หน้า: 1 2  ทั้งหมด

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: แฉ!!ปี53 ธปท.ขาดทุนจากอะไรถึง4แสนล้าน?  (อ่าน 21602 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 17:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
มันก็เกิดจากการที่รัฐบาลไทยที่ผ่านๆมาทุกรัฐบาลเอาเงินไปซื้อพันธบัตรของชาติอเมริกา และยุโรปนั่นแหล่ะ

ย้ำ!! ทุกรัฐบาล ชอบไปซื้อพันธบัตรของอเมริกา และยุโรปกันนัก เป็นเวลาต่อเนื่องมาหลายสิบปีแล้ว

และปี52 อเมริกาเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทชั้นน้ำอย่างCity groupบริษัทแม่ของซิตตี้แบงค์ก็เป๋ และธนาคารหลายแห่งล้ม เช่นAIG บริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทแม่AIA ก็ต้องให้รัฐบาลอเมริกามาอุ้มไว้เป็นต้น

พันธบัตรของบริษัทเหล่านี้ ทำให้ประเทศที่ไปซื้อพันธบัตรขาดทุนยับ รวมทั้งไทยด้วย

ปี53 ยุโรปหลายประเทศพบวิกฤติเศรษฐกิจผลกระทบเริ่มมาจากกรีซ!!และลามเป็นลูกโซ่ ต่อเนื่องไปที่โปรตุเกส อิตาลี สเปน เป็นต้น

ฉะนั้นการที่ธปท. ขาดทุนมันคือผลมาจากทุกรัฐบาลชอบไปซื้อพันธบัตรของต่างชาติ และการที่ธปท.ใช้เงินดอลล่าห์เป็นทุนสำรองเงินตราเป็นอัตราส่วนที่มาก ทำให้ขาดดุลทางค่าเงิน!! เป็นการขาดดุลทางบัญชี

ฉะนั้นอาจมีคนโง่บางคนไม่รู้เรื่อง เอาแต่ยกข่าวมาอ้างโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่??

ขอให้คนไทยที่ไม่ได้ตามข่าวอย่าตกเป็นเหยื่อของคนโง่บางคนครับ ที่แค่โพสเพื่อทำลายเครดิตเท่านั้น

(ถ้าจะด่ารัฐบาล ก็ต้องด่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ต้องรับผิดชอบร่วมกัน)




ทีนี้รัฐบาลใหม่ด่ารัฐบาลเก่าเรื่องกู้เอาไว้มาก ฉะนั้นเลยเลี่ยงกู้ จะไปเอาทุนสำรองเงินตรามาถลุงแทน

ถ้าคนเข้าใจเรื่องทุนสำรองอย่างดี ย่อมไม่เห็นด้วยการการนำเงินทุนสำรองไปลงทุนเพื่อหวังกำไร เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง

ทุนสำรองเขามีไว้ปกป้องหรือค้ำประกันค่าเงินในการพิมพ์ธนบัครออกใช้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่เอาไปเสี่ยงลงทุน!! เพราะถ้าขาดทุน มันก็ไม่มีใครออกมารับผิดชอบหรอก!! เพราะถือว่าเป็นนโยบายรัฐ


เพราะการดำเนินนโยบายรัฐที่ผิดพลาด อย่างเก่งก็แค่โดนด่า เหมือนสมัยปี40 รัฐบาลปกป้องค่าเงินบาทจนทุนสำรองเกือบหมดเป็นต้น แต่ก็ไม่มีนักการเมืองคนไหนต้องชดใช้!!

V


V
q*082
คลิก --> ดีแต่พูด vs ดีแต่โม้ q*013




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 6 ก.ย. 11, 04:55 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 17:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อวดเก่งไปเรื่อยฉลาดตายล่ะ เอก ICU เอ้ย รู้จักยอมรับความจริงบ้าง ชอบดูถูกคนอื่นเหมือนพรรคการเมืองบางพรรค ที่ชอบดูถูกประชาชน ซึ่งคนที่ฉลาดกว่า พรรคที่ฉลาดกว่าเค้าไม่ทำกัน

เงินสี่แสนล้านนะไม่ใช่บาทสองบาท ไหนล่ะฝีมือในการบริหารจัดการของขุนคลังโลก แล้วความรับผิดชอบของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย และรัฐบาลที่กำกับดูแล ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ตรงไหน???


^

^

akecity ขอตอบว่า

ว่างๆไปหาความหมายคำว่าเอก ICU ในกูเกิ้ลอ่านบ้างนะครับว่าแปลว่าอะไร??คุณredloveจะได้ฉลาดสุดๆ

และการที่พันธบัตรต่างชาติและเงินดอลล่าห์ตก ไม่มีใครไปควบคุมได้หรอกครับ เพราะมันนอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลไทย เพราะมันคือวิกฤติเศรษฐกิจโลก

ฉะนั้นการที่คุณบอกว่า เป็นการบริหารจัดการของขุนคลังนั้น แสดงว่าคุณredไม่เข้าใจระบบมากกว่า

แต่พันธบัตรต่างชาติของไทยไม่ได้หายไปไหน เงินดอลล่าห์ก็ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศเหมือนเดิมแถมมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

แม้แต่รัฐบาลจีนและรัฐบาลญี่ปุ่นก็ขาดทุนทางบัญชีกับพันธบัตรอเมริกานับล้านๆบาท

ถ้าสมมุติว่าเศรษฐกิจอเมริกากลับมาดีขึ้น ค่าเงินดอลล่าห์แข็งขึ้น มันก็มาชดเชยตัวเลขที่ขาดดุลทางบัญชีเอง

เงินดอลล่าห์ไทยไม่ได้น้อยลง แต่ค่าเงินมันน้อยลงครับ เพราะเงินบาทมันแข็งขึ้น

อธิบายแค่นี้คุณredlove พอจะเข้าใจมั้ยครับ??


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 4 ก.ย. 11, 19:51 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 18:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณมาก...

ว่าแต่วิกฤติปี52 มีแบงค์อะไรบ้างน๊า ที่ได้รับผลกระทบ

เหมือนไม่แน่ใจ ว่าใช่ที่ได้ยินนั้นจริง? ทำให้ลืม จำไม่ได้ q*034

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นะฮะ
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 18:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เขาเอาเรื่องจริงมาบอกให้สังคม...กลายเป็นคนโ่เขลาในสายตาของนายใหม่ เมืองเอก...

ส่วนคนฉลาดสุด ๆ ในทัศนะของนายใหม่ ก็คือ พวกที่ชอบโอ้อวดตนเองว่าเป็นขุนคลังระดับโลก..จนได้รับรางวัลขุนคลังดีเด่..น...ฮ่า ๆ...


สุดแสนจะอนาถใจง่ะ...!!!!!!!
q*031q*032q*073
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 18:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
อวดเก่งไปเรื่อยฉลาดตายล่ะ เอก ICU เอ้ย รู้จักยอมรับความจริงบ้าง ชอบดูถูกคนอื่นเหมือนพรรคการเมืองบางพรรค ที่ชอบดูถูกประชาชน ซึ่งคนที่ฉลาดกว่า พรรคที่ฉลาดกว่าเค้าไม่ทำกัน

เงินสี่แสนล้านนะไม่ใช่บาทสองบาท ไหนล่ะฝีมือในการบริหารจัดการของขุนคลังโลก แล้วความรับผิดชอบของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย และรัฐบาลที่กำกับดูแล ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ตรงไหน???
นี่ก็ว่าแต่ความเห็นอื่นตัวเองฉลาดตายล่ะมีข้อมูลไรไม่เผยดีแต่เข้ามาเอาสีข้างแถ เบื่อพวกแบบนี้มากค่ะขอบอกถ้าตัวเองไม่ฉลาดก็อย่าไปว่าเหมือนคนอื่นเขาโง่อวดฉลาดเลย เซ็ง
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 19:26 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ก็เขาบอกให้เก็บทองคำแทนดอลลาร์ไงล่ะ...ทำไมไม่มีใครคิดบ้างล่ะหือ
ดูอย่างเกาหลีซิ ที่ได้รับบริจาคเป็นตัน ๆ ป่านนี้เขาคงกำไรงอกเงยมาแล้ว...
สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ....มันก็มีิสิ่งที่ให้คาดเดากันได้หลายอย่าง..ที่
มันจะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะสหรัฐ--และญี่ปุ่น จนลามไปถึงยุโรป...
หากคนมองโลกในแง่ดี...เอาเงินเหล่านี้มาซื้อเป็นทองคำแท่งเก็บแทน...
อะไรมันจะเกิดขึ้นพระเดชพระคุณ...มันคุ้มค่ายิ่งกว่าการถือดอลล่าร์เป็นไหนๆ
จริงไหมเอก....คำว่าเอาเงินไปลงทุน บางครั้งมันก็คลุมเครือ แต่เอามาเพื่อตุน
ทองคำ...มันไม่มีวันเจ๊งหรอกอะนะ....พ่อยอดขมองอิ่มทั้งหลาย มันอยู่ีที่กี๋น
มันอยู่ที่แนวคิด..มันอยู่ที่การต่อยอด...และตอบโจทย์ให้ได้ ว่าอะไรที่เสี่ยง
อะไรที่ลงทุนแล้วไม่เสี่ยง....เอ้าใครจะเถียงรีบเถียงออกมา...หากเขาเอามา
ลงทุนทางด้านนี้ จะมีใครไหม ออกอาการคลุ้มคลั่งกันอีก...เฮ้อเหนื่อย



^

^

akecity ขอตอบว่า

ถูกต้องครับ ทุนสำรองควรเป็นทองคำมากกว่เงินดอลล่าห์

เพราะที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนฉลาดคิดได้เลยสักรัฐบาลครับ ว่าควรเก็บทองคำให้มากกว่าเงินเดอลล่าห์

