ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
แล้วอาการป่วยของสองถิงจะมีโอกาสหายขาดรึป่าวค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่
สองถิงเคยถามหมอประจำตัวเขาบอกว่าให้สองถิงออกกำลังฝีกกรามเนื้อ
ช่วงหลังให้แรงแข็งก็จะไม่ปวดหลังและคงต้องทำอย่างไปตลอดชีวิต
เพื่อที่จะไม่ปวดหลัง ได้ยินมาอย่างนี้แล้วสองถิงก็เหนื่อยและท้อแล้วค่ะ
เพราะหมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดเลย เพราะถ้าผ่าไปแล้วใช่ว่าจะหายขาด
พี่สาวของสองถิงผ่าตัดมาก็ไม่ปวดหลังอยู่ปีกว่า แต่หลังจากนั้นก็กลับมาปวด
หลังอีกเหมือนเดิมค่ะ
ศิษย์พี่ใหญ่ พอจะมีวิธีอย่างอื่นแนะนำสองถิงบ้างรึป่าวค่ะ 
หายขาดได้สิครับ เป็นได้ ก็หายได้ มันขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว ดูแลตนเองของสองถิงด้วยนะ และต้องไปปรึกษาแพทย์ อย่าปล่อยให้ลุกลาม การรักษาโดยการทำกายภาพบำบัด ปรับท่าทางการใช้หลังใหม่ ให้ถูกท่าทาง ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อหลัง ให้มีการทำ งานสัมพันธ์กัน ประกอบกับต้องกลับไปจัด Office ใหม่ ปรับที่นั่งให้เหมาะสม ไม่นั่งติดต่อกันนาน โดยไม่ได้ลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบท เหล่านี้จะทำให้หมอนรองกระดูก ไม่แย่ลงได้
|
|
|
|
|
|
|
|
สองถิงยังไม่ได้สัญชาตินอร์เวย์ใช่ไหมครับ  ไม่มีประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือ ประกันสังคม บัตรทอง(หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า) แบบไทย บ้างหรือครับ 
สองถิงไม่ได้ขอเปลี่ยนสัญชาติค่ะ จริงๆแล้วถ้าสองถิงจะเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนได้
แต่สองถิงไม่ยอมเปลี่ยนเองค่ะ เพราะเวลาเราเปลี่ยนสัญชาติแล้วเรื่องมันจะยุ่งยากนะค่ะ
เพราะถึงอย่างไรสองถิงก็จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้ว สองถิงเห็นเพื่อนๆที่เปลี่ยนสัญชาติ
เป็นคนที่นี่จะมีปัญหาเรื่องซื้อบ้านหรือซื้อที่ที่เมืองไทยนะค่ะ เรื่องนี้สองถิงก็เจอกับตัวเองเหมือนกัน
ตอนที่สองถิงซื้อบ้านที่หัวหินขนาดสองถิงไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติ แต่พอเจ้าหน้าที่เห็นนามสกุล
ของสองถิงเป็นฝรั่งยังเรื่องมากเลยค่ะ นี่สองถิงกลับไทยคราวนี้ก็จะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลไทย
เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนเรื่องเปลี่ยนสัญชาติจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนค่าก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ค่ะ
เพราะสองถิงก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดชีวิตอยู่แค่สองปีก็ไปสแตมวีซ่าเท่านั้นเองค่ะ
สองถิงรักในความเป็นไทยของตัวเองค่ะจะไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติอย่างแน่นอนค่ะ
สองถิงอยู่ที่นี่ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมคนที่นี่หมดทุกอย่างเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นสองถิงจะซื้อบ้านที่นี่ได้รึค่ะ
เรื่ิองสวัสดิ์การก็เหมือนกันค่ะเขามีให้หมดและค่ะเพราะทุกๆเดื่อนสองถิงจะเสียภาษีเหมือนๆ
กับคนที่นี่ทุกเดือน สองถิงเสียภาษีเดือนล่ะ36%ของรายได้อย่างทุกเดือนมา6ปีแล้วค่ะ
แต่เวลาไปหาหมอจะต้องรอคิวนานค่ะ ต้องเป็นไปตามคิวเท่านั้นเมือสองปีก่อนสองถิงรอรับ
การผ่าตัดตั้งเป็นปีกว่าเลยค่ะกว่าจะได้คิวผ่าตัด ต้องตรวจแล้วตรวจอีกตั้งหลายขั้นตอน
