโกแลต และผลไม้เชื่อม




Panettone เค้กเนื้อแน่นและเเห้ง ผสมผลไม้เชื่อม นิยมทานกันในช่วงอีสเตอร์และคริสต์มาส




Polenta ขนมทำจากแป้งข้าวโพด นำไปย่างให้สุก เสิร์ฟกับซอสหวานที่ทำจากครีมหรือซอสผลไม้




Torta หรือทาร์ตไส้ต่างๆ ที่นิยมกันมากคือทาร์ตมะนาว




Tiramisu แปลว่าเลือกฉันซิ เป็นขนมหวานชื่อดังของอิตาลี เค้กเนื้อเบาชุ่มด้วยน้ำกาแฟและลิเคียวร์ วางสลับกับเนยแข็งมาสคาร์โปเนปรุงรสตีฟู และโรยหน้าด้วยผงกาแฟ มักจะแช่เย็นไว้เสมอเพื่อให้เนยแข็งคงรูป




Zabaglione ไข่ตีกับน้ำตาลและไวน์ จะมีเนื้อนุ่มๆ ฟูๆ คล้ายมูสแต่เนียนกว่าทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็น




Gelato เนื้อไอศกรีมที่นุ่มเนียนกว่าไอศกรีมทั่วไป ทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติหลากหลายกว่าด้วย มีไขมันต่ำ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และใส่น้ำตาลธรรมชาติที่หวานน้อย




Spumoni ไอศครีมอิตาเลี่ยน ทำเป็นหลายสีหลายชั้น




คุ้กกี้และขนมปังกรอบ คุ้กกี้อิตาเลียนส่วนใหญ่จะมีรสหวานเล็กน้อย และมีส่วนผสมของถั่ว หรือผลไม้อบแห้งอยู่ ซึ่งคุ้กกี้อิตาเลียนจะไม่ค่อยมีให้เลือกหลากหลาย จะมีความแข็งและมีความหวานอยู่เล็กน้อย




Zeppole โดนัทอิตาเลียน ซึ่งในแบบดั้งเดิมจะโรยหน้าด้วยน้ำตาลและอบเชย หรือนำไปกินกับน้ำผึ้ง ต่อมาในยุคปัจจุบัน จะมีการสอดไส้ครีม หรือแต่งหน้าด้วยวิปครีมมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นโดนัท Zeppole ในเทศกาลสำคัญของอิตาลี โดยเฉพาะ St. Joseph’s Day (วันที่ 19 มีนาคมของทุกปี)




Torrone เป็นขนมตังเมที่ย้อนกลับไปในยุคของโรมันจะถูกใช้ตามงานสำคัญงานศาสนา และนำมากินกันหลังเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งขนมตังเมสไตล์อิตาเลียนนั้นทำมาจาก น้ำผึ้ง, ไข่ขาว และถั่ว อาทิเช่น อัลมอนด์, วอลนัท หรือพิตาชิโอ้ ซึ่งขนมชนิดนี้ยังนิยมกันในแถบเมดิเตอเรเนี่ยนอีกด้วย




ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมีประวัติอย่างยาวนานในอิตาลี และปัจจุบันเองช็อคโกแล็ตก็ยังเป็นที่นิยมของชาวอิตาเลียน อย่างที่ทราบกันดีว่าศูนย์กลางของช็อคโกแล็ตในอิตาลี จะต้องเป็นที่ Perugia, Tuscany และ Torino


ภาพ : อินเตอร์เน็ต
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anone-ying&month=05-2009&date=04&group=3&gblog=18, http://www.educatepark.com/italy/italian-dessert.php และ http://voices.yahoo.com/10-famous-foods-italy-7571166.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #496 เมื่อ: 16 ต.ค. 13, 12:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก ฎ น่ า รั ก ๆ

จริงเหรอ.. เหตุการณ์รอบตัวบ่อยครั้งทำให้นึกน้อยใจในโชคชะตา
เพราะมันมักเลวร้ายกว่าที่ควร เช่น ขับรถมาเป็นสิบปีไม่เคยชนอะไร
แต่พอถูกขอร้องให้ถอยรถเพื่อนออกจากซอยไม่ถึง 30 เมตร กลับชนเสาไฟฟ้าโครมใหญ่