ทำให้ประเทศไทยถือเงินดอลล่าห์ในทุนสำรองซะเป็นส่วนใหญ่

แต่มาวันนี้ทุกชาติรู้แล้วว่า การถือดอลล่าห์อาจกลายเป็นแค่เศษกระดาษก็ได้ เลยหันมาเก็บทองคำแทนเงินUSดอลล่าห์กันใหญ่

ทำให้ตอนนี้ราคาทองในตลาดโลกสูงขึ้นมาก แถมกองทุนเฮดฟันจ์ก็ย้ายจากการลงทุนค้าเงิน และน้ำมันมาปั่นราคาทองแทน

ซึ่งเป็นการปั่นราคาทองบนกระดาษในตลาดทอง ทำให้ราคาทองในปัจจุบันไม่สะท้อนราคาที่เป็นจรืง

ฉะนั้นถ้าจะให้รัฐบาลเอาเงินทุนสำรองไปลงทุนเรื่องทองก็ไม่ควรทำในเวลานี้ครับ เพราะอาจเหมือนตอนที่น้ำมันเคยพุ่งไป145เหรียญและตกลงมาเหลือ50เหรียญช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

และหากข้าราชการไทยและนักการเมืองไทยน่าเชือถือเหมือนข้าราชการและนักการเมืองสิงคโปร์ การที่ไทยจะมี กองทุนแบบเทมาเส็ก นั้น ก็นับว่าดี

แต่เผอิญข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทยไม่ค่อยน่าเชื่อถือในเรื่องความซื่อสัตย์น่ะสิครับพี่พันตา
q*027




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 17:04 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 19:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เคยลงชื่อกำกับและเวลาทุกครั้ง(นี่นา...) q*032

เมื่อทำการแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อมูล!!! q*014

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 19:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 


หากตรงประเด็นก็ไม่มีอะไรจะโต้แย้งค่ะคุณpantakongmha q*062

ต่อไปนี้ ก็ต้องมาลุ้นดูทิศทางความเป็นไปได้ ว่ารัฐจะโชว์กึ๋น

หรือโชว์ตับกัน q*073
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 20:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถึงอย่างไร...

การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในบางเรื่อง

หากเพื่อเป็นการกู้และสร้างฐานอันมั่นคง

ต่ออนาคตของชาติ

หากดูแล้ว ไม่เป็นการเสี่ยงจนเกินไป

ก็ควรให้เวลาและโอกาสรัฐบาลได้ทำงาน.

แต่หากจะคอยเป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องดูแล

และตรวจสอบการทำงานของรัฐ

นั่นก็คือ ท่านได้ทำหน้าที่ของประชาชนของท่าน

ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ q*071

(พูดคนละเรื่องเดียวกันอยู่น่ะ!!!)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 20:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ถึงอย่างไร...

การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในบางเรื่อง

หากเพื่อเป็นการกู้และสร้างฐานอันมั่นคง

ต่ออนาคตของชาติ

หากดูแล้ว ไม่เป็นการเสี่ยงจนเกินไป

ก็ควรให้เวลาและโอกาสรัฐบาลได้ทำงาน.

แต่หากจะคอยเป็นหูเป็นตา คอยสอดส่องดูแล

และตรวจสอบการทำงานของรัฐ

นั่นก็คือ ท่านได้ทำหน้าที่ของประชาชนของท่าน

ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ q*071

(พูดคนละเรื่องเดียวกันอยู่น่ะ!!!)

ทีรัฐบาลนี้จะกู้ พวกที่สนับสนุนก็ใช้เหตุผลมารองรับการกู้ได้

ในรัฐบาลที่แล้ว ผมเคยอธิบายไปหลายครั้งแล้วว่า รัฐบาลปชป.เข้ามาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ เพราะเงินคงคลังแทบไม่มีเหลือจากรัฐบาลก่อนหน้านั้น คือรัฐบาลไหรไปหาเอาเอง

ก็เลยต้องกู้มาแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ แต่พวกฝ่ายตรงข้ามก็โจมตีโดยไม่ดูที่มาที่ไปเลย

ที่สำคัญการกู้มาแก้ปัญหาวิกฤติชาติก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี นานาชาติต่างยกย่องรมต.คลังไทยในตอนนั้น



นิตยสารยักษ์ใหญ่อังกฤษ The Banker ยก “กรณ์” เป็นรัฐมนตรีคลังยอดเยี่ยมของโลกและระดับภูมิภาคเอเชียปี 2010


กรณ์ จาติกวณิช นิตยสาร The Banker Magazine (ในกลุ่ม Financial Times) เลือกนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ของประเทศไทยเป็นผู้รับรางวัล “รัฐมนตรีคลังของโลกปี 2010 และรัฐมนตรีคลังเอเชียแห่งปี 2010”
รางวัล “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโลกแห่งปี” นั้น The Banker คัดเลือกระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ทวีปอเมริกา (เปรู) ทวีปยุโรป ทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ที่มีผลงานดีเด่นในด้านต่างๆ รวมถึงด้านการตัดสินใจในด้านนโยบายและการวางรากฐาน การปฏิรูปนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง

นอกเหนือจากระดับโลกแล้ว The Banker ยังได้คัดเลือกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระดับภูมิภาคอีกด้วย โดยผู้ได้รับรางวัลรัฐมนตรีคลังภูมิภาค ได้แก่ นายลูอิส คาร์เรนซา จากประเทศเปรู เป็นรัฐมนตรีคลังแห่งอเมริกา นาย ยาเซค โรสโตฟสกี จากประเทศโปแลนด์ เป็นรัฐมนตรีคลังแห่งยุโรป นายชาร์ส โคฟี ดีบี จากประเทศ ไอวอรีโคสต์ เป็นรัฐมนตรีคลังแห่งแอฟริกา นายยูซุฟ บูโทรส-กาลี จากประเทศอียิปต์ เป็นรัฐมนตรีคลังแห่งตะวันออกกลาง




หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทั้งญี่ปุ่น และฮ่องกง เสนอชื่อ กรณ์ จาติกวณิช ลงชิงเก้าอี้ผู้นำไอเอ็มเอฟคนต่อไป ด้าน กรณ์ เผย ยินดีที่ถูกเสนอชื่อ และเชื่อนอกจากตนแล้วยังมีชาวเอเชียอีกหลายคนที่เหมาะนั่งเก้าอี้ไอเอ็มเอฟ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 21:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ท่าน กรณ์ เป็นคนเก่ง

เคยเป็นฮีโร่ในใจเมื่อก่อน

คิมยอมรับ...

แต่คุณเอกก็คงพอจะดูออก

ในบางมุมของท่าน ที่แปลงร่างเป็นแมงสาป

ทำให้คิมรับไม่ได้ นั่นแหล่ะ

ทำไม คิมถึงเปลี่ยนใจ

จากที่เป็นฮีโร่ กลายเป็นคนนอกสายตา(สายตาคิม)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 21:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณk ครับผมเพียงแต่เห็นว่า ถ้าใครจะตำหนิรัฐบาลก็ต้องยกที่มาที่ไปให้ถูกต้อง เพื่อความรู้ต่อคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร (อันนี้หมายถึงคนอื่นไม่ใช่คุณk)

อย่างเช่นถ้าตำหนิเรื่องน้ำมันปาล์มว่ารัฐบาลที่แล้วแก้ปัญหาล่าช้า อันนี้ถูกต้อง

แต่ถ้าเรื่องกู้เงิน ก็ต้องดูด้วยว่าทำไมต้องกู้ กู้เพื่ออะไรครับ

แต่ที่ผ่านๆมา ฝ่ายตรงข้ามปชป. ได้แต่บอกด่าว่ากู้ๆๆๆ โดยฟังตามๆกันมา

แล้วเรื่องดีแต่พูด ก็ต้องวิเคราะห์ลงไปว่าดีแต่พูดเรื่องอะไร แค่ไหนอย่างไร

แต่ที่ผ่านมา ฝ่ายตรงข้ามเถียงสู้ฝ่ายปชป.ไม่ได้ เลยเอาเรื่องดีแต่พูดมาโจมตีเท่านั้น


ผมมองอย่างเป็นกลางครับ เพราะผมก็ไม่ได้ชื่นชอบอะไรพรรคนี้เหมือนกัน



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
k542
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 4 ก.ย. 11, 22:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณมาก สำหรับคำชี้แจง q*063q*014

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 08:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ยอมรับว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ นี่ถ้าท่านทำงานอีก 4 ปีประเทศไทยคงมั่งคั่งร่ำรวย ทำให้รายได้ภาคพลเรือนสูงขึ้นตามไปด้วย เสียดายคนส่วนใหญ่เลือกพรรคดีแต่โม้ โอ้อวดแหลแก่ง มาทำงาน ประเทศไทยคงจนต่อไปอีกเพราะพรรคขี้โม้เตรียมจะกู้เงินมโหฬาร ทำงานแค่ไม่ทันไรก็กู้เงิน 20000 ล้านบาทแล้ว ปากก็แหลหลอกประชาชนว่าราคาน้ำมันลดลงราคาสินค้าจะลดลงตาม ที่ผ่านมา 1 อาทิตย์ สินค้าไม่เห็นลดลงเลย มีแต่จะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนประชาชนก็มีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจมหัวละคราวนี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 08:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คุณk ครับผมเพียงแต่เห็นว่า ถ้าใครจะตำหนิรัฐบาลก็ต้องยกที่มาที่ไปให้ถูกต้อง เพื่อความรู้ต่อคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร (อันนี้หมายถึงคนอื่นไม่ใช่คุณk)

อย่างเช่นถ้าตำหนิเรื่องน้ำมันปาล์มว่ารัฐบาลที่แล้วแก้ปัญหาล่าช้า อันนี้ถูกต้อง

แต่ถ้าเรื่องกู้เงิน ก็ต้องดูด้วยว่าทำไมต้องกู้ กู้เพื่ออะไรครับ

แต่ที่ผ่านๆมา ฝ่ายตรงข้ามปชป. ได้แต่บอกด่าว่ากู้ๆๆๆ โดยฟังตามๆกันมา

แล้วเรื่องดีแต่พูด ก็ต้องวิเคราะห์ลงไปว่าดีแต่พูดเรื่องอะไร แค่ไหนอย่างไร

แต่ที่ผ่านมา ฝ่ายตรงข้ามเถียงสู้ฝ่ายปชป.ไม่ได้ เลยเอาเรื่องดีแต่พูดมาโจมตีเท่านั้น


ผมมองอย่างเป็นกลางครับ เพราะผมก็ไม่ได้ชื่นชอบอะไรพรรคนี้เหมือนกัน




หวัดดีครับ ท่านเอก ขอร่วมด้วยช่วยกัน.