เลยล่ะค่ะ ถ้าอยากจะผ่าตัดเร็วก็ต้องไปหาโรงพยยาบาลเอกชนแต่รายใช้จ่ายจะแพงๆมากๆเลยล่ะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
ต้องทำงานต่อแล้วละค่ะ อาทิตย์ทั้งอาทิตย์สองถิงจะยุ่งๆตลอดเลยค่ะ
ไม่ค่อยมีเวลาว่างหายใจเป็นของตัวเองเลยค่ะช่วงนี้
กว่าจะได้กลับเข้าบ้านก็ดึกค่ะและก็เหนื่อยหมดแรงเลยล่ะค่ะ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ต้องทำงานต่อแล้วละค่ะ อาทิตย์ทั้งอาทิตย์สองถิงจะยุ่งๆตลอดเลยค่ะ
ไม่ค่อยมีเวลาว่างหายใจเป็นของตัวเองเลยค่ะช่วงนี้
กว่าจะได้กลับเข้าบ้านก็ดึกค่ะและก็เหนื่อยหมดแรงเลยล่ะค่ะ  นอนพักผ่อนให้เพียงพอเถอะครับ เดี๋ยวจะล้มป่วย ถ้าว่าง ค่อยแวะมาเยี่ยมละกันครับ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
สองถิงไม่ได้ขอเปลี่ยนสัญชาติค่ะ จริงๆแล้วถ้าสองถิงจะเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนได้
แต่สองถิงไม่ยอมเปลี่ยนเองค่ะ เพราะเวลาเราเปลี่ยนสัญชาติแล้วเรื่องมันจะยุ่งยากนะค่ะ
เพราะถึงอย่างไรสองถิงก็จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้ว สองถิงเห็นเพื่อนๆที่เปลี่ยนสัญชาติ
เป็นคนที่นี่จะมีปัญหาเรื่องซื้อบ้านหรือซื้อที่ที่เมืองไทยนะค่ะ เรื่องนี้สองถิงก็เจอกับตัวเองเหมือนกัน
ตอนที่สองถิงซื้อบ้านที่หัวหินขนาดสองถิงไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติ แต่พอเจ้าหน้าที่เห็นนามสกุล
ของสองถิงเป็นฝรั่งยังเรื่องมากเลยค่ะ นี่สองถิงกลับไทยคราวนี้ก็จะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลไทย
เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
ต่างกับเมืองไทย ถ้าไม่มีสัญชาติไทย จะต้องจ่ายเงินเองอย่างเดียว หรือซื้อประกันสุขภาพเอง ใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า(โครงการบัตรทอง) ไม่ได้ เพราะไม่มีสิทธิเท่าเทียมคนไทย
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ส่วนเรื่องเปลี่ยนสัญชาติจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนค่าก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ค่ะ
เพราะสองถิงก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดชีวิตอยู่แค่สองปีก็ไปสแตมวีซ่าเท่านั้นเองค่ะ
สองถิงรักในความเป็นไทยของตัวเองค่ะจะไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติอย่างแน่นอนค่ะ
สองถิงอยู่ที่นี่ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมคนที่นี่หมดทุกอย่างเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นสองถิงจะซื้อบ้านที่นี่ได้รึค่ะ
เรื่ิองสวัสดิ์การก็เหมือนกันค่ะเขามีให้หมดและค่ะเพราะทุกๆเดื่อนสองถิงจะเสียภาษีเหมือนๆ
กับคนที่นี่ทุกเดือน สองถิงเสียภาษีเดือนล่ะ36%ของรายได้อย่างทุกเดือนมา6ปีแล้วค่ะ
แต่เวลาไปหาหมอจะต้องรอคิวนานค่ะ ต้องเป็นไปตามคิวเท่านั้นเมือสองปีก่อนสองถิงรอรับ
การผ่าตัดตั้งเป็นปีกว่าเลยค่ะกว่าจะได้คิวผ่าตัด ต้องตรวจแล้วตรวจอีกตั้งหลายขั้นตอน
เลยล่ะค่ะ ถ้าอยากจะผ่าตัดเร็วก็ต้องไปหาโรงพยยาบาลเอกชนแต่รายใช้จ่ายจะแพงๆมากๆเลยล่ะค่ะ
จ่ายภาษีมากกว่าไทยเยอะ แต่รัฐไม่ได้บริการรวดเร็วกว่าไทยเลยเนอะ
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
มาให้อาหารแพะ อาหารแกะ 
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ได้นมแพะกับขนแกะ รวม 3 คันรถ 
|
|
|
|
|
|
|
เผ่นล่ะ 
|
|
|
|
|
|
|