เหตุการณ์เลวร้ายเกิดเหมือนสวรรค์แกล้งนี้ เกิดบ่อยกับทุกคน
จนมีผู้ตั้งเป็นกฎไว้ เรียกว่า "กฎของเมอร์ฟี่" ความว่า
"ถ้ามันเคยผิดพลาด มันก็จะผิดซ้ำอีก"


นอกจากกฎของเมอร์ฟี่ ยังมีกฎอื่นๆที่มีผู้สังเกตพบมากมาย สมควรรวบรวมไว้ดังนี้



1. กฎความเป็นไปได้
ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ
และโอกาสที่เนยตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นสัดส่วนกับราคาของพรม

2. การดูดวง
หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลว
แต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลวที่สุด

3. กฎแห่งความแม่นยำ
หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด

4. กฎของหาย
ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มัน

5. กฎของเมธี
เลขเด็ดที่เราไม่ซื้อ คือ เลขที่จะออกงวดนั้น และ หวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับ
หวยที่ออก หากได้บวกลบคูณหารด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับหลัง
แต่ถ้าเราซื้อเลขกลับ มันจะออกเลขตรง และ ถ้าเราซื้อทั้งสองแบบ
..มันจะไม่ออกเลย

6. กฎแรงโน้มถ่วง
วัตถุ 2 ชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากัน
จะตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดที่ทำลายทรัพย์สินได้มากที่สุด เท่าๆ กัน

7. ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือ
หนังสือปกสวย ..เนื้อในมักห่วย
หนังสือปกขี้เหร่ ..เนื้อในห่วยกว่า !!

8. กฎห้ามพูด
คนไทยรู้จักกฎนี้ดี จนมีสุภาษิตว่า "เข้าป่าอย่าเรียกหาเสือ"
กฎมีว่า ทันทีที่คุณพูดแสดงความคาดหวัง
ถ้าหวังสิ่งเลวสิ่งเลวจะมาหา
และถ้าหวังสิ่งดี.. สิ่งเลวก็จะมาหา

9. กฎของโฮว์ (Howe's Law)
มนุษย์ทุกคนมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ

10. กฎของไซเมอร์กี้
ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วนออกมาประกอบใหม่จะมีน็อตเหลือเสมอ




11. ข้อสังเกตของอีตัวร์
รถเลนข้างๆ มักเคลื่อนตัวดีกว่าเลนของเรา

12. กฎการแก้ปัญหา
ในปัญหาใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้เราแก้ มักมีปัญหาเล็กๆ อยู่ภายใน
ซึ่งพร้อมจะขยายตัวแทนที่ทันทีที่ปัญหาใหญ่ได้รับการแก้ไขลุล่วง

13. กฎทอง
คนมีทองคือคนออกกฎ

14. ธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์เรามีสองประเภท
ประเภทแรก คือ คนที่ชอบแยกคนเป็นสองจำพวก
ประเภทที่สอง คือ คนที่รังเกียจพวกแรก

15. กฎยิ่งน้อยยิ่งดีของซีกัล
คนที่มีนาฬิกาเรือนเดียว จะรู้เวลาแน่นอน
คนที่มีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน จะไม่แน่ใจว่า เวลาใดถูกต้อง

16. กฎการใช้เวลาเหลื่อมล้ำ
การเริ่มต้นงานเป็นสิ่งยาก
เพราะงาน 90 % แรก จะกินเวลาไปถึง 90% ของเวลาในโครงการ
ส่วนงาน 10% ที่เหลือจะกินเวลาอีก 90% ของเวลาในโครงการ

17. กฎของโอ'รีลลี
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ คือ การทำโต๊ะทำงานให้สะอาด

18. กฎของลีเบอร์แมน
นักการเมืองทุกคนโกหก แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่มีใครฟังใคร

19. กฎน้ำพริกถ้วยเก่า
เสื้อผ้าตัวเก่งจะเก่าซอมซ่อทันทีที่เราได้ตัวใหม่

20. ข้อเท็จจริงขององค์กร
ในทุกหน่วยงานมักมีพนักงานคนหนึ่งและคนเดียว
ที่มองเห็นปัญหาที่แท้จริงขององค์กร และคนๆ นี้จะถูกไล่ออกเสมอ