ผมว่าที่ท่านเอกบอกว่าฝ่ายตรงข้ามเถียง ปชป ไม่ได้เลยอ้างเรื่องดีแต่พูดนั้นน่ะ คุณเอกลองเอาผลสำรวจของ ดร.คญ กัลยา โสภณพนิช แห่งพรรค ปชป ที่ลงทุนจ้างเอกชนออกตะเวนสอบถาม ปชช ทั่วประเทศว่าที่ ปชป แพ้เลือกตั้ง พท เพราะอะไร ขนาดคนในพรรคเองยังยอมรับ และยอมปรับแผนการทำงานเลย ไม่ต้องว่าฝั่งตรงข้ามหรอก คนทั่วไปที่ไม่ใช้ พท เค้าก็เห็นด้วยว่า ทำงานเชื่องช้า-แก้ปัญหาล่าช้าไม่ตรงจุด-ไม่เข้าถึง ปชช รากหญ้า เอาหน้าแต่คนกรุง ชอบพูดถึงแต่ ทักกี้ ถ้าจนตรอก คุณเอกลองเอามาพิจารณาด้วย ซิครับ. อันนี้เรื่องของในพรรคเลยน่ะครับไม่ต้องโทษคนนอกพรรคเลย.(ผมไม่ได้ว่าคุณเอกเข้าข้าง ปชป น่ะ) q*073

ส่วนความเห็นของคุณพันตาเป็นคำตอบที่หาที่ติมิได้ เพราะการลงทุนเกี่ยวกับทองคำนั้น ดีที่สุดแต่ทำไมไม่มีใครสนใจเพราะอะไรน่าจะพอรู้ๆกันอยู่บ้าง ไม่ว่า รบ ชุดไหนก็ทำตามกันหมดแล้วจะมาอ้างว่า รบ. ฉันดีกว่าเธอได้อย่างไรถูกไหมครับ. q*062


^

^

akecity ขอตอบว่า

ที่จริงคำตอบคห.ของคุณพันตาไปตั้งแต่เมื่อคืนเรื่องทองคำ ว่าตอนนี้ไม่ควรลงทุนด้านทองคำเพราะอะไร

แต่การเปลี่ยนจากการถือทองคำแทนเงินดอลล่าห์อันนี้ถูกต้อง แต่ต้องรอดูจังหวะให้เหมาะสม เพราะตอนนี้ทองคำมีการปั่นราคากันมากครับ

เรื่องคุณหญิงกัลยาผมได้อ่านแล้วครับ แต่คุณsta ได้อ่านเรื่องที่คุณไกรศักดิ์วิเคราะห์เหตุความพ่ายแพ้รึยัง?? ไปหาอ่านนะครับ อันนี้สมเหตุผลมากกว่าการทำโพลซะอีก

ส่วนความคิดของผม ผมเขียนไว้ในบทความของตัวเอง ก่อนการเลือกตั้ง แล้วครับว่า ทำไมปชป.ถึงจะแพ้การเลือกตั้ง

ลองไปอ่านได้ที่บทความเรื่อง สาเหตุที่ประชาธิปัตย์จะแพ้เลือกตั้ง54 ได้ที่

http://akelovekae.blogspot.com/2011/06/54.html



q*027
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 16:56 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
solono
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 10:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มันก็อาจจะถูกที่ทั่นว่ามา แต่ในความเป็นจริง มันเป็นความจำเป็นในเชิงธุรกิจ ที่ต้องไปซื้อเงินดอล ในระบบเศรษฐกิจโลกมันเป็นแบบนั้น ถ้าลงลึกในรายละเอียดมันจะยาว เพียงแต่ตอนนี้ เมกากำลังถูกลดความน่าเชื่อถือ ก็น่าสนใจที่รัฐควรเริ่มพิจารณาหันจากยุโรปมาทางฝั่งเอเชีย และที่น่าสนใจไปกว่านั้น เมกามีโอกาสเดี่ยงสูง ต่อไปเราอาจไปซื้อเงินหยวนแทน..

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 10:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"ฟามเห็นไม่ขึ้นลองใหม่"

ผมติดใจนิ้ดเดียวว่าทำไมคุณเอก ต้องตำหนิคนที่นำเสนอเรื่องนี้ว่าเป็นคนโง่ด้วยล่ะครับ??? หรือว่าคนฉลาดต้องชื่นชมทุกอย่างที่รัฐบาล ปชป ทำไว้งั้นหรือ แม้แต่ความเสียหายต่อชาติเป็นหลายแสนล้าน ก็ต้องช่วยหาเหตุผลมาทำให้ดูดี ทีทักษิณให้ Exim ปล่อยกู้พม่าไม่กี่พันล้าน เพื่อซื้อใจเพื่อน แลกกับสัปทานก๊าซ มูลค่าหมาศาล ยังไม่มีอะไรเสียหาย จะเป็นจะตายกัน ต้องหาคนเข้าคุกให้ได้ มันไม่มีอะไรที่มีแต่ได้หรอกนะครับ

การบริหารความเสี่ยงเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้กำกับดูแลก็คือรัฐบาล ก็ในเมื่อมันขาดทุนไปตั้งสี่แสนล้านจะให้ชื่นชมได้อย่างไรล่ะครับ ส่วนจะแก้อย่างไร ป้องกันความเสี่ยงอย่างไร ผมคงไม่บังอาจแนะนำธนาคารชาติหรอกนะครับ เพราะผมเองก็ยังขาดทุนเป็นล้านจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าจาก 49 บาท มาเป็น 39 บาท ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน แต่เห็นข่าวนี้แล้วก็สบายใจขึ้นนะครับ เพราะทำให้รู้ว่าขนาดธนาคารชาติยังขาดทุน อืม...เราไม่ได้โง่คนเดียวนี่หว่า ปีนี้ดีหน่อยอิงต้นทุนที่ 39 บาท ขายได้ 42 43 บาท เริ่มฉลาดขึ้นนิดหนึ่ง


แต่ก็นะคนที่ต้องรับผิดชอบธนาคารชาติ หลังเกิดความเสียหายแล้ว จะมาอ้างโน่นอ้างนี่ ก็คงจะไม่ใช่ที่เพราะคุณมีหน้าที่ในการวิเคราะห์และป้องกันความเสี่ยง ของเงิน ของทรัพย์สินประเทศชาติ

^

^

akecity ข อตอบว่า

ก็เรื่องการขาดดุลค่าเงิน มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครแก้ไขได้ทั้งนั้น เพราะมันนอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลไทย ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็แก้ไขไม่ทันทั้งนั้น

ผมขอย้อนกลับไปหน่อยว่า วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มัเริ่มในช่วงรัฐบาลสมชาย แล้วมาหนักมากตอนเริ่มรัฐบาลอภิสิทธิ์

การขาดทุนทางบัญชีจากพันธบัตรและค่าเงิน จึงเป็นความผิดของทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ไม่คิดเรื่องเก็บทองคำให้มากกว่าเงินดอลล่าห์

ผมถือว่าเป็นความผิดทุกรัฐบาลครับ ที่ไม่เคยคิดเก็บทอง แถมก็เห็นไปซื้อพันธบัตรอเมริกากันทั้งนั้น

ฝ่ายค้านถ้าเห็นว่าการเก็บทองคำน่าจะดีกว่าดอลล่าห์ ก็ควรเสนอรัฐบาลไป ถ้ารัฐบาลไม่เชื่อฝ่ายค้าน ก็จะตำหนิรัฐบาลได้เต็มปาก แต่ฝ่ายค้านไทยก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้นผมว่าผิดกันทุกฝ่ายน่ะครับ

ซึ่งทั้งจีนและญี่ปุ่นก็โดนเหมือนกับไทย เพียงแต่ว่า เขามีทองคำในอัตราส่วนที่สูงมากในทุนสำรอง

ส่วนเรื่องที่คุณติดใจว่าทำไมผมด่าบางคนว่าโง่นั้น นั่นเพราะ กระทู้นี้ครับ

http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3488934

คือการจะโจมตีว่ารัฐบาลที่แล้วทำขาดทุน4แสนล้าน มันต้องควรบอกคนอ่านให้รู้ว่า ทำไมถึงขาดทุน แต่การอ้างลอยๆโดยไม่มีเหตุผลประกอบว่าทำไมขาดทุน

ผมจึงตำหนิว่า การตั้งกระทู้เพื่อโจมตีโดยไม่ให้เหตุผลเรื่องการขาดทุน นั่นคือการกระทำของคนโง่ที่พยายามจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดครับ

ส่วนการปล่อยกู้ให้พม่า ถ้าไม่ให้พม่ากลับมาซื้อของในบริษัทตัวเอง ก็จะไม่มีถูกกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 17:19 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แม่คางคก
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 10:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอหน่อยละกัน สังเกตุมานานแระ รู้สึกว่าเจ้าของกระทู้จะตั้งหน้าตั้งตา เข้าข้างและสรรหา ข้อมูลมาโจมตีฝ่ายตรงข้ามเหลือเกิน ทำใจให้กลางๆหน่อย ให้โอกาสรัฐบาลเค้าทำงานก่อนนี้เพิ่งเริ่มเอง ถ้าเค้าทำไม่ได้ ดีแต่พูด ครั้งต่อไปคนก็ไม่เลือกเค้าเอง
เรื่องเงินทุนสำรองของประเทศ เท่าที่รู้ๆๆกันอยู่ หรือแม้แต่ขุนคลังที่ คิดว่าตัวเองฉลาดซะเหลือเกิน ทำไมไม่คิดจะทำ หรือริเริ่ม เอาเงินสำรองของประเทศไปซื้อทองคำแทนส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ซื้อพันธบัตรต่างประเทศก็ได้ แปลกจริงๆ ย้ำว่า ทุกรัฐบาลนะ มีรัฐบาลไหนบ้างนะ ที่ผ่านๆมา หรือว่า ไม่มีรัฐบาลอภิสิทธิ์ในนั้นด้วย

