คุณลุงมเหศักดิ์ค่ะ พิมเคยเรียนให้คุณลุงทราบมาบ้างแล้วว่า พิมไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆจากรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเลย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายสำหรับคนรากหญ้า ชั้นกลาง ชั้นสูง จะมีก็แต่นโยบายลดราคาน้ำมันที่พิมได้รับผลประโยชน์บ้างตามสมควรกับการใช้รถ ขอบคุณคุณลุงที่มองเห็นถึงความแน่วแน่ในตัวพิม แต่พิมไม่ได้แน่วแน่ในกลุ่มของนปช. แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าเป็นกันอย่างไร พิมขออนุญาตเล่าเรื่องของพิมให้คุณลุงฟังบ้าง ว่าสิ่งที่พิมเล่า พิมคือนปช.หรือเปล่า ในสมัยรัฐบาลคุณทักษิณพิมไม่เคยสนใจเรื่องการเมืองเลยไม่รู้ว่ามีผลกระทบกับพิมยังไง พิมสนใจแต่เรื่องดื่มเท่านั้น "เมรีขี้เมา"ไม่ได้ได้มาง่ายๆหรอกค่ะ จนพันธมิตรประท้วง พิมก็ยังเมาอยู่เลย พิมจึงใบ้รับประทานทุกครั้งที่คุณลุงแร้งพูดถึงเรื่องคุณทักษิณ คุณทักษิณจะดีจะเลวพิมไม่รู้ เอาเป็นว่าเลวมากตามคุณลุงแร้งพูดก็แล้วกัน จนกระทั้งพันธมิตรไปชุนมุมแถวทางเดินสนามบินสามวัน พิมต้องสูญเสียเงินไม่น้อยกว่าห้าแสน พิมโกรธมาก โกรธที่พิมไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้เป็นปฎิปักษ์กับใคร ทำไมพิมถึงต้องสูญเสียในสิ่งที่พิมไม่ได้ทำ พันธมิตรบอกว่าต้องเสียสละกันบ้าง เพราะพันธมิตรกำลังกู้ชาติ เอาเสียสละก็เสียสละ พิมก็กลับไปเมาต่ออย่างเดิม จนกระทั้งเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นที่ราชประสงค์ ภาพชายถือธงล้มลง มันเป็นภาพที่พิมรับไม่ได้ รับไม่ได้มาจนทุกวันนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลภาพแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครจะถูกหรือผิด ก็ควรพูดคุยกัน ไม่ใช่การประหัดประหารกัน เช่นนั้นแล้วคนเราจะต่างจากสัตว์ตรงไหนที่ฆ่าตัวอื่นตายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นจ่าฝูง พิมจึงเรื่มที่สนใจการเมืองเพราะมีเสื้อเหลืองจึงมีพิมพิลาไลย การที่พิมสนับสนุนคุณปู เพราะพิมเบื่อการปกครองแบบคุณอภิสิทธิ์ที่จนป่านนี้แล้ว ไข่ชั่งกิโลก็ยังมาไม่ถึงบ้านพิม พิมไม่เคยสนับสนุนในทุกเรื่องที่เสื้อแดงทำ พิมไม่สนเรื่องการปกครอง จะใช้ระบบไหนก็ได้ จะคอมมิวนิวส์แบบจีน จะประชาธิปไตยแบบสหรัฐ หรือ การปกครองแบบปิตุราชาธิปไตยก็ได้ พิมไม่สนหรอกค่ะ ขอให้เศรษฐกิจดี ประชาชนมั่งคั่งก็พอแล้ว เมื่อพิมเป็นแบบนี้แล้ว พิมคือนปช. ใช่ไหมคะ คุณลุง
ขอยกเคสของอาผมแล้วกัน
อาผมทำธุรกิจลำใยอบแห้ง ส่งออก นอก ลงทุนไป 10ล้านกว่าบาท ซึ่งท่านได้ร่วมหุ้นกับอาอีกคนที่เป็นพี่น้องกัน แต่ก็เกิดปัญหาธุระกิจ เนื่องจากช่วงที่เกิดปัญหาเรื่อง การลำใยอบแห้ง ขึ้นรา ซึ่งอาผมได้ซื้อลำใย ตามโครงการรับจำนำลำใย ไม่ขอพิมพ์น่ะครับ ว่าโครงการของใคร เดี๋ยวจะโดนลบ คุณพิมน่าจะรู้ ๆ อยู่
พอเกิดปัญหานี้ขึ้น คือ ธุรกิจที่ลงทุนไป สูญหมด ผมก็ได้มีโอกาสได้ สักถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับคุณอาว่า ใจท่านเข้มแข็งมาก เพราะท่านได้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่ท่านไม่โทษใครเลย แล้วก้ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดใครเป็นพิเศษ แล้วต้องไปเข้าข้างใครเป็นพิเศษ
ท่านพูดว่า
พอเราทำธุรกิจแล้ว ย่อมมีความเสี่ยง นี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของท่านเอง ที่มองไม่ออก ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
คุณพิมยังโชคดีกว่าใครอีก หลาย ๆ คนน่ะครับ ที่ธุรกิจยังไม่เจ๊ง และ ต้องมาเป็นบุคคลล้มละลาย เหมือนกับอีกหลาย ๆ ท่าน
หลายครั้งที่ผมเห็นคุณพิม แสดงความคิดเห็น ผมก็ไดัรับรู้ความรู้สึกนี้ตลอด สำหรับผม ก็แสดงความห่วงใยว่า คุณพิมมีความสุขหรือ ที่ได้ทำแบบนี้ แล้วมันคือสุขที่แท้จริงหรือไม่ หลาย ๆ ครั้งที่คุณพิมใช้ความรู้สึกนี้มากกว่า เหตุผล และ คคห. ของคุณพิม ก็ได้กลายเป็นเครื่องมือของอีกฝ่าย ที่คุณพิมคิดว่าเป็นเพื่อน
คคห. ของ คุณพี่ มเหสักต์ ดีมากครับ ใช้ประสบการณ์ ใช้มุมมองของผู้ใหญ่ ผู้รู้ และ ผู้ใส่ใจ ถึงผมจะอายุไม่มาก ผมก็เข้าใจและเห็นด้วยกับความคิดของ คุณพี่มเหสักต์ ครับ
คำตอบที่คุณพิม ต้องการในกระทู้นี้ ผมขอตอบหน่อยแล้วกันถึงคุณพิมจไม่ได้ถามผม
ผมไม่ของตอบเป็นคำตอบ แต่ผมขอตอบแบบแก่นความคิดของผม ตรงจุดนี้ผมใช้หลัก หยินหยาง และ ความสมดุล การถ่วงดุล เข้าในการคิด
มีขาว ก็ต้องมีดำ ภายในขาวก็มีดำ ในดำก็มีขาว
ดังนั้นในโลกนี้ จะมีแต่ความดีอย่างเดียวไม่ได้ และ จะมีแต่ความชั่วอย่างเดียวไม่ได้ ทุกอย่างต้องมี ความสมดุล และก็ต้องมีสิ่งที่ถ่วงดุล ระหว่างความดีและความชั่วครับ