21. กฎการโต้เถียง
คนที่พูดน้อยคือคนที่รู้มาก

22. กฎการทำงานเป็นทีม
เมื่องานยุ่งยาก ทุกคนผละหนี

23. กฎการมองโลก
มนุษย์ สามสิบคนในร้อยคน ชอบมองโลกในแง่ร้าย
ส่วนที่เหลือ...มองร้ายกว่า

24. กฎการประกันภัย
เวลาขับรถ มักจะเจออุบัติเหตุรถชน ในวันที่ประกันชั้น 1 หมดอายุได้ 1 วัน
แถมอีกอัน ไม่รู้ทำไม เวลาหนังสือร่วงใส่เท้าต้องร่วงโดนใส่หัวแม่เท้าเสมอ ไม่เคยปรากฎว่าร่วงใส่นิ้วก้อยมั่ง

อีกอันนะ เสียงโทรศัพท์ กริ้งสุดท้ายคือจะดับไปก่อนที่เราจะรับทัน 1 ก้าวเสมอ




ที่มา : http://board.postjung.com/458877.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #497 เมื่อ: 16 ต.ค. 13, 12:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สุสานรถยนต์โบราณ


สุสานรถยนต์โบราณ 180 คันในโปรตุเกส

เรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและแปลกประหลาดคือ ชาวเมืองนิวยอร์กรายหนึ่งหลังจากเกษียณอายุต้องการที่จะใช้จ่ายเงินออมหลังเกษียณอายุอย่างชาญฉลาด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะซื้อบ้านและที่ดินในโปรตุเกส บ้านพร้อมที่ดินที่เขาสนใจที่จะซื้อเป็นที่ดินพร้อมกับบ้านร้างที่แถมยุ้งฉางโรงนาืัีมีสภาพร้างมากว่า 15 ปีแล้ว เจ้าของคนเดิมพร้อมกับภรรยาต่างเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ และทั้งคู่ต่างไม่มีทายาทสืบทอดรับมรดก ทำให้้บ้านพร้อมที่ดินหลังนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ รัฐจึงนำมาขายทอดตลาดเพื่อนำเป็นรายได้รัฐกับชำระภาษีโรงเรือน-ภาษีที่ดินที่คงค้างกับรัฐ

มีผู้คนสนใจจะซื้อบ้านพร้อมที่ดินรวมกับยุ้งฉางโรงนาร้างแห่งนี้จำนวนมาก แต่ที่ยุ้งฉางโรงนามีประตูเหล็กขนาดใหญ่หนักอึ้งปิดทางเข้าออกไว้ คนจะซื้อต่างคนต่างไม่อยากออกเงินเพื่อเปิดประตูเหล็กบานนี้เพื่อจะได้เข้าไปสำรวจทรัพย์สินภายในยุ้งฉางโรงนา เพราะจะต้องจ่ายเงินพิเศษเองหรือเป็นต้นทุนที่ต้องจ่ายฟรี ๆ โดยรัฐไม่ให้ปุริมสิทธิ์แต่อย่างใด (สิทธิพิเศษเหนือหนี้ทั้งปวง) ดังนั้นจึงยังไม่มีใครยื่นข้อเสนอจะซื้อกับรัฐเลย

ชาวนิวยอร์กคนดังกล่าวจึงได้ซื้อที่ดินแห่งนี้ ที่มีบ้านพร้อมกับยุ้งฉางโรงนาร้างหลังนี้ ในราคาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ประเมิน แต่หลังจากที่เขาได้รับโอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาและภริยาได้อพยพมาอยู่ที่โปรตุเกส หลังจากที่ได้ตั้งรกรากแน่นอนแล้ว ทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะเปิดประตูยุ้งฉางโรงนา โดยซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องตัดเหล็ก พร้อมทั้งเครื่องจักรกลพร้อมอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ไว้ช่วยลงมือทำลายประตูเหล็กบานใหญ่นี้ให้จงได้ ต้องใช้ความพยายามอย่างแรง กว่าจะตัดรอยเชื่อมบานประตูเหล็กออกมาได้ แต่เมื่อตัดบานประตูเหล็กออกได้แล้ว ทั้งคู่ต่างตกใจและตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า มีอะไรที่รออยู่ข้างใน