โรคหมอนรองกระดุกเคลื่อน ไม่เป็นเพราะกรรมพันธุ์ แต่อาการปวดหลัง อาจเป็นโรคกรรม ที่ตกทอดมาสู่ลูกหลานได้ เรียกว่า ทายาทกรรม มักเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด หรือเรื้อรัง แพทย์ไม่ทราบสาเหตุของหมอนรองกระดูกที่เคลื่อนแน่ชัด โรคกรรมที่เคยเป็นเรื่องจริงที่ถ่ายทอดใน ทีวี เรื่องกรรมลิขิต เช่น ปวดหลัง เพราะเคยผิดศีล เช่น ตีงู ตีวัว ยิงสัตว์ ทำแท้ง เป็นต้น ปวดท้อง เช่น กรีดท้องปลา ทำแท้ง เป็นต้น
ทำไมต้องไปโทษกรรมเก่าหรือทายาทกรรมด้วยละค่ะ 
แล้วถ้าเป็นอย่างนี้จริงสองถิงก็เสียเปรียบพี่ๆน้องๆคนอื่นๆที่ไม่เป็นเหมือนสองถิงสิค่ะ 
อยู่ๆก็ได้กรรมอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่เคยสร้างมา อย่างนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมเลยนะค่ะ 
|
|
|
|
|
|
|
จ่ายภาษีมากกว่าไทยเยอะ แต่รัฐไม่ได้บริการรวดเร็วกว่าไทยเลยเนอะ
ก็เป็นแค่เรื่องหาหมอเท่านั้นแหละค่ะที่ช้าเรื่องอื่นๆก็ไม่ค่อยช้าเท่าไหร่เลยค่ะ
อย่างตอนที่สองถิงป่วยไม่ได้ทำงานตั้งปีกว่าสองถิงก็ยังได้รับเงินเดือนทุกๆเดือน
ตามปกติค่ะไม่ได้ขาดแม้แต่บาทเดียวเลยค่ะ สองถิงคิดว่าสวัสดิการของเขาดีมากๆ
เลยนะค่ะในทุกๆเรื่องด้วยค่ะ อย่างถ้าเราไม่สบายต้องถึงขั้นผ่าตัดหรือเป็นอะไรที่หนักหนา
ทางรัฐก็ยังยื่นมือเข้าช่วยอยู่หลายเรื่องนะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
นอนพักผ่อนให้เพียงพอเถอะครับ
เดี๋ยวจะล้มป่วย
ถ้าว่าง ค่อยแวะมาเยี่ยมละกันครับ
วันนี้ยังมีเวลาว่างอยู่อีกนิดหน่อยเลยแวะมาหาค่ะ
เพิ่งตื่นนอนนะค่ะในช่วงนี้สมองน้อยๆของสองถิงจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ
ได้ดีสมองจะปลอดโปร่งดีในตอนตื่นนอนใหม่ๆนะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
เรื่องของมุมมอง ใช้เหมาะเมื่อเรื่องนั้นๆเพิ่งเกิดขึ้น เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาชีวิตในเรื่องนั้นๆ คิดบวกดีไม่มีปัญหา มีแต่ความผ่องใส แต่เรื่องที่ไข่เล่า เป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว ไข่เล่าเรื่องตามจริง ไม่อาจเอามุมมองเข้ามาแทรกเรื่องจริงได้ ให้มุมมองดีแค่ไหน ก็ต้องบอกว่าเป็นเด็กจากนรกที่ทำแบบนั้น ไม่ใช่เด็กจากสวรรค์ เพราะนั่นคือการเล่าเหตุการณ์จริง เป็นแค่เรื่องเล่าตามจริงฮะ ส่วนมุมมองต่างๆ เพื่อนๆ ก็เห็นมุมมองของไข่ ผ่านการตอบกระทู้ทั่วไปอยู่แล้ว ไข่มั่นใจมากว่า มุมมองของไข่ อย่างน้อย ก็เข้าใจทุกคนในเรื่องนั้นๆ เพราะไข่มองพวกเค้าตามที่เค้าเป็นอยู่จริง การคิดบวก ดีจริงๆฮะ แต่เครื่องมือของใช้ทุกอย่าง ก็เหมาะสมกับบางสิ่งบางอย่างเหมาะตามเวลาเหมือนกันนะฮะ ปัญหาของไข่ตอนนี้ คงเป็นเรื่องคราบฝังลึกอย่างที่พ่อมหาฯบอก เป็นรอยแผลที่เกิดมานานแล้วและแถมอยู่ลึกจนไข่เองก็ไม่รู้ตัว ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งหากต้องการแก้ไขจุดนั้น คงต้องฝึกวิปัสสนากรรมฐานนั่นแหละฮะ  จากการวิเคราะห์ทางจิตวิทยา นี่ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า......... ......สิ่งที่ไข่เน่าเคยเล่าเกี่ยวกับครอบครัว น่าจะไม่เป็นความจริง เพราะ คงจะคิดเองเออเอง ...ไปคนเดียว.... จนเกินกว่าเหตุ .....ว่า คนนั้นเป็นอย่างนี้ คนโน้น เป็นอย่างนั้น ด้วยความคิดลบที่ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งไม่ได้รับการแก้ไข จึงมองคนอื่นในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา ยกเว้น เฉพาะตอนองค์ลง V V V