ปล เราไม่ได้อยู่สีไหน ไม่ต้องมาเหมารวมว่าเราเสื้อแดง แค่แสดงความคิดเห็นในฐานะคนไทยคนหนึ่งเหมือนกัน


^

^

akecity ขอตอบว่า

ผมตำหนิทุกรัฐบาลไทยนั่นแหล่ะครับ ที่ถือเงินดอลล่าห์มากกว่าถือทองคำ

เรื่องซื้อพันธบัตรต่างชาติ ที่จริงไม่มีใครผิดหรอกครับ เพราะทุกชาติทั้งจีน ญี่ปุ่น เขาก็ซื้อเหมือนกับไทยทั้งนั้น

ผมถึงเห็นว่า จะเอาเรื่องพันธบัตรและการขาดทุนค่าเงินมาโจมตีรัฐบาลที่แล้วรัฐบาลเดียวนั้นไม่ถูกต้อง

เพราะที่ถูกคือ ทุกรัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกันครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 17:23 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เฉื่อย
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 11:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เมื่อเช้าดูข่าวเรื่องนี้ก็ตกใจเหมือนกัน แต่พอไดอ่านคำอธิบายก็เข้าใจมากขึ้นค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ansmba
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 11:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จขกท.มีความสุขในการได้ว่าคนทีไม่เห็นด้วยกับ ปชป.ตลอด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เสนอ
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 11:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อย่ามาทะเลาะกันอยู่เลย แก้ไขไม่ใช่แก้แค้น อย่ามาโม้อยู่ได้ ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดจงแก้ไขจากความผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
วิเคราะห์ได้ว่า
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 12:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมอ่านหลายๆ comment ไม่เข้าใจว่าเข้าใจผิดจากสิ่งที่ผู้ตั้งกระทู้เสนอหรืออย่างไร?

เนื้อความเหมือนเป็นการอธิบายเรื่องการประเมิณสถานการณ์ผิดโดยการใช้วิธีเดิมๆในการบริหารโดยการซื้อพันธบัตรมาเก็งกำไรจากกลุ่มประเทศที่ปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงเชิงเศรษฐกิจและค่าเงิน

ทำให้รัฐบาล ยิ่ง ล 1 เลยไม่กู้เงินแล้วเพราะเคยกล่าวโจมตีรับบาล อภิ ส เรื่องการกู้ โดยการเอาเงินคงคลังที่เป็นทุนสำรอง 5.4 ล้านๆมาใช้ ทำให้ประเทศพบความเสี่ยงสูงเมื่อเงินสำรองลดลงจากการนำไปลงทุนโดยไม่มีดอกเบี้ย แต่รอเพียงขาดทุน หรือ กำไร...

คำถามต่อไปของผมคือ ปี 2539 คุณ ทักษิณซึ่งคุมเรื่องนี้บริหารผิดพลาดทำเกิดต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตกจนประเทศวิกฤตเพราะนโยบายเอาเงินคงคลังและเงินสำรองไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก แต่ตัวเองกับผู้ใหญ่ของรับบาลกลับกำไรจากการเเลกเปลี่ยนเงินตรา จนมีเงินพุ่งขึ้น 13 บาท/ดอลล่า US กับยอดเงินกำไรที่ตนได้คนเดียวและประชาชนตกงาน ปิดกิจการ พินาศย่อยยับ กับกำไรนับแสนล้านบาทจากผลต่างของอัตราแลกเปลี่ยน...คุณทักษิณจะยอมชี้แจงหรือไม่??? และน้องสาวคุณหากยอมทำตามที่คุณสั่งว่าจะเอาเงินไปลงทุนด้านน้ำมันและพลังงานร่วมกับกัมพูชาในทะเลอ่าวไทยจากแนวระวางพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยจากเขาพระวิหารตามแนวพิกัดลงไป คุณไม่ลงทุนแต่เอาเงินประเทศไป คุณได้กำไร แล้วประเทศไทยได้อะไร คุณแบ่งเงินได้กำไรให้ประเทศเท่าไร และคุณจ่ายเงินค่าเงินกู้ให้ประเทศเท่าไร? ถูกต้องหรือไม่???

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เป็นกลางดีที่สุด
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 12:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากให้ด่ากันน้อยๆหน่อย เน้นหลักการเป็นสำคัญ ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย คนการเมืองไม่มีใครดีไปทุกเรื่องหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปอวดตัวหรอกว่าฉันมือสะอาดเธอโง่,ขี้โกง สำหรับเรื่องขาดทุนของแบงค์ชาติในปี53 ก่อน รมว.คลังให้ข้อมูลผ่านfacebook มีกี่คนในประเทศนี้ที่รู้เรื่อง เรื่องคอขาดบาดตายคนไทยไม่สิทธิ์รับรู้เลยรึไง ความเสียหายหากเกิดขึ้นต่อให้ผู้ว่าฯแบงค์ชาติสิบคนร้อยคนก็รับผิดชอบไม่ไหว เพราะฉะนั้นเป็นอิสระน้อยๆหน่อยก็ดี อย่าให้ถึงขั้นเป็นอิสระจากรัฐ คนทำธุรกิจยุคหลายปีก่อน ไม่มีใครลืมนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์กับอดีตผู้ว่าฯเริงชัย มะระกานนท์หรอก ไม่มีคนไทยคนไหนรู้หรอกว่าเรามีผู้ว่าแบงค์ชาติระห่ำขนาดนั้น ผู้ว่าฯแบงค์ชาติรับผิดชอบอะไรบ้าง หลังจากวิกฤตของประเทศเกิดขึ้น และข้อมูลที่รมว.คลังชี้แจงอีกเรื่องน่าสนใจ ดูว่าแบงค์ชาติและคลังจะแก้ปัญหาเงินต้นและดอกเบี้ยจาก กองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินอย่างไร เรื่องนี้เป็นภาระหนักของคลังและแบงค์ชาติมานาน แต่ไม่ค่อยเป็นข่าวหลายคนก็เลยลืมๆไป ส่วนเรื่องกองทุนความมั่งคั่ง เป็นหน้าที่ของรมว.คลังต้องตอบสังคมให้ได้ว่าจำเป็นอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องผิดวินัยการคลัง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ควายแดง
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 12:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"redlove" ชื่อก็บอกยี่ห้อ สุนัขรับใช้ของควายแดง จะไปมีความคิดอะไรได้ นอกจากออกมาแสดงความคิดโง่ ๆ I'Baa

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนโง่
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 12:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
"ฉะนั้นอาจมีคนโง่บางคนไม่รู้เรื่อง เอาแต่ยกข่าวมาอ้างโดยไม่ศึกษาข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่??
ขอให้คนไทยที่ไม่ได้ตามข่าวอย่าตกเป็นเหยื่อของคนโง่บางคนครับ ที่แค่โพสเพื่อทำลายเครดิตเท่านั้น"

คนที่โพสนี่ตามข่าวว่าเป็นรมว.คลังนะครับคงไม่โง่หรือไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่คิดว่าคงเก่งกว่าคุณแน่นอน
"แต่ถ้าเรื่องกู้เงิน ก็ต้องดูด้วยว่าทำไมต้องกู้ กู้เพื่ออะไรครับ"
แล้วกู้มาออกเช็คช่วยชาติคนละ2พันนี่สมเหตุสมผลมั้ยครับ
แล้วโครงการใครเข้มแข็งเอ่ยไทยเข้มแข็งไปดูได้ครับกู้ทั้งนั้น

นโยบาย99วันทำได้1.เราจะแก้ไขปัญหาภาคใต้อย่างเบ็ดเสร็จเพราะเป็นเจ้าของพื้นที่รู้ปัญหาดี2.เราจะตั้งโรงพยาบาลในทุกตำบลแฮ่ๆตั้งได้จริงๆด้วยเปลี่ยนชื่อจากสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแค่ยกตัวอย่างนะ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อะไรวะเนี้ย
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 12:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แต่ละคนทีแสดงความคิดเห็น...มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นโดยเฉพาะคุณเอก ว่าแต่ทำไมพวกคุณไม่ไปนำเสนอต่อรัฐบาลละครับ หรือออกข่าวแบบนักวิชาเกินทั้งหลายก็ได้ หรือว่าพวกคุณเก่งแต่หน้าคอมฯเท่านั้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณเอกครับ ผมลองคิดในแง่อีกมุม การเก็บ "เงิน" ในรูปแบบกองทุนนั้น

นับวัน "ค่า" ของเงินจะ "ต่ำ" ลงไป อย่างเช่นประเทศจีนและประเทศ สิงคโปร์เป็นต้น

ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าค่าเงินต่ำคืออะไร คือ "จากซื้อก๋วยเตี๋ยวถ้วยละ 5บาทต้องซื้อเป็น7-8บาท" นั่นเอง ย้ำนะครับว่สำหรับคนที่ไม่รู้

จึงต้องนำ "เงิน" นั้นมาลงทุนในต่างประเทศเพื่อ "เพิ่ม" มูลค่าเงิน

แต่เงินส่วนนี้ก็ต้อง "มีการจัดการ" ที่เป็นระบบ ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วอย่างประเทศ "จีนและสิงคโปร์" ทำมาแล้ว

ถึงตอนนี้ก็ต้องหวังพึ่งพรรคฝ่ายค้านล่ะครับช่วยตรวจสอบให้จริงจัง
การที่พรรคฝ่ายค้านตรวจสอบอย่างเข้มข้นนั้น "ผลประโยชน์ย่อมตกกับประชาชนทั้งประเทศ"


^

^

akecity ขอตอบว่า

การลงทุนถ้าได้กำไรก็ดีครับ แต่ถ้าขาดทุนมันก็แย่ครับ โดยเฉพาะการเอาทุนสำรองมาใช้ ถ้าเกิดเจ๊งเหมือนตอนที่รัฐบาลปี40 เอามาปกป้องค่าเงินบาท จนแทบหมดนั้น จนเกิดวิกฤติต้มย้ำกุ้ง

ใครจะรับผิดชอบล่ะครับ??