รถยนต์รุ่นคลาสสิค Mercedes, Lotus, Aston Martin, Porsche, Volvo, Austin Healey,
Alfa Giulietta, BMW, Formula Racers, Chryslers, Austin A30, Alfa Romeo



ฝุ่นที่ปกคลุมรถยนต์ Aston Martin


Opel GT, Lotus Elan FHC, Lotus Super Seven Series IV, Lotus Elan DHC


Porsche 356, Austin Healy Sprite MKII, Volvo PV 544 และน่าจะเป็น Ford Y


Giulietta Sprint, Giulia Sprint Speciale (SS), Nash Metropolitan


Alfa Giulietta, Lotus Europa, another Lotus Elan FHC, Matra Djet


Lancia Flaminia Coup?


Abarth 1300 Scorpione


American (inspired) Design รถยนต์ืที่สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบของชาวอเมริกัน


สภาพการตกแต่งภายในรถยนต์ Alfa Romeo


Lancia Flaminia Coup?, Peugeot 504 และ 404 Cabriolet


Mini, Alfa 1900 Super Sprint, Balilla


Fiat Topolino II Triumph TR4, Peugeot 202


BMW V8, Formula Racers, Chryslers, Mercedes, Austin A30

เรื่องราวทั้งหมดนี้ เริ่มขึ้นในวันหนึ่งของเดือนมกราคม 2007 (2550) ผมได้รับอีเมลพร้อมไฟล์แนบมากกว่าสิบฉบับ Link ไปยังเว็บไซต์ที่รวบรวมภาพถ่ายรถยนต์โบราณในยุ้งฉางโรงนา สัปดาห์ต่อมาเว็บไซด์หลายแห่งต่างเต็มไปด้วยเรื่องราวที่คล้าย ๆ กัน

ลองนึกถึงการย้ายบ้านไปอยู่ในบ้านพักเก่าแบบชนบทในโปรตุเกสในขณะที่เดินเที่ยวไปรอบ ๆ ที่ดินที่ลงทุนไว้น้อยกว่า 40% ของเงินออมหลังเกษียณอายุ มียุ้งฉางโรงนาเก่าแก่ตั้งอยู่ในที่ดินทำให้อยากรู้อยากเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง เมื่องัดประตูเหล็กบานใหญ่ที่หนักเต็มไปด้วยสนิมออกมาได้กลายเป็นครั้งแรกในทศวรรษที่ผ่านมา ฝูงรถยนต์โบราณจที่ไม่เคยโดนแสงแดดปรากฏขึ้นมาให้เห็นแทบจะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเลย





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #498 เมื่อ: 16 ต.ค. 13, 12:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
การสะสมรถยนต์โบราณไม่ได้เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น รถยนต์บางคันสะสมด้วยความรัก/หลงใหลโดยไม่ต้องการจะขายต่อ การเก็บสะสมรถยนต์โบราณฝูงนี้จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญเป็นแน่ เพราะไม่มีใครโง่พอที่จะขายบ้านพร้อมที่ดินร่วมกับยุ้งฉางโรงนาที่ข้างในอัดแน่นไปด้วยรถยนต์โบราณที่สะสมไว้จำนวนมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าของคนใหม่ที่ได้รถยนต์โบราณที่สะสมไว้ข้างใน







ผมตัดสินใจจะตรวจสอบเรื่องนี้ว่าจริงหรือเท็จ ผมค้นหาข้อมูลในเว็บไซด์จนในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางภาษาอังกฤษที่ http://www.สโมสรมาสด้าไมเอต้าของนอร์เวย์ (Mazda Miata Club Norway website) ผมได้ส่งอีเมลภาษาอังกฤษไปที่เว็ปไซด์แห่งนั้น
หวังว่าจะมีผู้รับใจดีสักคนเปิดอ่านและตอบคำถามให้ผมพร้อมกับร่องรอยทั้งหมดว่ารถยนต์โบราณฝูงนี้ถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในโปรตุเกส เพื่อที่ผมจะได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตาของผมเอง






ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท ดอน ซิลอว์สกี้ Don Silawski จากกรุงวอชิงตันดีซี
ผมจึงติดต่อกับล่ามชาวโปรตุเกส คลาร์ ดิ๊กซั่น Clara Dixon ได้ เธอพร้อมจะเป็นไกด์นำเที่ยวให้ผมและจะพยายามค้นหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกเกี่ยวกับรถยนต์โบราณที่สะสมไว้้เป็นจำนวนมาก Clara Dixon ยังตรวจสอบข้อมูลในอินเทอร์เน็ตสำหรับข่าวที่เขียน
ในหนังสือพิมพ์ภาษาโปรตุเกสเกี่ยวกับรถยนต์โบราณฝูงนี้ทำให้ผมเริ่มรู้สึกเหมือนกับว่าได้เป็นนักสืบซีไอเอ ...