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ไม่ใช่เปลี่ยนไปหรอกฮะ  นี่แหละ ตัวจริงของไข่เลย เพื่อนๆ รู้จักไข่แต่ตัวอักษร เวลาที่ไข่เม้นท์ในกระทู้ต่างๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ ไข่องก์ลง อยู่ในโลกของเจ้าของกระทู้นั้นๆ ถอดใจไปที่อื่นที่ไม่ใช่ตัวไข่อยู่อ่ะฮะ  อย่างไรก็ตาม การที่ไข่เข้าวัดในช่วงเวลาหนึ่ง ก็มีผลที่ดีตามมาจริงๆฮะ คือเพื่อนรอบตัวไข่ก็บอกว่า ไข่เย็นขึ้นจริงๆ แต่นี่ ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 53 มั้ง ไข่ก็ห่างวัดออกมา(ที่หายตัวไปนั่นแหละ) ไปวุ่นวายกิเลสหนาอยู่ ยังไม่ได้กลับเข้าวัดอีกเลย ก็ตั้งใจแหละฮะ ว่าจะกลับตัว ไปวัดวันอาทิตย์อย่างที่เคยทำ ก็น่าจะดี ไข่เริ่มรู้สึกร้อนจนตัวเองก็รู้ตัวแต่ทำไรไม่ได้ รู้ว่าโกรธอยู่อย่างนั้น ยังดีที่พอรู้ตัว จึงไม่ทำอะไรตามอารมณ์ที่มี(อย่างที่เคยทำ  ) เลือกทำในสิ่งที่ควรทำได้ แต่พิษร้ายของความโกรธที่แช่อยู่ ทำลายสุขภาพกัดกร่อนข้างในจนไข้ขึ้น ไม่น่าเชื่อแต่ก็เป็นไปแล้วฮะ  ขอบคุณฮะ ที่ใส่ใจไข่ฮะ  ซีเรียสมาก  คิดเว่อร์  ระวัง  ไข้ขึ้น ปวดหัวอีกนะ เดี๋ยวก็โทษว่า ปวดหัวจากไมเกรนอีกละ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
คิดถึงฉันไหม เวลาที่เธอ .......คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ ไม่เจอะเจอกันกับฉัน คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ เหงาใจ คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ ไม่มีใครให้ทะเลาะ........เมื่อเราต้องห่าง ยิ่งนานนาน อาจลืมกันเลยไม่แน่ใจ ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันหน่อย ว่าเธอคิดถึงกัน ไม่ต้องหวาน ต้องแหววหรอก อยากถามแค่ให้เธอ ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันก่อน ว่าเธอคิดถึงฉัน อย่างที่ฉัน… มันคิดถึง คอยเธอกลับมา เพราะฉันคิดถึง เธออยู่ทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนแต่เช้า หันหัวก็หันไปเจอรูปเรา บนหัวนอน เสียงวิทยุก็คอยเล่นเพลง ที่เธอชอบฟังกี่ครั้ง ถึงฉันไม่ชอบก็ยังนั่งฟัง เพราะมันคิดถึงเธอ…
|
|
|
|
|
|
|
คิดถึงครายยยยย
|
|
|
|
|
|
|
|
ถ้าทำตัวดีๆไม่ดึ้อดึ่ง
สองถิงสัญญาว่าจะแวะมาหาบ่อยๆเมือมีเวลา
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
คิดถึงครายยยยย  ไม่บอก  ปล่อยให้งง
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ถ้าทำตัวดีๆไม่ดึ้อดึ่ง
สองถิงสัญญาว่าจะแวะมาหาบ่อยๆเมือมีเวลา  อืม นึกว่าไม่มาละ เห็นหายเงียบไปเลย
|
|
|
|
|
|
|
อืม นึกว่าไม่มาละ เห็นหายเงียบไปเลย 
งานยุ่งๆนะค่ะและก็สุขภาพร่างกายไม่อำนวยด้วยนะค่ะ
แต่ก็มาสัญญาของลูกผู้หญิงอกอึ่มๆคนนี้ค่ะ พูดคำไหนก็คำนั้นค่ะ  http://
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สองถิงมีเรื่องอยากจะถามศิษยืพี่ใหญ่นะค่ะ เพราะเห็นศิษย์พี่ใหญ่ชอบอ่านหนังสือ
เกี่ยวกับหมอและสุขภาพ คือช่วงนี้ลูกชาย(โจอี้)เขาจะมีอาการช้ำเป็นรอยยาวๆ
ประมาณคีบกว่าๆตามแขนและบางที่จะเป็นรอยช้ำตามขาและตามร่างกาย
แต่จะไม่เป็นบ่อย เมือวานกระถินเจอที่แขนของเขาเป็นรอยยาวเลยค่ะ
พอเห็นกระถินก็ตกใจถามเขาว่าเจ็บมั้ย โจอี้บอกว่าไม่เจ็บแล้วกระถินก็ถามเขาว่า
ได้รอยช้ำนี้มาจากไหน เขาบอกว่านอนๆตื่นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้นะค่ะ