ผมไม่ได้คัดค้านเรื่องเอาไปลงทุน แต่ผมเห็นว่า น่าจะนำเงินคงคลังที่เหลือใช้ไปลงทุนดีกว่า ไปเอาทุนสำรองมาเสี่ยงครับ

เมื่อก่อนใครๆก็เชื่อว่าธนาคารใหญ่ระดับโลกจะมั่นคง แต่พอมีวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ธนาคารที่ว่ามั่งคงระดับโลกก็เจ๊งมาแล้ว



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 17:37 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผู้บริหารเงินภาษีของประชาชน(ธนาคารแห่งประเทศไทย) ผิด ๆ พวกนี้สมควรต้องรับผิดชอบต่อจำนวนเงินที่เราสุญเสียไป ทำไมไม่ดูหรือแก้ไขให้มันเร็วหน่อย ก่อนที่จะสูญเสียเงินภาษีของพวกเราไป พวกผู้บริหาหัดไปเรียนรู้กับประเทศสิงคโปร์เสียบ้างไม่ใช้ไปแก่บ่อนแถว ๆ ฮ่องกง ดูเขาว่าเขาลงทุนอย่างไร มีกำไรอย่างไร เบื่อจริง ๆ พวกผู้บริหารไร้สมอง (ได้ดีเพราะเส้นและนามสกุล)


ผู้เสียภาษี



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
บทความโดยคุณไสว
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วันนี้คงเป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดว่ายุคใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว เนื่องจากคนดีมีความรู้สึกว่าหาที่เดินลำบาก แต่เมืองไทยไม่ขาดเพื่อนเพราะหลายประเทศก็เป็นเช่นเดียวกันรวมทั้งบางประเทศ ที่เรียกว่าก้าวหน้าในอเมริกาและยุโรปด้วย ฉะนั้น สำหรับคนไทย การหาประเทศอยู่ใหม่ก็อาจมิใช่ทางเลือกที่ดี

ท่ามกลางข่าวสารด้านวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองอันสับสนอาจมีน้อยคนสังเกตว่า จอร์จ โซรอส งดรับเงินจากผู้อื่นเพื่อนำไปเก็งกำไรดังที่เคยทำจนสร้างตำนานของการสร้าง ความร่ำรวยมหาศาลจากกิจการเก็งกำไร จริงอยู่เขายังใช้เงินส่วนตัวและของคนในครอบครัวเก็งกำไรต่อไป แต่การงดรับเงินจากผู้อื่นเป็นพฤติกรรมตรงข้ามกับความคาดหมายเนื่องจากตาม ธรรมดาภาวะเศรษฐกิจยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นเท่าไร เขายิ่งทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น และตอนนี้แนวโน้มชี้ชัดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะปั่นป่วนมากขึ้น คาดกันว่าจอร์จ โซรอส จะใช้เวลาทำงานการกุศลมากขึ้นเพราะวันนี้เขาอายุ 81 ปีแล้ว หรือไม่เขาก็ไม่อยากยุ่งกับกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ของรัฐบาลซึ่งต้องการควบคุมกองทุนเพื่อเก็งกำไรให้เข้มงวดขึ้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ที่ดินมีค่ายิ่งกว่าทองคำ
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:44 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีแนวโน้มที่ชี้บ่งว่า แนวคิดทางด้านการเก็งกำไรได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ กองทุนเพื่อเก็งกำไรออกไปกว้านซื้อ หรือหาทางครอบครองที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศต่างๆ แม้กระทั่งในอเมริกาใต้และในแอฟริกา

เนื่องจากกองทุนจำพวกนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเหตุผลกับใครเพราะไม่ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้น สาเหตุของการเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาจึงเดากันไปต่างๆ นานา เช่น ตอนนี้มีกองทุนเพื่อเก็งกำไรจำนวนมากซึ่งมีเงินทุนจำนวนมหาศาลทำให้การแข่ง ขันเข้มข้นจนพวกเขาต้องมองหาสินทรัพย์ใหม่ๆ และการเก็งกำไรในที่ดินเพื่อการเกษตรอาจสร้างกำไรได้ถึงสองทาง นั่นคือ ทางแรก ราคาที่ดินเพื่อการเกษตรจะขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมันมีปริมาณลดลงเพราะการเสื่อมสภาพของดินอันเนื่องมาจากการใช้สาร เคมีและการชลประทานที่มีการระบายน้ำไม่เพียงพอ การใช้ที่ดินสร้างโรงงานและบ้านเรือนเพราะประชากรโลกเพิ่มขึ้น และผืนดินกลายเป็นทะเลทรายจากภาวะโลกร้อน ทางที่สอง ราคาสินค้าเกษตรนับวันจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการอาหารและพืชพลังงาน จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนยังผลให้การทำเกษตรกรรมได้กำไรสูง

นอกจากนั้น การมีที่ดินไว้ในครอบครองให้ความปลอดภัยสูงกว่าการมีเงินตราและหุ้นเนื่อง จากที่ดินไม่สูญหายไปไหน หากยังทำประโยชน์ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับทองคำ จะเห็นว่าราคาของทองคำพุ่งขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้งในช่วงนี้เพราะมีความต้อง การสูงมากอันเนื่องมาจากความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก ยิ่งกว่านั้น ที่ดินเพื่อการเกษตรมีค่าสูงกว่าทองคำในแง่ที่มันผลิตอาหารและพลังงานได้ใน ยามคับขันซึ่งทองคำทำไม่ได้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
5465321
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่ได้ดูเนื้อหานะแต่เห็นหัวข้อแล้วสงสารชาวบ้านอย่างเราๆๆแค่ขาดทุนแค่10-20 โดนเจ้านายอัดจนปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว แล้วทำไมคนบริหารความรู้ขนาด ด็อก..ถึงได้ทำให้เสียหายขนาดนี้ แล้วท่านด็อก...ท่านใดจะรับผิดชอบ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เก็บผืนดินไว้ให้ลูกหลาน
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ด้วยเหตุดังกล่าว ชาวต่างชาติจึงหมายตาเข้ามาซื้อ หรือครอบครองด้วยการเช่าจำพวก 99 ปีที่ดินเพื่อการเกษตรของไทยเพราะอากาศและแหล่งน้ำเอื้อให้ทำนาทำไร่ได้ตลอดปี จากนี้ไปพวกเขาจะยิ่งสนใจมากขึ้นและโอกาสที่พวกเขาจะทำสำเร็จก็มีมากขึ้น ด้วยเพราะปัจจัยสองอย่างคือ ผู้นำจำพวกฉ้อฉลและมีผลประโยชน์ทับซ้อนของไทยจะเข้ามามีบทบาทในด้านการ บริหารจัดการที่ดินมากขึ้น และชาวไร่ชาวนาจะตาโตเมื่อมีผู้เสนอซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าปกติ จึงขายให้พวกเขาไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเงินที่ดูเสมือนก้อนใหญ่นั้นจะ หมดไปในเวลาอันสั้นเมื่อบริหารจัดการไม่เป็นและจากภาวะข้าวยากหมากแพงซึ่งจะ เกิดขึ้นต่อไป ชาวไร่ชาวนาที่คิดว่าตนไม่ยากจนแล้วเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญหาสังคมในวันข้าง หน้าเนื่องจากจะหางานทำไม่ได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเพราะความคุ้นเคยกับการบริโภคแบบใหม่ในช่วง ที่มีเงินก้อนใหญ่จากการขายที่ดิน

ในภาวะเช่นนี้มีทางออกอย่างไร? เนื่องจากเราคงหวังอะไรไม่ได้จากนักการเมืองฉ้อฉลในยุคขี้ครอกออกยึดถนนยัง ผลให้คนดีต้องหนีไปเดินตามตรอกนี้ ฉะนั้น ผู้ที่มีเงินและเวลาอยู่บ้างควรหาทางซื้อที่ดินไว้เพื่อใช้ผลิตอาหารและพืช พลังงานเอง พืชพลังงานในที่นี้ไม่จำกัดอยู่ที่จำพวกใช้ทำน้ำมัน กลั่นแอลกอฮอล์หรือดีเซลชีวภาพ หากเป็นไม้ที่ใช้ทำฟืนและถ่านก็ได้ นอกจากจะทำรายได้หรือลดรายจ่ายแล้ว ต้นไม้ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ยิ่งกว่านั้น การถือครองที่ดินในช่วงนี้จะเป็นการป้องกันมิให้ที่ดินหลุดจากมือคนไทยไป อยู่ในมือต่างชาติซึ่งจะผลิตอาหารส่งตรงไปยังประเทศของตนในขณะที่คนรู้เท่า ไม่ถึงการณ์อดอยาก
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลงทุนเพื่อใคร
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตอนนี้มันคิดจะเอาเงินหลายแสนล้านบาทจากทุนสำรองทางการระหว่างประเทศไป
ลงทุนในอ่าวไทยกับฮุนเซ็นและชาติที่สาม ขาดทุนธนาคารชาติก็รับไป กำไรเข้ากระเป๋าทักษิณ
^
แล้วต้องเร่งด่วนด้วย เพราะมีเกาหลีมายื่นข้อเสนอกับฮุนเซ็นจะลงทุนในอ่าวไทย
และพื้นที่อื่นๆที่ฮุนเซ็นต้องการ เช่น เขาพระวิหารไม่ต่ำกว่าสามหมื่นล้านเหรียญ บวกผล
ประโยชน์บางอย่างยื่นให้เฉพาะฮุนเซ็น
^
ฮุนเซ็นก็เอาเรื่องนี้มาหักคอหาผลประโยชน์เพิ่ม
จากทักษิณ เพราะหักคอง่ายกว่าเกาหลีใต้

