นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเดินทางเยือนรัฐกาต้าร์อย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคมว่า จากการหารือของรัฐบาลไทยและกาต้าร์ว่า ทั้ง 2 ประเทศได้หารือกรอบความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านพลังงานที่ไทยตกลงที่จะซื้อก๊าซ LNG จากกา ต้าร์ 2 ล้านตัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการผลิตไฟฟ้าของไทย ส่วนการลงทุนกาต้าร์เองมีความสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทยหลายด้าน นอกจากนี้ 2 ประเทศจะมีการหารือกันถึงความร่วมมือในโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมของไทยกับเพื่อนบ้านและในภูมิภาค รวมถึงการมอบให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ศึกษากฎระเบียบที่จะอำนวยความสะดวกให้กาต้าร์ในการเข้ามาลงทุนภายใต้ความถูกต้องของกฎหมาย ส่วนความมั่นคงทางอาหารกาต้าร์สนใจสินค้าทางการเกษตรของไทย ซึ่งไทยพร้อมที่จะจัดหาให้ตามความต้องการของกาต้าร์ อย่างไรก็ตามในการเยือนครั้งนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดี คือการที่กาต้าร์จะพิจารณายกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อไก่จากไทยภายใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามถือว่าภารกิจในครั้งนี้มี ความสำเร็จอย่างมาก และนอกจากการหารือของรัฐบาล 2 ประเทศแล้ว นายกรัฐมนตรีได้นำภาคธุรกิจของไทยกว่า 55 บริษัท พบปะภาคธุรกิจของกาต้าร์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจต่อกัน และในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยี่ยมชมและพบปะกับผู้บริหารของ(เอสปิต้า กาต้าร์ ออโทรปิดิก แอนท์ สปอร์ต เมติคอล เซนเตอร์ )Aspetar – Qatar Orthopedic and Sports Medical Center หรือศูนย์การแพทย์เพื่อการกีฬา เลขาธิการคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2022 ก็ได้ย้ำถึงการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ของกาต้าร์ และด้านการแพทย์ซึ่งไทยถือว่าได้รับการยอมรับในเรื่องนี้โดยเพราะคณะกรรมาธิการด้านการแพทย์ของฟีฟ่าและศูนย์วิจัยและประเมินทางการแพทย์ฟีฟ่า (F-MARC)มีการแต่งตั้งให้ไทยเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ของฟีฟ่า เช่นเดียวกับกาต้าร์ และยังรวมถึงความพร้อมของไทยด้านบริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลรัฐกาตาร์กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยจำนวน 4 ฉบับ ซึ่งจะส่งผลดีต่อไทยในภาพรวม
ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนรัฐกาต้าร์อย่างเป็นทางการแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเดินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโดฮากลับถึงประเทศไทยในเวลา 21.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 17 พ.ค. 2555 เวลาประมาณ 07.20 น.