อย่างงี้ที่คนแก่บ้านเราเรียกว่าเป็นรอย"พรายจ้ำหรือว่าพรายกัด"หรือเปล่าค่ะ
กระถินก็เคยเป็นเมือตอนเด็กๆแต่ไม่เคยเห็นที่เป็นเยอะแบบโจอี้เลยค่ะ
แล้วสาเหตุมันเกิดมาจากอะไรกันแน่ค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
และอีกอย่างโจอี้มักจะเลือดกำเดาออกเป็นประจำเลยค่ะ
บางที่นั่งอยู่เฉยๆก็จะไหลลูกชายคนโตของสองถิงก็เป็นเหมือนกัน
เมือตอนที่เขาเด็กๆแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาหายแล้วยังเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
สองถิงก็เคยเป็นเหมือนกันในสมัยเด็กๆ แต่ลูกชายคนรองไม่เป็นเลยค่ะ
ทุกวันนี้สองถิงก็จะเลือดกำเดาไหลอยู่เหมือนกันค่ะแต่นานๆทีนะค่ะ
อย่างนี้เกิดจากกรรมพันธ์หรือเปล่าค่ะ แล้วจะรักษาหายขาดได้ไหมค่ะ
เพราะในบางทีสองถิงยืนทำอาหารอยู่ดีๆเลือดกำเดามันก็ไหลมาเอง
พอลูกค้าเห็นเข้าก็พากันตกใจหลายครั้งแล้วค่ะ สองถิงงงกับตัวเองมาก
เลยค่ะว่าคนๆเดียวทำไมมันถึงเป็นโน่นเป็นนี้ได้หลายแบบนี้
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
สองถิงมีเรื่องอยากจะถามศิษยืพี่ใหญ่นะค่ะ เพราะเห็นศิษย์พี่ใหญ่ชอบอ่านหนังสือ
เกี่ยวกับหมอและสุขภาพ คือช่วงนี้ลูกชาย(โจอี้)เขาจะมีอาการช้ำเป็นรอยยาวๆ
ประมาณคีบกว่าๆตามแขนและบางที่จะเป็นรอยช้ำตามขาและตามร่างกาย
แต่จะไม่เป็นบ่อย เมือวานกระถินเจอที่แขนของเขาเป็นรอยยาวเลยค่ะ
พอเห็นกระถินก็ตกใจถามเขาว่าเจ็บมั้ย โจอี้บอกว่าไม่เจ็บแล้วกระถินก็ถามเขาว่า
ได้รอยช้ำนี้มาจากไหน เขาบอกว่านอนๆตื่นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้นะค่ะ
อย่างงี้ที่คนแก่บ้านเราเรียกว่าเป็นรอย"พรายจ้ำหรือว่าพรายกัด"หรือเปล่าค่ะ
กระถินก็เคยเป็นเมือตอนเด็กๆแต่ไม่เคยเห็นที่เป็นเยอะแบบโจอี้เลยค่ะ
แล้วสาเหตุมันเกิดมาจากอะไรกันแน่ค่ะ
ตอนเด็กๆก็เป็นครั้งหนึ่งครับ ก็หายไปเอง ไม่เป็นอีกเลย น่าจะเป็นเพราะตอนนอนเผลอละเมอไปกระแทกอะไรไม่รู้ตัวและจำไม่ได้มากกว่า ถ้าเป็นบ่อยๆ หรือไม่แน่ใจก็ไปหาหมอ ตรวจเลือดูจำนวนเกร็ดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือดว่าผิดปกติหรือไม่
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
และอีกอย่างโจอี้มักจะเลือดกำเดาออกเป็นประจำเลยค่ะ
บางที่นั่งอยู่เฉยๆก็จะไหลลูกชายคนโตของสองถิงก็เป็นเหมือนกัน
เมือตอนที่เขาเด็กๆแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาหายแล้วยังเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
สองถิงก็เคยเป็นเหมือนกันในสมัยเด็กๆ แต่ลูกชายคนรองไม่เป็นเลยค่ะ
ทุกวันนี้สองถิงก็จะเลือดกำเดาไหลอยู่เหมือนกันค่ะแต่นานๆทีนะค่ะ
อย่างนี้เกิดจากกรรมพันธ์หรือเปล่าค่ะ แล้วจะรักษาหายขาดได้ไหมค่ะ
เพราะในบางทีสองถิงยืนทำอาหารอยู่ดีๆเลือดกำเดามันก็ไหลมาเอง
พอลูกค้าเห็นเข้าก็พากันตกใจหลายครั้งแล้วค่ะ สองถิงงงกับตัวเองมาก
เลยค่ะว่าคนๆเดียวทำไมมันถึงเป็นโน่นเป็นนี้ได้หลายแบบนี้  เลือดกำเดาไหล คือภาวะที่มีเลือดออกทางจมูก เกิดจากเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ทำให้มีเลือดไหลออกข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ อาจไหลจากส่วนหน้าหรือส่วนหลังของจมูก พบได้ทุกอายุทั้งเพศหญิงและชาย เลือดออกทางส่วนหน้าของจมูกมักพบในเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อย เลือดออกจากส่วนหลังของจมูกมักพบในผู้สูงอายุ ซึ่งมักมีสาเหตุจากความดันโลหิตสูง สาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดกำเดาไหล 1.