ผมยอมรับว่าอาจจะต้องใช้เวลาตลอดชีวิตค้นหายุ้งฉางโรงนาแห่งนี้ที่มีขนาดใหญ่ภายในมีรถยนต์โบราณสะสมไว้ข้างใน ลูกชายของผมวัย 15 ปี ไบอัน Brian พยายามที่จะโน้มน้าวผมให้เขาร่วมเที่ยวบินไปโปรตุเกสพร้อมกับผมเพื่อช่วยผมค้นหาความจริงในเรื่องนี้

ในที่สุดผมก็สามารถติดต่อกับช่างภาพที่ได้รับว่าจ้างจากเจ้าของรถยนต์โบราณให้เข้าไปถ่ายภาพรถยนต์โบราณเหล่านี้ แล้วในท้ายที่สุดก็ปรากฎภาพรถยนต์โบราณจำนวนมาก
โผล่ขึ้นบนหน้าจอภาพคอมพิวเตอร์ของคนชื่นชอบรถยนต์โบราณนับล้านคนตั้งแต่เริ่มทำการเผยแพร่ในวันที่ 20 มกราคม 2007 (2550)




เรื่องราวแต่ปางก่อน

ช่างภาพ มานูเอ้ล มีเนส โมไร่ Manuel Menezes Morais ได้สาบานว่าจะเก็บความลับเรื่องนี้จนชั่วชีวิต แต่เจ้าของคนปัจจุบันอนุญาตให้เขาบอกข้อมูลบางอย่างได้คือ เจ้าของเดิมเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในปี 1970 (2513) ในปี 1980 (2523) เขาได้ตัดสินใจสะสมรถยนต์ที่สนใจมากที่สุดไว้ในยุ้งฉางโรงนา เมื่อยุ้งฉางโรงนาอัดแน่นเต็มไปด้วยรถยนต์โบราณที่สะสมแล้ว เขาจึงต้องเหลียวซ้ายแลขวาก่อนทำการเชื่อมปิดประตูเหล็กปิดตายไปเลย เรื่องนี้บางทีอาจจะเป็นการเชื่อมที่ถาวรแน่นหนาเกินไปก็เป็นไปได้ เว็บไซต์หลายแห่งระบุจำนวนรถยนต์โบราณที่สะสมแตกต่างกันไป บางแหล่งสันนิษฐานว่ามีจำนวนรถยนต์โบราณ 58, 100, และ 180 แต่ Manuel Menezes Morais ยืนยันว่ามีรถยนต์โบราณ 180 คัน (ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมหรือนับจำนวนรถจักรยานยนต์) เรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งจนเลือดกำเดาไหล คือ ไม่ขาย ไม่ให้เข้าชม

Clara Dixon คาดเดาไว้ว่าที่เก็บรถยนต์โบราณเหล่านี้น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในพื้นที่ซินตรา Sintra ใกล้กรุงลิสบอน Lisbon เมื่อผมลองถาม Manuel Menezes Morais ว่า
"เจ้าของรถยนต์โบราณฝูงนี้ มีรถยนต์คันโปรดหรือไม่" คำตอบก็คือ "มีหลายคัน อยู่ในสภาพที่ดีมาก แต่เขารักรถยนต์ Lancia Aurelia B24 มากและมีถึงสองคันด้วย"



ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=868751

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #499 เมื่อ: 16 ต.ค. 13, 12:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

บทความให้แง่คิด
http://www26.brinkster.com/skpcenter/smile.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #500 เมื่อ: 16 พ.ย. 13, 22:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แซนวิชแฮมชีส