โกงในประเทศน่ะเก่งนัก แต่กับกุ๊ยเขมรกลายเป็นหมูไปซะได้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ถูกด้านเดียวเสมอ
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จะพูดจะแนะอะไรที่จริงๆท่านเอกก็รู้หมดเหมือนเราๆท่านๆนี่หละ เพียงแต่การนำเสนอชอบเอาความจริงด้านเดียวที่มีแต่ปัญหามาชี้นำ เพื่ออะไรก็เอาไปคิดดู ที่ว่าการลงทุนคือความเสี่ยง ก็ถูกแต่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเก็บๆให้มันเกินๆแล้วก็บอกประเทศมั่นคง เข้มแข็ง ก็อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรก็ไม่มีใครด่าง่ายดีออกจะตาย ใครจะเอาไปใช้ก็บอกเอาไปผลาญ ถลุง แต่ถ้าพูดอีกด้านการไม่ลงทุนเมื่อมีเงินเหลือเก็บเกินจากจุดที่เหมาะสมก็คือความฉิบหายเช่นกัน เพราะโลกนี้คือโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงมีอย่างรวดเร็ว แม้ตอนนี้อเมริกา ยุโรปยังย่ำแย่แต่ไม่แน่อาจไม่กี่เดือน รึไม่ถึงปีก็กลับมายิ่งใหญ่ได้ถึงตอนนั้นเท่ากับเสียโอกาสจะก้าวทำให้ต่อสู้ได้ หากเรามีเงินเกินเก็บจากจุดที่เหมาะสมความมั่นคง ดูได้จากไหนก็หน่วยงานที่รับผิดชอบที่ออกข่าวเค้าบอกได้อยู่แล้วว่าเก็บเกินแล้วนะจริงไหม ที่เหลือก็ต้องเอาไปดูว่ารัฐจะเอาไปทำไร จะใช้หนี้ผูกพันลดดอกเบี้ย จะลงทุนแบบหากำไรเสี่ยงน้อย รึจะลงทุนปัจจัยพื้นฐานที่ขาด ก็มีตั้งมากมายก็ช่วยกันคิดเสนอะแนะได้ ดีกว่ากู้มาเก็บ เก็บซะเกิน แล้วไม่เอามาทำอะไร แล้วบอกว่าดีแล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สนองตัณหาเหลี่ยม
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 13:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทีมศก.เพื่อไทย เตรียมหารือ ธปท. แบ่งทุนสำรองฯ ตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ ลงทุนสำรวจน้ำมันในตปท. ซื้อสัญญาพลังงานสะสม
*************************************
มันจ้องและกำลังจะลงมือถลุงเงินทุนสำรองฯของประเทศแล้ว
เอาไปซื้อสัญญาพลังงานล่วงหน้าลักษณะเดียวกันเล่นเก็งกำไรทองนั่นแหละ เงินส่วนตัวไม่มีใครว่า
เงินทุนสำรองฯของประเทศเอาไปเก็งกำไร

หรือแม้วซื้อไว้ล่วงหน้า มาเอาเงินทุนสำรองฯของประเทศไปดันราคา จะได้ขายของตัวเองที่ซื้อไว้ล่วงหน้า แล้วปล่อยให้เงินทุนสำรองฯของประเทศติดอยู่
ตอนขายชินคอร์ป แม้วเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าสนใจจะไปทำธุรกิจพลังงาน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียด (ลองค้นข่าวเก่าดูนะครับ ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาค้น)
ต่อมามีการปูดเรื่องแหล่งพลังงานในอ่าวไทยว่าทักษิณจ้องฮุบเป็นของส่วนตัวโดยแบ่งปันกับฮุนเซน (พร้อมแจกจ่ายนักธุรกิจ+นักการเมืองบางชาติ) คือ เอาผลประโยชน์ของสองประเทศมาเป็นสมบัติส่วนตัว ซึ่งกรณีเขาพระวิหารเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ

ดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนของการวางตัว รมต. การเดินงาน ก้าวย่างของแม้ว
วันนี้ชัดเจนแล้วครับ
โดยคุณ ssa

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เหลี่ยมวางคนไว้แล้ว
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 14:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

“คนหนึ่ง” จะต้องมาเรื่อง “คุมนโยบายค่าเงิน” และ “การซื้อทองเป็นทุนสำรอง” ซึ่ง “คนที่ได้รับแต่งตั้ง” ก็รู้กันดีว่า ในอดีตทำงานถวายตัว-ถวายหัว...แบบสุดใจขาดดิ้นแค่ไหน โดยเฉพาะในคดีซุกหุ้น

หากยังจำอดีตของ “จอมโกงหน้าเหลี่ยม” ที่สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองนั้น นอกเหนือจาก “สัมปทานผูกขาด” ก็จะมีเรื่อง “ค่าเงิน” และ “ขุมทรัพย์ในตลาดหุ้น” มาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นช่องทางในการ “ผ่องถ่าย” เอาไปซุกในต่างแดนได้อย่างสบายใจเฉิบ ...และที่ปรากฏชัดให้เห็นแล้วก็คือ ขนาดโดนยึดทรัพย์ 6 หมื่นกว่าล้าน แต่ “เขา” และ “ครอบครัว” ก็ยังเหลือเงินมหาศาลใช้แบบไม่หมด...มีเหลือเฟือ จนสามารถใช้จ้าง “สมุน” ออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง...กันมาแล้ว

ส่วนกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากท้อง หรืองานประมูลนั้น...ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ “จอมโกงหน้าเหลี่ยม” ก็จะไม่ค่อยอยากไปยุ่ง สู้เอาเวลาไป “สร้างผลงานมั่วๆ” หลอกชาวบ้าน และไว้ใช้หากินตอนหาเสียงดีกว่า

ประเมินคร่าวๆ หากงานนี้ “นักโทษเหลี่ยมจัด” ทำสำเร็จ...ในช่วงที่ “น้องปูกิ๊” ยังอยู่ในอำนาจ “เขา” จะมีเงินนอกระบบ...ที่ผู้คนตรวจสอบไม่ได้อีกไม่ต่ำกว่า “แสนล้านบาท” ต่อปี...นะ...จะบอกให้ [/color ]เพราะเพียงแค่เรื่อง “การออกนโยบายเกี่ยวกับค่าเงิน” หรือการออกมาจ้อของคนที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนโยบาย-เรื่องหุ้น...โดยที่ “เขา” รู้ล่วงหน้า...ก็สามารถทำเงินให้ “เขา” ได้อย่างมหาศาล ยิ่งสามารถเจรจาดีลกับ “ผู้นำกุ๊ยจอมบ้าคลั่ง” ได้สำเร็จ...รับรอง ต่อให้ตายอีก 10 ชาติ...ก็ยังมีเหลือเฟือ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ผ่านมา
เรทกระทู้
« ตอบ #36 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 14:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*032 อย่าหาว่าโง่เลยน่ะ เราแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเรียก
พรรค ปชป. ว่าแมลงสาบล่ะ เราเห็นมาหลายกระทู้ล่ะ ...



เจ้าของกระทู้ พอคุณตั้งกระทู้มาเราก็ชอบเข้ามาอ่านหน่ะ มันทำ
ให้เรารู้อะไรบางอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราไม่ได้สีไหน
แต่เราชอบเวลาคุณตั้งกระทู้มาให้อ่าน เพราะหลายกระทู้เรามีความ
คิดเห็นเหมือนที่คุณคิด ส่วนใครที่ไม่รู้อะไรเลยแล้วมาอ่านมาต่อว่าคุณ
เจ้าของกระทู้หน่ะ เราอยากให้อ่านแล้วช่วยคิดวิเคราะห์หน่อยก่อนทีจะด่า


^

^

akecity ขอตอบว่า

แมงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่มาก่อนยุคไดโนเสาร์ครับ

แต่ดันเป็นสิ่งมีชิวิตที่ไม่สร้างประโยชน์มากเท่ากับสร้างโทษครับ

แปลว่า อยู่นานแต่ไร้ประโยชน์ทำนองนั้น

เขาเลยเอามาเรียกพรรคการเมืองที่อยู่นานที่ีสุด แต่ชาติไม่เจริญไงครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5 ก.ย. 11, 17:43 น โดย akecity » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #37 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 14:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณ คคห.ที่ 34 ครับ ไปดูจีนนะครับ รบ.เขาก็ออกไปลงทุน+ร่วมทุนหา

แหล่งพลังงานเพิ่มให้ประเทศนะครับ หรือถ้าจะให้ ปตท.ทำพวกไม่เห็นด้วย

ก็ไม่ยอมรับอีก ส่วนเรื่องการทุจริตจะมีไหมให้ ปชป.ที่เก่งในการตรวจสอบ

เ็ป็นผู้ตรวจสอบดีกว่าครับเพราะ ปชป.เก่งเรื่องนี้อยู่แล้วครับ

ปล.ดูกองทุนเทมาเส็คของสิงคโปร์เป็นตัวอย่างดูนะครับ ถ้าเราไม่ก้าวให้ทัน

โลกเราก็จะโดนการค้าเสรีของโลกกลืนกินนะครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไปไกลไกล
เรทกระทู้
« ตอบ #38 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 14:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*078q*078q*078แล้วข่าวเงินหลวงตาบัวหละจริงป่าว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ประชาชน
เรทกระทู้
« ตอบ #39 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 15:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*029..ให้อีก 10ใหม่เมืองเอก..พอให้ขยายผลจริงๆ..ถึงขั้นตอนทำงานเพื่อให้เกิดผลดีรับรอง..เดี้ยง..กลายเป็น..ใหม่พาอด..เหมือนกัน...แบบนี้
แหระ..สังคมสื่อว่ากันตามกระแสเพื่อขายข่าว q*070