การระคายเคือง หรือบาดเจ็บต่อเยื่อบุจมูก ได้แก่ การแคะจมูก ผู้ที่มีนิสัยชอบแคะจมูกจะมีน้ำมูกแห้งกรัง เมื่อแคะออกจะเกิดแผลถลอก การสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศอย่างเร็ว เช่น ระหว่างขึ้นเครื่องบินหรือการดำน้ำ อาจมีผลให้เกิดเลือดออกในโพรงอากาศข้างจมูกและมีเลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ยังเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะและใบหน้า อาจโดนที่จมูกโดยตรงหรือโพรงไซนัส ทำให้มีเลือดออกได้ 2.การอักเสบในช่องจมูก ได้แก่ ภาวะติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน หรือโรคแพ้อากาศ ซึ่งมีเลือดคั่งที่เยื่อบุจมูกและเยื่อบุโพรงอากาศข้างจมูก ถ้าสั่งน้ำมูกหรือจามรุนแรง อาจทำให้เลือดกำเดาไหล มีน้ำมูกปนเลือด ส่วนภาวะอากาศหนาว ความชื้นต่ำ จะทำให้เยื่อบุจมูกแห้ง มีแนวโน้มที่จะทำให้เลือดออกได้ง่าย 3.ผนังกั้นช่องจมูกคด มีการโค้งงอหรือเป็นสันแหลม ผู้ป่วยมักมีเลือดกำเดาไหลข้างที่มีผนังกั้นช่องจมูกคดหรือข้างที่แคบ เนื่องจากข้างที่แคบนั้น มีลมหายใจหรืออากาศผ่านเข้า-ออกมากและเร็วกว่า ทำให้เยื่อบุจมูกแห้งมากทำให้เกิดสะเก็ดและมีเลือดออกได้ง่าย 4.เนื้องอกในจมูกหรือโพรงอากาศข้างจมูก ทั้งชนิดร้ายและไม่ร้าย ก็อาจทำให้มีเลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน 5.โรคทางระบบอื่น ๆ ได้แก่ โรคเลือดที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ,ภาวะเกร็ดเลือดต่ำ,การได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด,โรคทางพันธุกรรมบางชนิดที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดทั่วร่างกาย หรือความดันโลหิตสูง ทำให้เส้นเลือดแตกได้ การรักษา 1.ขั้นต้นให้ผู้ป่วยเงยหน้าหรือก้มหน้าลง ใช้นิ้วชี้และหัว แม่มือบีบปีกจมูกทั้งสองข้างให้แน่นเป็นเวลา 5–10 นาที ให้หายใจทางปากแทน อาจวางผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งบนดั้งจมูกด้วยก็ได้ 2.หลังเลือดกำเดาไหล ภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ การแคะจมูก,การกระทบกระเทือนบริเวณจมูก,การออกแรงมาก,การเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนัก เพราะอาจทำให้มีเลือดออกได้ 3.ถ้าเลือดหยุดแล้วควรนอนพัก ยกศีรษะสูง นำน้ำแข็งหรือ coldpack มาประคบบริเวณหน้าผากหรือคอ อมน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุด การประคบหรืออมน้ำแข็งควรประคบหรืออมประมาณ 10 นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที แล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา10 นาที ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ 4.ถ้าเลือดออกไม่หยุดหรือออกมากผิดปกติ ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์ทันที อาจต้องทำการห้ามเลือดด้วยวิธีจี้บริเวณที่เลือดออกด้วยสารเคมีหรือไฟฟ้า,การใส่วัสดุห้ามเลือดในจมูก หรือการผูกหลอดเลือดแดง เพื่อให้เลือดหยุด หาสาเหตุ แล้วรักษาตามสาเหตุนั้น แม้เลือดหยุดได้เองก็ควรไปโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
เลือดกำเดาไหลนั้นเป็นภาวะที่พบได้และเกิดขึ้นได้บ่อย ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัยทั้งในเด็ก -วัยรุ่น-ผู้ใหญ่ และคนชรา เลือดกำเดาไหลมักสร้างความตกใจ วิตกกังวลให้ตัวผู้ป่วยเองและคนใกล้ชิดได้อย่างมาก