ของที่ต้องเตรียม












ขั้นตอนการทำ






















เสร็จเรียบร้อย






จัดใส่จาน ทานได้เลย







ท่านที่ไม่มีเครื่องปิ้งขนมปังก็สามารถทำได้นะ แค่เอาแฮมไปทำให้สุกก่อน เช่น ทอดหรือเวฟก็ได้


ที่มา : http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/06/D6728914/D6728914.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #501 เมื่อ: 1 ม.ค. 14, 20:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โรงแรมที่เคยเป็นพระราชวังที่โรแมนติกที่สุดในอินเดีย : India’s Most Romantic Palace Hotels




Taj Lake Palace พระราชวังหินอ่อนแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื่อที่ 4 เอเคอร์ กลางเกาะส่วนตัวแห่งหนึ่งที่เมือง Udaipur อันเป็นเมืองที่รู้จักกันในชื่อ เมืองแห่งทะเลสาบ

โรงแรมได้รับการตกแต่งภายในที่สุดยอด ด้วยห้องพักทั้งหมด 83 ห้อง ห้องชุดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สลักเสลาสวยงามผสมผสานด้วยการใช้ผ้าไหม ... ที่นี่ ให้บริการด้วยคนรับใช้ส่วนตัวดังเช่นคุณเป็นมหาราชา มีบริการเรือรับ-ส่งจากท่าเรือเพื่อเข้ามาสู่สถานที่ที่เสมือนย้อนกาลเวลาแห่งนี้




หากคุณขึ้นไปบนฝั่ง ลองมานั่งรับประทานอาหารค่ำที่ Mewar Terrace แล้วยั่งมองทะเลสาบแสนสวย ห้องชุด Sajjan Niwas ตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกแบบเฟรสโก้ โมเสก และมีระเบียงส่วนตัวที่คุณสามารถมองทิวทัศน์ที่งดงามของ Aravallis

ที่นี่ยังมี Jiva Spa และห้องอาหาร 3 แห่งไว้บริการ ... ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ Rs 30,500






The Oberoi Amarvilas วิวของ ทัช มาฮาล ที่โด่งดัง ที่ห่างจากพระราชวังแห่งนี้เพียง 600 เมตร ทำให้สถานที่แห่งนี้อยู่ในอันดับสูงสุดในรายชื่อโรงแรมที่เราพูดถึงในวันนี้ค่ะ แต่นี่ไม่ใช่อย่างเดียวที่โรงแรมแห่งนี้จะทำให้คุณประทับใจค่ะ

พระราชวัง Oberoi Amarvilas สร้างในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบโมกุล ตกแต่งภายในอย่างวิจิตร ให้บริการด้วยบุคคลากรที่กระตือรือล้นเอาใจใส่ และหากคุณเริ่มต้นวันด้วยการใช้บริการของสปา Noor-e-Taj Romance ของโรงแรม ก็จะเป็นการเริ่มต้นวันแห่งความรักที่งดงามทีเดียวค่ะ




หากคุณต้องการใช้ชีวิตในวันสบายๆดุจมหาราชา เราขอแนะนำห้องชุด Kohinoor Suite ซึ่งมองเห็นวิวของ ทัช มาฮาล ได้อย่างกว้างไกล

การได้ตื่นขึ้นมาในสถานที่โอ่อ่า สวยงามในยามเช้า ... เฝ้ามองแสงจันทร์ที่อาบไล้อนุสรณ์สถานแห่งความรักในยามค่ำคืน จะเป็นประสบการณ์พิเศษที่ยากจะลืมเลือนแน่นอนค่ะ และขอกระซิบสักนิดนะคะว่า ห้องอาบน้ำของห้องชุดนี้มีวิวที่สวยที่สุดในโรงแรมนี้ทีเดียวค่ะ ... ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ Rs 40,000







Taj Falaknuma Palace ตั้งอยู่ที่ระดับ 2,000 ฟุตเหนือเมืองไฮเดอราบัด นับเป็นอัญมณีน้องใหม่ของโรงแรมในเครือ Taj Hotels, Resorts & Palaces ทีเดียวค่ะ ประกอบด้วยห้องพัก 60 ห้องที่ประดับประดาด้วยโคมระย้าเวเนเชี่ยน หน้าต่างกรุกระจกสเตนกลาส รวมถึงการตกแต่งภายในที่อลังการ