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
add2
เรทกระทู้
« ตอบ #40 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 15:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เวลาขาดทุนด่ารบ.ที่แล้ว ทั้งๆที่มันก็ซื้อพันธบัตรต่างประเทศกันทุกรบ.ข้าวปลาน่ะของจริง เก็บแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานใช้ทำมาหากินดีกว่านะ ดูตย.สหรัฐฯก็ได้ ทำมาหากินกันบนกระดานหมุนเงินผันเงินกันเก่งเหมือนรบ.นี้แหละ แต่พอถึงเวลาเกิดวิกฤติ มีแต่ไส้กลวงๆ ไม่มีของจริงให้จับต้องได้ซักอย่าง ยังดีที่เป็นประเทศยักษ์ใหญ่ ถ้าไม่ใหญ่แบบประเทศไทย ป่านนี้เขาปล่อยเจ๊งกันไปแล้ว เห็นช้างขี้อย่าเอาแต่ขี้ตามช้าง ขนาดและลักษณะเด่นของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เลียนแบบไปแล้วมันไม่ได้อย่างเขา มันจะเจ็บหนักกว่าเขา ที่สำคัญกรุณาอย่าเอาทองหลวงตามาผลาญเล่น มันผิดวัตถุประสงค์ผู้ให้ คำว่าทุนสำรองแปลว่าเมื่อใดก็ตามที่บ้านเดือดร้อน เรายังมีเงินสำรองติดบ้านไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่มีไว้ไปสร้างนโยบายเอาหน้า
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขำๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #41 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 16:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โรคต้มยำกุ้ง หมายถึง สภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจของไทย และบางประเทศแถบเอเชียเมื่อปี 2540
จนหลายประเทศต้องประกาศลอยตัวค่าเงินของตนเอง หลายประเทศต้องสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยเสริมก่อนเกิดโรคต้มยำกุ้งปี 2540
.
ปี 2535 ประเทศไทยเปิดเสรีทางการเงินผ่าน BIBF (Bangkok International Bank Facility)
โดยหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค ธุรกรรม BIBF เปรียบเสมือน "พ่อค้าคนกลาง"
นำเงินจากประเทศร่ำรวยไปปล่อยกู้ให้ประเทศยากจน แล้วกินค่าหัวคิวแบบที่สิงคโปร์หรือฮ่องกงทำอยู่
รัฐบาลส่งเสริม สนับสนุน ให้สิทธิพิเศษต่างๆ จนธนาคารแห่กับเปิดแผนกธุรกรรม BIBF กันพรึ่บพรั่บ
แต่เหตุการณ์ผิดจากที่คาดการณ์ไว้แทนที่ BIBF จะนำเงินกู้จากต่างประเทศไปปล่อยต่อให้ประเทศอื่น
BIBF กลับนำเงินกู้จากต่างประเทศมาปล่อยกู้ภายในประเทศซะงั้น อีกทั้งดอกเบี้ยต่างประเทศก็ถูกกว่า
ประกอบกับค่าเงินบาทที่ผูกติดกับเงินดอลลาร์ (25 บาท / ดอลลาร์) ผสมโรงกับคำแนะนำของธนาคาร
ผู้กู้ก็เลยไม่คิดถึงความเสี่ยงในกรณีค่าเงินอ่อนตัวขึ้นมา แห่กันไปกู้เงินระยะสั้นจากต่างประเทศยกใหญ่

"Hot Money" ไหลบ่าเข้าท่วมประเทศเพราะคนไทยมือเติบ กู้ยืมเงินจากต่างประเทศอย่างไม่ยั้งมือ
แถมยังกู้เงินมาใช้ในกิจการที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์ เช่น กู้เงินมาเก็งกำไร ใช้ปั่นราคาหุ้น ใช้ปั่นราคาที่ดิน
เมื่อคนเราบางคนรวยขึ้น บางคนจมไม่ลง ใช้ได้แต่สินค้าแบรนด์เนมหรูๆ รถป้ายแดงวิ่งเกลื่อนทั่วเมือง
ตัวเลขการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น บัญชีเดินสะพัดขาดดุลถึง 8% ของ GDP
จนกระทั่งปี 2539 ปริมาณการส่งออกติดลบเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี เป็นสัญญาณเตือนภัยแรกๆ
ต่างประเทศเริ่มไม่แน่ใจว่า เราจะหารายได้จากการส่งออกเพื่อคืนเงินกู้ได้หรือไม่ จึงพากันหยุดปล่อยกู้
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มชักดาบเงินกู้ เพราะขยายธุรกิจไปใหญ่โตเกินพื้นฐาน จนโครงการขายไม่ออก
ธนาคารกับไฟแนนซ์พลอยมีหนี้เสียไปด้วย พอที่ไหนออกข่าวว่ามีปัญหา ผู้คนก็จะแห่กันไปถอนเงินฝาก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ขำๆๆๆๆๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #42 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 16:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

10 ปี วิกฤตต้มยำกุ้ง สึนามิเศรษฐกิจไทย

รุ่งสางของวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เป็นฝันร้ายของใครหลายคน และถือเป็นฝันร้ายของภูมิภาคเอเชียก็ว่าได้ เพราะทันทีที่รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี และนายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพียง 11 วัน ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ก็นำประเทศเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และกลายเป็นวิกฤตเอเชีย รู้จักกันดีในนาม ต้มยำกุ้ง Crisis

โดยในวันแรกที่ประกาศลอยตัว ค่าเงินบาทขยับลงจาก 25 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 32 บาท และลงไปอ่อนค่าสุดถึง 56 บาท เมื่อต้นเดือนมกราคม 2541 และทำให้ดัชนีหลักทรัพย์ดิ่งลงไปเหลือเพียง 207 จุด เท่านั้น

เหตุผลหลัก ที่ไทยต้องประกาศลอยตัวค่าเงิน เพราะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในกระเป๋าของแบงก์ชาติ หดหายไปจำนวนมาก จาก 4 หมื่นล้านเหรียญ เหลือเพียง 800 ล้านเหรียญเท่านั้น หลังถูกจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินโจมตีค่าเงินบาท ระลอกแล้ว ระลอกเล่า ขณะที่หนี้ต่างประเทศก็สูงถึง 130% ของจีดีพี และในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้น ดังนั้น เมื่อประกาศลอยตัว ภาระหนี้ก็พุ่งพรวดขึ้นเท่าตัว หลายบริษัทต้องปลดพนักงาน และหลายแห่งต้องปิดกิจการ

วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้ไทย ต้องเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2540 จำนวน 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำเงินจำนวนนี้ มาแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และนั้นทำให้หลายคนถึงกับบอกว่า ไทยสูญเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจไปแล้ว

IMF ได้เรียกร้องให้ไทย จัดการภาคการเงินภายใต้กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัด ให้ปิดบริษัทการเงินที่มีปัญหา ให้แก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้สะดวกขึ้น และให้แปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยกำหนดให้แปรรูปการบินไทยและบางจากฯภายในปี 2541

การดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้เศรษฐกิจไทย และคนไทย ยิ่งแย่ลงไปอีก จนทัพนักธุรกิจชั้นนำและบรรดาชนชั้นกลางอดรนทนไม่ไหว รวมตัวกันประท้วงบนถนนสีลม เป็นที่รู้จักกันดี ในนามม็อบสีลม กดดันให้บิ๊กจิ๋วลาออก ซึ่งก็ทำสำเร็จ ทำให้พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2540 แต่ความรับผิดชอบทั้งหมดกับตกอยู่ที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ซึ่งถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายเฉียดแสนล้านบาท

เมื่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย เข้ามาแทนที่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของ IMF อย่างเคร่งครัด แม้จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมาได้ แต่ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า “อุ้มคนรวยแต่ไม่ช่วยคนจน”

ดังนั้นเมื่อพรรคใหม่ ไทยรักไทย เปิดตัวขึ้นมา จึงได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม เพราะกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่คาดว่าจะนำพาพวกเขารอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้

และเมื่อพันตำรวจโททักษิณ เข้ามาเป็นรัฐบาล ก็เดินหน้าเจรจา IMF ผ่อนคลายเงื่อนไขที่เข้มงวดลง ในที่สุดไทยก็สามารถใช้คืนหนี้ก่อนกำหนดถึง 2 ปี โดยแบงก์ชาติจ่ายหนี้คืน IMFงวดสุดท้าย และปลดแอกไทยจาก IMF ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2546

ต้องยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทุนไทยครั้งใหญ่ ทำให้เจ้าสัวเมืองไทยหายไปถึง 65% และเป็นจุดสิ้นสุดของอภิมหาธุรกิจครอบครัว เช่น บริษัททีพีไอ ธุรกิจปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ของตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ อวสานราชาแห่งชิพ “ชาญ อัศวโชค” และเกิดจุดผลิกผันครั้งใหญ่สุดกับเจ้าพ่อโรงเหล็ก สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง เจ้าของสโลแกน 3 ไม่ “ไม่มี ไม่หนี และไม่จ่าย” รวมทั้งการล่มสลายของธุรกิจครอบครัวจีนโพ้นทะเล และกลุ่มทุนเก่าในกิจการธนาคาร เช่น ธนาคารศรีนคร นครธน มหานคร และนำมาซึ่งการปิดกิจการ 56 ไฟแนนซ์

10 ปีผ่านไป แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังเติบโตไม่เต็มที่ แม้จะมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไปบ้าง แต่ก็ยังช้ากว่าประเทศที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจอื่น ๆ และไม่เพียงพอ ที่จะเติบโต และก้าวย่างได้อย่างมั่นคง แตกต่างกันตรงที่ ณ วันนี้ เรามีเงินสำรองสูงถึง 8 หมื่นล้านเหรียญ ห่างจาก 800 ล้านเหรียญในอดีต อย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