สาเหตุหลัก ๆ ของเลือดกำเดาไหลนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน ดังต่อไปนี้
การกระทบกระเทือน อาทิเช่น การสั่งน้ำมูกแรงๆ การแกะจมูกซึ่งมักพบในเด็ก อุบัติเหตุที่บริเวณศีรษะและใบหน้า การผ่าตัดบริเวณโพรงจมูกและไซนัส สิ่งเหล่านี้มีผลต่อเส้นเลือดโดยตรง ทำให้เส้นเลือดฉีกขาดได้ อุบัติเหตุที่ศีรษะและใบหน้านั้น ผู้ป่วยอาจมีกระดูกแตก มีแผลฉีกขาดร่วมด้วย ส่วนถ้าฐานของกระโหลกศีรษะแตก อาจพบมีเลือดออกจากหู และกล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตได้ โรคหวัดเรื้อรัง หรือโรคภูมิแพ้ทางจมูก ที่ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม การอักเสบติดเชื้อ เช่น โพรงจมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ สำหรับไซนัสอักเสบนั้นผู้ป่วยอาจจะมีอาการคัดแน่นจมูก มีเสมหะไหลลงคอ อาจมีไข้ปวดศรีษะ และปวดบริเวณไซนัสที่อักเสบ เช่น บริเวณที่หน้าผาก หรือโหนกแก้ม เนื้องอกของโพรงจมูก ที่เรียกว่าริดสีดวงจมูก และเนื้องอกของตัวเส้นเลือดเอง มะเร็งที่โพรงจมูก มะเร็งที่ไซนัส มะเร็งที่ฐานของกระโหลกศีรษะ ผู้ป่วยที่มีมะเร็งที่ด้านหลังของโพรงจมูก อาจมีอาการหูอื้อ และต่อมน้ำเหลืองที่คอโตนำมาก่อนที่ผู้ป่วยจะมีเลือดกำเดาไหลก็ได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) อาจพบมีจ้ำฟกช้ำ ดำเขียว ตามเเขนขาและลำตัว, โรคเบาหวาน ซึ่งจะพบมีน้ำตาลในเลือดสูง และโรคความดันโลหิตสูง จะมีผลทำให้เส้นเลือดเปราะและแตกง่าย, โรคตับและไต เช่นไตวายเรื้อรัง ก็จะทำให้เกล็ดเลือดทำงานผิดปกติไป ผู้ป่วยที่รับประทานยาบางประเภท ยาแก้ปวดบางชนิด ยาแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด ยาเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ ภาวะการขาดสารอาหาร จำพวกวิตามิน เช่น วิตามินซี(C) วิตามินเค(K)
การดูแลตัวเองเมือดเลือดกำเดาไหล
ก้มหน้ามาข้างหน้า ( ไม่ควรเงยหน้า เพราะเลือดจะไหลเข้าไปในโพรงจมูก ลงคอ ) บีบจมูกด้วยนิ้วโป้ง และนิ้วชี้เบาๆ เป็นเวลา 15 นาที ตลอดเวลานี้ให้หายใจทางปาก ประคบภายนอกจมูกด้วยความเย็น ( ใช้ผ้านุ่มๆห่อน้ำแข็งไว้ ) ภายในช่วง 24 ชั่วโมง หลังจากหายดีแล้ว หลีกเลี่ยงการก้มที่จะทำให้หัวอยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ และภายในช่วง 24 ขั่วโมงนี้ ห้ามสั่งน้ำมูก หรือสูดน้ำมูก ห้ามยกของหนัก และออกกำลังกายอย่างรุนแรง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนเด็กๆก็เป็นครั้งหนึ่งครับ ก็หายไปเอง ไม่เป็นอีกเลย
น่าจะเป็นเพราะตอนนอนเผลอละเมอไปกระแทกอะไรไม่รู้ตัวและจำไม่ได้มากกว่า
ถ้าเป็นบ่อยๆ หรือไม่แน่ใจก็ไปหาหมอ ตรวจเลือดูจำนวนเกร็ดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือดว่าผิดปกติหรือไม่
มันก็น่าจะมีส่วนว่าอาจจะนอนละเมอไปกระแทกอะไรสักอย่าง
เพราะเวลานอนกลางคืนสองถิงได้ยินเสียงดังเหมือนโจอี้ละเมอและเสียง
ดังเหมือนเขาไปกระแทกขอบเตียงนอนและผนังห้องเหมือนกันค่ะ
มีบางครั้งเขาละเมอพูดอยู่เดียวและเสียงดังด้วยค่ะ 
ส่วนเรื่องการไปตรวจเช็คหรือหาหมอที่นี่สองถิงจะเบื่อมากๆเลยค่ะ
เบื่อต้องรอคิวพอได้คิวแล้วหมอประจำตัวก็จะส่งไปตรวจกับหมอที่เป็น
ผู้เชียวชาญโรคนั้นโดยตรงซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องรอคิวอีกยาว 
สองถิงเลยไม่ชอบไปหาหมอที่นี่เลยค่ะและอีกอย่างสองถิงฟังศัพท์หมอไม่ค่อย
เข้าใจด้วยค่ะขนาดคุยกับคนทั่วไปยังไม่ค่อยจะเข้าใจเลยค่ะ พอไปเจอคุณหมอ
และเขาพูดเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่แบบลึกๆสองถิงยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลยค่ะ
ขนาดเมือสองปีที่แล้วสองถิงต้องผ่าตัดยังเข้าใจไม่หมดเลยค่ะว่าเป็นโรคอะไร
บ้างสองถิงแค่บอกหมอว่าผ่าๆตัดๆไปเลยอันไหนที่มันทำให้เจ็บปวดและถ้าคุณหมอ
เห็นสมควรจะทำอะไรก็ๆทำๆไปเลย จริงๆแล้วการอยู่ต่างแดนแบบสองถิงมันเป็นเรื่อง
ลำบากเวลาเจ็บไข้เพราะไม่ค่อยเข้าใจภาษาของเขาอย่างแท้จริง จะอธิบายอาการที่เจ็บปวด
ให้คุณหมอฟังก็เป็นเรื่องยากและลำบากนะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องทิ้งๆไปอย่างเดียวสิค่ะEแบบนี้นะค่ะ   ก็คนเราไม่มีอะไหล่ บางอย่างก็ซ่อมไม่ได้นี่  ไม่ใช่ วิดีโอและซีดี จึงซ่อมไม่ได้  ไม่ใช่ เรือกลไฟและโคมไฟ ไม่มีอะไหล่ ยังไงๆก็ซ่อมไม่ได้  ดังนั้นต้องรักษาสุขภาพ ไม่ควรดื่มของมึนเมาทำลายสุขภาพ และทำ งานหนัก พักผ่อนให้พอนะจ๊ะ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
มันก็น่าจะมีส่วนว่าอาจจะนอนละเมอไปกระแทกอะไรสักอย่าง
เพราะเวลานอนกลางคืนสองถิงได้ยินเสียงดังเหมือนโจอี้ละเมอและเสียง
ดังเหมือนเขาไปกระแทกขอบเตียงนอนและผนังห้องเหมือนกันค่ะ
มีบางครั้งเขาละเมอพูดอยู่เดียวและเสียงดังด้วยค่ะ 
ส่วนเรื่องการไปตรวจเช็คหรือหาหมอที่นี่สองถิงจะเบื่อมากๆเลยค่ะ
เบื่อต้องรอคิวพอได้คิวแล้วหมอประจำตัวก็จะส่งไปตรวจกับหมอที่เป็น
ผู้เชียวชาญโรคนั้นโดยตรงซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องรอคิวอีกยาว 
สองถิงเลยไม่ชอบไปหาหมอที่นี่เลยค่ะและอีกอย่าง สองถิงฟังศัพท์หมอไม่ค่อย
เข้าใจด้วยค่ะขนาดคุยกับคนทั่วไปยังไม่ค่อยจะเข้าใจเลยค่ะ พอไปเจอคุณหมอ
และเขาพูดเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่แบบลึกๆสองถิงยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลยค่ะ
ขนาดเมือสองปีที่แล้วสองถิงต้องผ่าตัดยังเข้าใจไม่หมดเลยค่ะว่าเป็นโรคอะไร บ้างสองถิงแค่บอกหมอว่าผ่าๆตัดๆไปเลยอันไหนที่มันทำให้เจ็บปวดและถ้าคุณหมอ
เห็นสมควรจะทำอะไรก็ๆทำๆไปเลย จริงๆแล้วการอยู่ต่างแดนแบบสองถิงมันเป็นเรื่อง
ลำบากเวลาเจ็บไข้เพราะไม่ค่อยเข้าใจภาษาของเขาอย่างแท้จริง จะอธิบายอาการที่เจ็บปวด
ให้คุณหมอฟังก็เป็นเรื่องยากและลำบากนะค่ะ หาล่ามไปด้วยสิครับ น่าจะพอมีคนที่รู้สองภาษาอยู่บ้างนะ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
สองถิงคิดว่าอาการของสองถิงและลูกน่าจะเกิดมาจาก
กรรมพันธุ์นะค่ะ เพราะเป็นกันเกือบทุกคนแค่คนรองเท่านั้นที่ไม่เป็น
ส่วนเวลานั่งเครื่องบินสองถิงและโจอี้ไม่เคยมีเลือดกำเดาไหลเลยค่ะ
จะมีก็แต่อาการปวดหูนะค่ะ อย่างครั้งสุดท้ายที่นั่งเครื่องสองถิงไม่สบาย
เป็นไข้หวัดใหญ่ตอนกลับมาจากเมืองไทยจะมีอาการปวดหูมากๆเลยค่ะ ปวดแบบเหมือนแก้วหูจะแตกและขาดจนเกือบลงไปนอนชักกับพื้นเลยค่ะ พนักงาน
บนเครื่องบินพากันตกใจใหญ่เลยค่ะ โดยปกติสองถิงจะมีอาการแค่ปวด
หูแค่นิดหน่อยเองค่ะ แต่ครั้งสุดท้ายจะปวดมากเป็นพิเศษ อาการปวดหูมาก น่าจะเป็นเพราะ เป็นไข้หวัดอยู่ จึงทำให้การปรับแรงดันในช่องหู ขณะบินเปลี่ยนระดับความสูงได้ไม่ปกติดีเท่าที่ควร เนื่องจาก อากาศในช่องหู คอ จมูกอาจถูกอุดตันจากเสมหะหรือน้ำมูกขณะเป็นหวัด วิธีป้องกัน คือ ให้กลืนน้ำลายบ่อยๆขณะไต่เพดานบินขึ้น และขณะเครื่องบินกำลังลดระดับ หรือเมื่อเริ่มมีอาการหูอื้อ
|
|
|
|
|
|
|