ที่นี่มีน้ำพุและสวนสวยกระจายเป็นจุดๆอยู่ทั่วไปในบริเวณของโรงแรม ที่นี่ยังมีห้องสมุดซึ่งมีคัมภีร์พระไตรปิฎก และหนังสือหายากอยู่มากมายให้คุณได้ค้นหา




ที่นี่เคยเป็นที่พักของ Nizam of Hyderabad เคยเป็นที่รับรองเหล่าราชวงศ์ชั้นสูง ประมุขและผู้นำของประเทศต่างๆ รวมถึงเหล่าคนดังมากมาย

ห้องที่เราแนะนำคือ The Grand Royal Suites ที่ใช้พรมทอมือจากตุรกีปูพื้นห้อง ประดับด้วยภาพวาดคลาสสิก .. จากห้องนี้คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศฯที่ตระการตาของเมืองไฮเดอราบัด

หากมีโอกาสลองใช้บริการของ Royal Jiva Spa ด้วยทรีตเม้นท์ Nawab-e-Khaas ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ด้วยการชโลมตัวด้วยน้ำมันหอมที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ กลีบกุหลาบ ผงละเอียดจากดอก crocus ก่อนที่จะเริ่มการนวดให้ผ่อนคลายแสนวิเศษ






Rambagh Palace ที่นี่เริ่มจากการสร้างเป็นบ้านพักของ Gayatri Devi มหารานีของไจเปอร์ หลังจากนั้นที่แห่งนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นพระราชวังในปี 1925 และเป็นที่พำนักของพระราชวงศ์มานานถึงเกือบ 50 ปี

สถานที่มรดกทางประวัติศาสตร์แห่งนี้มีห้องรวม 46 ห้อง และ 33 ห้องชุดที่หรูหรา ... ผู้ที่ชื่นชมมหารานีควรจะเข้าพักที่ Maharani Suite ห้องซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อพระนางโดย Hammond's of London ซึ่งเป็นนักออกแบบที่พระนางโปรดปราน

หากคุณเข้าพักที่ Suryavanshi Suite ซึ่งเป็นห้องที่มีเพดานสูง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณที่หรูหรา พร้อมวิวตระการตา ... ก็จะเป็นทางเลือกที่ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ







Umaid Bhavan Palace โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 26 เอเคอร์ที่ประกอบไปด้วยสวนที่งดงามสมบูรณ์แบบ Umaid Bhavan Palace ที่เมือง Jodhpur จึงเป็นที่พักส่วนตัวที่ใหญ่โตที่สุดในโลก

สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินทรายสีเหลือง ในรูปแบบสถาปัตยกรรมอาร์ตเดคคอร์ ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงปี 1920s พระราชวังแห่งนี้มีห้องพักเพียงแค่ 64 ห้อง จึงทำให้เป็นที่พักที่เป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง

ที่นี่ยังคงเป็นที่พำนักของพระราชวงศ์แห่ง Jodhpur สถาปัตยกรรมของที่นี่ได้รับอิทธิพลจากสไตล์ที่เรียกว่า versatile styles โดยมีโดมแบบเรเนซองก์ และหอคอยแบบ Rajput




ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว สนามสคอชซ์สร้างด้วยหินอ่อน และห้องสันทนาการ ... mนี่จึงมีกิจกรรมมากมายให้คุณทำและชม หากคุณต้องการรับประทานดินเนอร์แบบเงียบๆ โรงแรมก็จะจัดพื้นที่ภายในพระราชวังหรือมุมหนึ่งในสวนให้กับคุณและคนพิเศษเป็นการส่วนตัว ... ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ Rs 26,500


Source : ้http://lifestyle.in.msn.com/CondeNast/traveller/Photoviewer.aspx?cp-documentid=6047732
เรียบเรียง : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=801951
ที่มา: http://www.unigang.com/Article/16773

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 5 6 7 8 9 10 11 12

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม
         

ทางสนุก! จะทำการตรวจสอบ
และขออนุญาตไม่แสดงข้อความ
ที่ไม่เหมาะสม ข้อความที่
ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่
สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ รวมถึงข้อความที่
เข้าข่ายหลอกลวง การเผยแพร่
ภาพลามกอนาจาร หรือข้อความ
ใดๆ ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย บนกระทู้นี้