แต่สิ่งหนึ่งที่ ยังคงต้องเผชิญ และดูเหมือนจะรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น ในกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายเสรี หรือ ในยุคโลกาภิวัตน์ คือ ความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนโลก ที่เงินทุนจำนวนมหาศาล พร้อมที่จะไหลเข้า และไหลออก จากประเทศใดประเทศหนึ่งไปได้ในทันที ที่มองเห็นช่องทางการทำกำไร ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ยังสร้างความปวดหัวและหลอกหลอน ธนาคารแห่งประเทศไทย ทุกครั้งที่ต้องต่อกรกับบรรดาเฮดฟันด์เพราะการปัญหาเหล่านี้ ไม่ได้มีสูตรสำเร็จ และไม่มีทฤษฎีรองรับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
Dteikin
เรทกระทู้
« ตอบ #43 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 17:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ใครมีรายละเอียดเรื่องการแปรรูป ปตท. บ้าง
ทำไมเปิดขายหุ้น ไม่ถึง 2 นาที ขายหมด แล้วทำไมมีโครงสร้างผู้ถือหุ้น 40% ที่ไม่มีการเปิดเผยว่าใคร

ก่อนแปรรูปกับหลังแปรรูป รัฐได้ส่วนแบ่ง หรือเงินไปบริหารประเทศเท่าไร
เพราะวันที่มีอภิปรายเรื่องนี้ สงสัยมากทำไมไม่มีใครมาตอบเรื่องนี้เลย

ซึ่งหากประเทศชาติเสียประโยชน์ขนาดนี้ ใครได้ประโยชน์ ใครต้องชดใช้ และทำไมไม่นำออกจากตลาดหลักทรัพทย์

"ปตท. สมบัติของชาติ ของคนไทย หรือของใคร?"
q*077q*033q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ทวงคืนปตท.
เรทกระทู้
« ตอบ #44 เมื่อ: 5 ก.ย. 11, 20:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไม?? ต้องทวงคืน ปตท..✿
พลังงานไทย ควรให้ประโยชน์ส่วนรวมกับประชาชน
ไม่ควรถูกฉกฉวยประโยชน์นั้น เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว
โดย สุวดี แสงสุทธิ.ยายย
.◕‿◕...ทรัพย์สินของแผ่นดิน
พลังงานของชาติ ...◕‿◕.
.◕‿◕...จะปล่อยให้คนไม่กี่ตระกูล ครอบครองและกอบโกยผลประโยขน์..หรือ..
.◕‿◕...ทวงคืน ปตท.. เพื่อให้เป็นสมบัติของลูกหลานคนไทยทุกคน...◕‿◕..

✿..ทำไม?? ต้องทวงคืน ปตท..✿
พลังงานไทย ควรให้ประโยชน์ส่วนรวมกับประชาชน
ไม่ควรถูกฉกฉวยประโยชน์นั้น เพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว

✿..เมื่อความจริงเปิดเผย ทำไมประชาชนที่มีเงิน แต่ซื้อหุ้น ปตท.ไม่ได้..✿
..ปตท.ได้จำหน่ายหุ้นไปก่อนเวลา 09.30น.อันเป็นเวลาที่เปิดจอง ให้กับบุคคลภายนอกถึง 863 ราย
..ผู้ซื้อหุ้น 1รายจองได้ 1ครั้ง 1ใบ จองได้ไม่เกิน 1แสนหุ้น ปรากฏว่า มีผู้จองเกินจำนวนหุ้นที่กำหนดไว้มากถึง 428 ราย ในจำนวนนี้มี นามสกุล “มหากิจศิริ” และนามสกุลของกลุ่มนักการเมืองทั้งนั้น
http://www.astvmanager.com/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000095264
http://www.astvmanager.com/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000095879

✿..เมื่อภาครัฐ นำทรัพย์สินของคนไทยทั้งชาติ ..จ่ายส่วย..ให้ผู้มีอุปการะคุณ ..✿
.. ปตท.ได้ขายหุ้นจำนวนมากถึง 25 ล้านหุ้นให้กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง ในราคาพาร์เพียงหุ้นละ 10 บาท แต่ขายหุ้นให้กับนักลงทุนอื่นๆในราคาพาร์ที่หุ้นละ 35 บาท ภาครัฐใช้สิทธ์อันใดเลือกปฏิบัติเช่นนี้ได้
http://www.astvmanager.com/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000096551

✿..เมื่อภาครัฐประเคนหุ้น ขายให้ต่างชาติมากกว่าคนไทย.✿
..และแล้วก็ถึง บางอ้อ!!..ใคร? ที่น่าจะมีหุ้นปตท.ไว้ในครอบครองมากที่สุด

..หุ้นปตท.ทั้งสิ้นจำนวน 775 ล้านหุ้น..ขายให้คนไทยรายย่อยแค่ 220 ล้านหุ้น ขายให้สถาบันในประเทศ 235 ล้านหุ้น แต่ขายให้นักลงทุนต่างชาติมากถึง 320 ล้านหุ้น
..ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า นักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาซื้อ หุ้นปตท.นั้น คือ “ฝรั่งหัวดำ” ที่ไปตั้งกองทุน หรือมี นอมินีอยู่ที่ ต่างประเทศหรือไม่..
http://www.astvmanager.com/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097094


✿..ไม่เรียกว่าปล้น..แล้วจะเรียกว่าอย่างไร??..✿
..ทุบราคาพาร์ให้นายทุนซื้อหุ้นปตท.ได้ถูกๆเพียง หุ้นละ 35 บาท โดยการใช้เทคนิคทางบัญชี กดราคา ทรัพย์สินของชาติให้ต่ำติดดิน เช่น..ตีราคาโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ 1โรง จากราคา 50,000 ล้านบาท หักค่าเสื่อมทางบัญชีปีละ10% สิบปี เหลือมูลค่าโรงกลั่นเพียง 1 บาท และยังมีบางรายการ ที่ทำให้ราคาทรัพย์สินเหลือเพียง 0 บาท
แต่ต่อมา..ทรัพย์สินชิ้นเดียวกันนั้นก็ถูกเล่นแร่แปรธาตุ เพิ่มมูลค่าทางบัญชีให้กับปตท.และผู้ถือหุ้น ทำให้ราคาหุ้นปตท.จากเดิมราคา 35 บาท สูงขึ้นมากกว่า 300 บาทในปัจุบัน
http://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097646

✿..ปตท.ร่วมด้วยช่วยอิ่ม..✿
*แก้ไขกฎหมาย..ให้ข้าราชการผู้เป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจเข้าไปเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทเอกชน ที่รัฐวิสาหกิจถือหุ้นได้
✿กินเอง..ชงเอง..ใข้อำนาจอนุมัติ สร้างผลกำไร และเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุน
http://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000098272

✫..ถึงเวลาฟ้อง “ปตท.✫
ทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง..เพื่อให้การซื้อขายหุ้นปตท.ที่ผ่านมาเป็น.โมฆะ.ด้วยต้องอาญาแผ่นดินใน 2 ข้อกล่าวหาคือ..
1..การซื้อขายที่ผิดไปจากทีโออาร์ ..ทีโออาร์ต้องถือเป็นสัญญาประชาคม
ที่ปตท.ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด
2..ขัดต่อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการที่ดี ขัดต่อกฎหมาย
ปปช. เพราะการขายหุ้นปตท. ดังกล่าว ไม่โปร่งใส
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000098451

(`*•.Ƹ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒ.•*)

✿สาเหตุที่ น้ำมัน แพง
ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ถูกนักการเมืองและกลุ่มทุน เข้ามาบริหารเพื่อสร้างผลกำไรเพียงอย่างเดียว ภายในครึ่งปี 54 ปตท.ควัก1.7หมื่นล้าน จ่ายปันผลหุ้นละ 6 บาท
✿..มีเงิน3.5 ล้าน ซื้อหุ้นราคาพาร์ได้หนึ่งแสนหุ้น นั่งกระดิกเท้าอยู่บ้าน ก็มีกำไรครึ่งปี หกแสน หรือเดือนละหนึ่งแสนบาท ... ประชาชนทำงานแทบตาย เติมน้ำมันทีกระเป๋าแทบฉีก บางคนต้องอดที่อยาก เพื่อให้รถมีน้ำมัน รัฐบาลทำอย่างนี้กับคนไทยทั้งประเทศได้ยังไง..
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1314326098&grpid=03&catid=05&subcatid=0502

พลังงานไทย พลังงานใคร..http://youtu.be/t8GL5rHkLmo

(`*•.Ƹ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒ.•*)

。◕‿◕。ร่วมด้วยช่วยกัน ทวงคืนปตท. เพื่อให้คนไทยได้ใช้น้ำมันที่มีราคาถูก หรือได้ใช้น้ำมันฟรี!ในบางส่วน และ จัดสรรกำไรเฉลี่ยเป็นปันผลให้คนไทย ตามจำนวนประชากร โดยที่ประชาชนไม่ต้องซื้อหุ้น.

(`*•.Ƹ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒ.•*)

เชิญเข้าร่วมกลุ่ม ทวงคืน ปตท. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับรู้ข่าวสาร ข้อมูลกลโกง ทรัพย์สินของชาติ...

ร่วมด้วยช่วยกัน ทวงคืน ปตท. ให้กับลูกหลานคนไทยทุกคนได้ที่ลิงก์นี้ นะคะ..
http://www.facebook.com/groups/249421905088805/

(`*•.Ƹ̵̡Ӝ̵̨̄Ʒ.•*)

ร่วมกันทำให้การแปรรูปและการกระจายหุ้น ปตท. เป็น โมฆะ!?..http://www.thaiday.com/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000095651

ปตท. พลังงานเพื่อใคร?..http://thaiforgetit.blogspot.com/2011/08/2551.html

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  ธปท. 

หน้า: 1 2  ทั้งหมด

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม