นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหารือข้อราชการกับ (เช้ก ฮาเมท บิน จัสซิม บิน จาบา อาล ทานี่) H.E. Sheikh Hamad bin Jassim bin Jabr Al-Thani นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ แบบเต็มคณะ หลังเข้าเฝ้า(เชก ฮาเมท บิน คาลีฟา อาล ทานี่) H.H. Sheikh Hamad bin Khalifa Al-Thani เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ในการเดินทางเยือนรัฐกาต้าร์อย่างเป็นทางการวานนี้(15 พฤษภาคม)ซึ่งถือเป็นวันแรก โดยการหารือนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ที่ไทยถือว่ากาตาร์เป็นมิตรที่แนบแน่นและยาวนาน และหวังที่จะร่วมมือกันทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค และการที่ไทยและการต้าร์ต่างเป็นประเทศสำคัญในภูมิภาค จึงเชื่อมั่นว่าไทยและกาตาร์จะเป็นจุดยุทธศาสตร์และเป็นประตูการค้าและการลงทุน ทั้งยังเห็นพ้องจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาของเอเชีย
และในโอกาสนี้ได้มีการหารือกรอบความร่วมมือต่างๆที่จะเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน โดยด้านเศรษฐกิจไทยได้เสนอสาขาความร่วมมือที่สำคัญ ทั้งการร่วมทุนในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานของไทย และการเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมของไทยกับสมาชิกอาเซียน รวมถึงจีนและ อินเดีย /ตลอดจนความร่วมมือด้านการเงินที่ไทยสนับสนุน (Qatar Investment Authority ) หรือสถาบันการลงทุนของกาตาร์ ในการร่วมลงทุนภาคการเงิน ตลาดหลักทรัพย์ และการดำเนินธุรกิจค้าปลีก และด้านพลังงานที่ บริษัท ปตท และ Qatargas จะได้รับการสนับสนุนให้มีการลงนามความตกลงระยะยาวในการซื้อขายก๊าซ LNG โดยไทยจะเป็นประตูของกาต้าร์สู่อาเซียนและภูมิภาคใกล้เคียง นอกจากนี้ไทย ยังมีความยินดีที่มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมความมั่นคงทางอาหาร โดยไทยพร้อมจัดหาอาหารตามความต้องการของกาต้าร์ และชื่นชมในข้อริเริ่ม การสร้างความมั่นใจด้านความมั่นคงทางอาหาร และพร้อมที่จะพัฒนาเทคโนโลยีอาหารฮาลาลร่วมกัน ขณะที่ภาคเอกชนของไทยก็สนใจร่วมการพัฒนาโครงการรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาต้าร์เป็นเจ้าภาพและไทยยังพร้อมรับประชาชนกาต้าร์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ในส่วนของกาตาร์จะพิจาณายกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากไทยโดยเร็ว และนอกจากความร่วมมือทางธุรกิจแล้วยังมีเรื่องการเมืองและการทหาร ที่กาตาร์ที่ให้การสนับสนุนท่าทีไทยเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ในเวทีองค์กรความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC และหวังว่าไทยจะได้รับการสนับสนุนจุดยืนในการประชุมสภา OIC ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งที่ 39 ในปีนี้ ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลรัฐกาตาร์กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับระเบียบการจ้างแรงงานในรัฐกาตาร์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ เป็นจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ขณะที่ในวันนี้นายกรัฐมนตรีจะพบปะหารือกับผู้บริหาร (เอสปิต้า กาต้าร์ ออโทรปิดิก แอนท์ สปอร์ต เมติคอล เซนเตอร์ )Aspetar – Qatar Orthopedic and Sports Medical Center หรือศูนย์การแพทย์เพื่อการกีฬาเป็นภารกิจแรก