Sanook.commenu

ค้นหา ตรวจหวย ข่าว อีเมล์ ดูทีวีออนไลน์ ฟังเพลงออนไลน์ คลาสสิฟายด์ ริงโทน เกมส์ ดูทั้งหมด »

หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: "ชาวนา" อาชีพที่วัยรุ่นไทยไม่อยากจะเป็น  (อ่าน 9689 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 17 ก.ย. 12, 13:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

"ชาวนา" อาชีพที่วัยรุ่นไทยไม่อยากจะเป็น


หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ ลงเรื่องวัยรุ่น กับอาชีพชาวนาของไทย เมื่อ 4 มิ.ย. 55
http://www.nytimes.com/2012/06/05/world/asia/thai-youth-seek-a-fortune-off-the-farm.html?_r=2&pagewanted=1&hp

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ นำมาแปลและเรียบเรียงใหม่
http://www.doctorwe.com/variety/20120606/1591

คัดมาให้อ่านบางส่วนนะจ๊ะ ฉบับเต็มตามลิงก์ข้างต้น ^^





ก่อนอื่นขอแปลชื่อเรื่อง ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านง่าย ๆ ก่อน..

ชื่อเรื่องแปลตามความว่า “ชาวนา อาชีพที่..วัยรุ่นไทย….ไม่อยากจะเป็น”

เนื้อเรื่องกล่าวถึง น้องมาลินี คำมอญ เธอมีอายุเพียง 18 ปี

ใช่แล้ว… เธอยังเป็นวัยรุ่น อาศัยอยู่ที่บ้านคลองคู ที่จังหวัดพิษณุโลก

เธออาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่ตรงข้ามกับผืนนา…ที่บ้านเธอเป็นเจ้าของ

แต่ที่น่าแปลกคือ มาลีนี…. ไม่เคยปลูกข้าวเลย..แม้แต่เม็ดเดียว ตั้งแต่เกิดมา

“มันร้อน มันเหนื่อยมาก ฉันไม่ชอบจริง ๆ” เป็นคำพูดของมาลินี

“ฉันไม่ชอบโดน….. แดด” มาลีนีพูดต่อ… ขณะที่กำลังเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่


ในอดีต.. ชาวนาไทยหนุ่มสาว….ต้องทนลำบากในการปลูกข้าว

และต้องยืนเป็นชั่วโมง ๆ ท่ามกลางแสงแดด….อันร้อนแรง

แต่ทุกวันนี้… มีแต่คนแก่ ๆ หรือ แรงงานต่างชาติ เท่านั้น ที่ยังทำ…แบบนั้นอยู่


ทุกวันนี้.. ด้วยระบบการศึกษาที่ดีขึ้น รวมถึงโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้น

วัยรุ่นไทย จึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในโรงเรียน หรือโรงเรียนกวดวิชา มากขึ้น

เพื่อมุ่งไปสู่อาชีพ…และอนาคตที่ดีกว่า

รวมไปถึงโอกาสที่จะได้ทำงาน.. ในห้องที่ติดแอร์

ที่ไม่ต้องร้อน…. เหมือนการยืนตากแดดทำนา..ทั้งวัน

“สิ่งที่พวกวัยรุ่นอยากทำมากที่สุดก็คือ คุยกับเพื่อนทาง…โทรศัพท์มือถือ

เป็นคำพูดของสุดารัตน์ คำมอญ ชาวนา อายุ 33 ปี

ซึ่งเธอเป็น………………………… ชาวนาอายุน้อยที่สุดของบ้านคลองคู


ในปี 2528 พบว่า หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี จะทำอาชีพทำนา คิดเป็น 35 %

ทุกวันนี้ หนุ่มสาวที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี ที่ทำนาเป็นอาชีพ เหลือเพียง 12 % เท่านั้น

คิดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าจากเดิมมี 3 คน..ทำนา เวลานี้ก็เหลือแค่….คนเดียว เท่านั้น…ที่ยังทำนาอยู่

ที่หนักหนากว่านั้นคือ ……………………………………..

ในปี 2528 พบว่าอายุเฉลี่ยชาวนาที่ยังทำนาอยู่ อยู่ที่ 31 ปี

ซึ่งแสดงว่า คนส่วนใหญ่ที่ทำนา…ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว…..วัยทำงาน

พอถึงปี 2553 พบว่าตัวเลขอายุเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไปเป็น 42 ปี

ซึ่งพอสรุปได้ว่า………………………………………………

ทุกวันนี้…. และจากนี้ไป…. คงจะมีแต่ “คนแก่” เท่านั้น…………. ที่จะทำนา


ในขณะที่วัยรุ่นไทย…กำลังหลีกหนี การเป็น “กระดูกสันหลัง” ของชาติ

หรือการคิดว่า..ให้เป็นอะไรก็ได้ ยกเว้นเป็น…ชาวนา

อาจารย์เอี่ยม ทองดี อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าให้ฟังว่า….

“องค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ..การปลูกข้าว ก็ค่อย ๆ จางหายลงไปทุกวัน

พร้อม ๆ กับประเพณี…ลงแขก ที่เพื่อนบ้านจะช่วยกันเกี่ยวข้าว”

อาจารย์เอี่ยม ยังให้แง่มุมในการเป็น “ชาวนา” ที่ฟังแล้ว….สะเทือนใจ อีกว่า

บรรดาลูกหลานชาวนาไทย มักจะมีความเชื่อว่า………………………..

ชีวิตในเมือง…จะสะดวก..สบายกว่า ในชนบท

และเป็น “ชาวนา” นั้นมันดูเหมือนจะเป็น….. คนจน…… คนโง่….. คนอ่อนแอ

ชีวิตชาวนามันลำบาก จนบางคนถึงกับบอกว่า

“ถ้ามีโอกาสเกิดใหม่ซัก 10 ครั้ง…………………………

ก็..ขออย่าให้มีชาติไหน ต้องเกิดมาเป็น…. ชาวนา อีกเลย”


บุญมี คำมอญ พ่อของ มาลินี วัยรุ่นสาว…ที่ไม่อยากเป็นชาวนา

พูดเกี่ยวกับลูกสาวของเขาว่า “ เธอ..อยู่ในโลกของเธอ”

“เธอ…ไม่สนใจที่จะเป็น..ชาวนา ผมเอง…พยายามบังคับเธอแล้ว แต่มันยากจริง ๆ”

มาลินีเล่าให้ฟังถึงเพื่อน ๆ ของเธอว่า

“บรรดาลูกหลานชาวนาหลายคนก็ไม่อยากเป็น…….. ชาวนา

พวกเขาอยากเป็นหมอ.. เป็นเภสัชกร.. เป็นวิศวกร”


ส่วนมาลินี..เอง เธอคิดว่า โตขึ้น..เธออยากเป็นครู

เพื่อน ๆ ของมาลินี กล่าวถึงมาลินีว่า…

เธอค่อนข้างอาย..ที่จะบอกว่าพ่อแม่เป็นชาวนา

และสิ่งที่ทำให้มาลินีไม่อยากเป็น “ชาวนา” มากที่สุด ก็คือ

“เธอไม่อยาก………………………… ตัวดำ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ก.ย. 12, 13:11 น โดย noojidsai » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 ก.ย. 12, 13:12 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073

AF5c">

Jesus loves you and so do I.
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 11:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เหตุผลที่บุตรหลานเกลียดการเป็นชาวนา ควรย้อนกลับไปดูที่ผู้ใหญ่ที่มีการปลูกฝังเด็กตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน ที่บอกเสมอว่า "อาชีพชาวนาไม่ดี ลำบาก ได้เงินน้อย เรียนเก่งๆๆ จะได้ทำงานอื่นที่สบายและได้เงินเยอะ " นี้คือสิ่งที่ผู้ใหญ่พร่ำสอนเรามา แม้จะเกิดในยุคในก็จะได้ยิน แต่นี้คือความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกหลานเมื่อตนเหนื่อยและลำบากก็ไม่อยากให้ลูกตนเป็นอย่างตน จึงเกิดผลต่อมาว่าเด็กเกลียดการเป็นชาวนา ซึงหากมองดูจากแนวคิดของตอบผู้โพส คิดว่าอาชีพอิสระ ทำได้ตามใจฝัน ได้เงินเป็นก้อน ลงทุนน้อย คือการทำนา และเป็นอาชีพที่ส่งลูกหลานเรียนจบสูงๆ ทั้งนั้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อยากบอก
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 12:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากเป็นชาวนะที่ดูดีและมีสตางค์ ก็เริ่มหาความรู้ ,วิทยาการใหม่ๆ รวมถึงเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์หรือเครื่องทุ่นแรง
และหันมาเป็นนายทุน หรือ พ่อค้าคนกลาง เองได้แล้ว
เพราะว่าชาวนาในต่างประเทศ(ประเทศที่เจริญแล้ว) ทำเองหมด ทั้งหว่าน ปลูก เก็บเกี่ยว และส่งขาย
เขาจึงรวยกันหมด
ทุกคนให้การนับหน้าถือตา มีตำแหน่งทางสังคม ไม่ด้อยไปกว่าการทำงานอาชีพอื่นๆเลย

แต่พอกลับมามองบ้านเราแล้ว......

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 12:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชาวนาทุกวันนี้ยิ่งทำก็ยิ่งจน ต้องกู้หนี้ยืมสินมาทำไร่ทำนา แต่ไม่ทำก็ต้องอดตาย ถ้าสักวันนึงไม่มีคนทำข้าวราคาแพง ก็คงได้เห็นชาวนารุ่นเยาว์กันแน่ครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 13:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่เคยอาย และภูมิใจที่จะบอกใครๆว่า เป็นลูกชาวนา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
wisuth
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 13:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชาวนาลำบากจริงๆๆๆๆๆ อยาคิดนะว่าจะมาเป้นชาวนาตอนหลังอายุ 60 ปี มันต้องใช้ความอดทน ใช้เวลา และที่สำคัญคุณต้องมีเงินสำรองใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และยิ่งถ้าคุณจะมาทำเกษตรพอเพียว คุณทำได้แต่ต้องเจ้าหน้าที่เกษตร หรือนักวิชาการเข้ามาช่วย และอีกเรื่องคือเกษตรอิทรีย์เป็นเรื่องของคนมีเงินที่จะทำ ชาวนาส่วนมาก (ส่วนมากนะเขาไม่สนใจว่าจะมีสารเคมีอะไร เพียงแต่เขามีเงินอยู่ 1 ก้อนใส่ปุ๋ยแล้วมีข้าวเกี่ยว และนำเงินมาหักหนี ธกส. ซึ่งมีให้กู้ตั้งแต่รถกะบะ มอเตอร์ไซด์ รับจำนองที่ดินซึ่งเป็นความจำเป็นที่ชาวนา ชาวบ้านอยากที่จะได้ทั้งนั้น ทำนาได้มาแต่ละปี ก้จะใช้หนี ซึ่งเป็นเพียงดอกเบี้ย80% ทีเเหลือเป้นต้อนและกินใช้ ในปีต่อไปก็กู้ซื้อปุ๋ยอีก น้ำไม่มีก็ยังไม่ช่วยทำฝนเทียม กลัวกรุงเทพฯน้ำท่วม ชาวนาประเทสไทยเลยไม่มีใครอยากเป็น มีหน่วยงานใดบางที่จัดอันดับชาวนาที่ทำนาได้น้อยที่สุด หรือทำนาแล้วมีเงินมากที่สุด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ืnik
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 14:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราก็ลูกชาวนาคนหนึ่งเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ทำนาเพราะทำไม่ไหวแต่ไม่เคยอายที่มีพ่อกับแม่เป็นชาวนากับภูิใจด้วยซ้ำเพราะพ่อกับแม่ได้ทำให้คนไทยมีข้าวกินไ่ม่อดอยากเหมือนชาติอื่น แต่ชาวนาไทยทุกวันนี้ยิ่งทำก็ยิ่งจนคะเพราะค่าปุ๋ยค่ายาแพงมากบางครั้งข้าวราคาถูกแต่ปุ๋ยยาก็ไม่ได้ถูกตามด้วยเหตุนี้ชาวนาไทยถึงลืมตาอ้าปากไม่ได้ใครถึงไม่อยากเป็นชาวนา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 14:10 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*031 แต่เราเป็นคนนึงที่อยากเป็นชาวนา และอยากเป็นเกษตกรด้วย เพราะบ้านเรามีท้องนา มีไร่ มีสวน และทุกปีพ่อกับแม่ก็ปลูกข้าวอยู่แล้ว การมาทำนาไม่ใช่ว่าจะเหนื่อยเสมอไป เพราะมันเป็นงานของเรา ไม่ต้องเร่งรีบเหมือนทำงานในโรงงานหรือเป็นลูกจ้างเค้า เหนื่อยก็หยุดพัก แล้วยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์อีก บางทีแดดเปรี้ยง แต่เมื่อเราลองทำและไปอยู่กลางแดดแล้วมันกลับไม่ได้ร้อนเหมือนอย่างที่เราคิดเลย แต่มันกลับมีลมเย็นๆๆพัดตลอด
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เราให้เราได้โตมา ได้กินอิ่ม ได้เรียนหนังสือ เราไม่คิดทิ้งอาชีพนี้แน่นอน ยิ่งได้ดูละครธรณีนี่นี้ใครครอง ยิ่งทำให้เราอยากเป็นเกษตรมากขึ้น แต่เสียดายที่หมู่บ้านของเราน้ำไม่ค่อยดี.............

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เอเจ
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 14:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เปลี่ยนวิธีการปลูก
ทำให้ง่ายขึ้น
นักการเมืองงด ดูงาน เน้นลงมือปฎิบัติ
ไม่ยากเหมือนสูตรฟิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี
โจทย์ ให้คนทั้งประเทศ นักการเมือง (โดยเฉพาะ รัฐมนตรี กระทรวงเกษตร ต้องเก่ง มีสมอง มีความคิด) อย่าเอาคนโง่ คอรัปชั่น เห็นแก่ตัวมาบริหาร เวลาชาวนาเลือก โดยประชาธิปไตย โดยเขารู้เท่าไม่ถึงการ นักการเมืองสร้างความหวังเรียกศรัทธา ได้เพราะ ฉลาดในการพูดและหลอกให้ชาวนา หลง แต่สุดท้ายคือผลประโยชน์ในทุกยุคทุกสมัย
ฟังนะ โจทย์ง่ายๆๆ ให้คนที่เป็นผู้นำประเทศ ไม่ต้องท่องให้ขึ้นใจ แต่ให้เข้าใจ

อย่างโกง เสียสละ ดังที่ประกาศไว้ ตอนเป็นสส. ปฎิญาณตัวอย่างไง ตอนรับตำแหน่ง เคยทำได้หรือเปล่า ตำรวจทหาร อาชีพอื่น ท่องกันเข้าไปคำขวัญ แต่ไม่เคยทำได้

การปลูกพืช ทำง่ายๆๆ ลดขั้นตอน เน้นผลประโยชน์ให้ผู้บริโภค สะอาดปลอดภัย ราคาเท่าไหร่ ตั้งไปเลย สวน ไร นา ออแกนนิก จากสารอินทรีย์

ชาวนา ตั้่งใจทำงาน ทำอาชีพ มีวินัยอย่า มักง่าย อย่าเอาเปรียบผู้บริโภค ราคาเท่าไหร่ ถ้ามันดี ก็ตั้งไป บริสุทธิ์ใจ

สรุปคือ มีธรรมะในทุกอาชีพนั่นเอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ดา
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 15:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดิฉดาดำ
เราึนนึงที่เป็นลูกชาวนา เราภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกชาวนา เมื่อก่อนก็คิดเเต่ว่าเป็นชาวไร่ชาวนามันช่างยากจนนัก เเต่พอโตข้ึนมันไม่ใช่เลย ดีเสียอีกที่เกิดเป็นชาวนา มีที่นาทำกินได้ข้าวได้นำ้ พ้ืนดินอุดมสมบูรณ์ มีที่ปลูกบ้าน มีที่ทำกินปลูกผักสวนครัวไม่ต้ิงไปซื้อเขาให้เปลืองตังค์ เเถมปลอดสารพิษด้วย ข้าวก็มีเต็มเล้า อยู่กับธรรมชาติ เเต่ก็ไม่ได้น่ิงนอนใจ พยายามหาควารู้ใส่ตัว ก้าวตามเทคโนโลยี่ให้ทัน ติดตามข่าวสาร การที่คนเราเป็นชาวนา ไม่จำเป็นต้อง โง่ ไม่มีีความรู้ เดียวนี้ถ้ารู้จักพลิกเเผลง ไม่อดตายไม่ลำบาก ข้าวก็ไม่ต้องซ้ือ บ้านก็ไม่ต้องเช่า โอ๊ยในความคิดส่วนตัวเราเเล้ว เราโชคดีจริงๆที่เกิดมาเป็นลูกชาวนา ค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 15:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แม่เป็นชาวนา ไม่เห็นจนเล็กมันอยู่ที่คน แม่ส่งลูกเรียนสูง ๆ ทุกคนเราภูมิใจที่มีแม่เป้นชาวนา
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
kroobannok
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 16:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราเป็นครูทั้งตระกูล แต่เราก็ทำนาทั้งเหง้าเหมือนกัน
เพราะถูกสอนว่าครูเงินเดือนน้อยไม่พอกิน
ต้องมีอาชีพเสริมซึ่งก็คือทำนาจนปัจจุบัน
มีทั้งเกียรติ ศักดิ์ศรี มีตังค์ด้วย...ดีออก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนาคนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 16:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่เสียใจเลยที่ชาตินี้เกิดมาเป็นลูกชาวนา ดีใจด้วยครับ ที่มีโอกาสได้ทำงานอย่างอิสระไม่ต้องเป็นลูกจ้างคนอื่นเขา ข้าวก็มีกินปลาก็มีกินผักก็มีกินไม่ต้องไปซื้อกิน และได้อยู่กับธรรมชาติ อากาศที่หายใจก็บริสุทธิ์ แล้วชีวิตจะเอาอะไรอีกครับ ชาวนาสมัยนี้ไม่ลำบากหรอกครับ ถ้ารู้จักขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และถ้ามีที่ดินเป็นของตัวเอง ยิ่งสบายครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
sffdfd
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 17:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราอยากทำนา

มีข้าวกิน ปลูกผัก มีปลา

มีอาหาร เลี่ยงไก่ไว้กินไข่ มีผลไม้กิน มีอากาศที่ดี

ไม่มีเจ้านาย หลายอย่าง

เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีมากขึ้น

การทำนาก็สะดวกขึ้น ตั้งแต่ปลูกจนเก็บเกี๋ยว

( แต่เสียดายเราไม่มีที่นาทำ คงต้องเก็บเงินก่อนค่อยไปหาซื้อที่ )

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ยัยตัวร้าย
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 19:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นคนหนึ่งที่เป็นลูกชาวไร่ชาวนา เมื่อก่อนเคยโกรธพ่อแม่ที่ให้ไปไร่ไปนา ทั้งๆ ที่เพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่บ้านสบายๆ พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่าที่พ่อแม่ให้เราไปไร่ไปนา ท่านสอนให้รู้จักอดทน ให้เห็นความลำบาก แล้วให้ตั้งใจเรียน แต่ไม่เคยสอนให้ทิ้งไร่ทิ้งนา แม้จะได้ดีแล้วก็ไม่ควรทิ้งท้องไร่ท้องนาที่เลี้ยงเรามาจนเติบใหญ่

ในอนาคตก็จะเป็นว่าที่คุณครูค่ะ แต่ไม่เคยคิดที่จะขายไร่นา
ไม่คิดที่จะทอดทิ้ง และไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่แสนวุ่นวาย

ภูมิใจมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกชาวไร่ชาวนา
เกษตรกรของชาติ q*014

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
งง
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 19:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชาวนา เกษตรกร ในประเทศที่ประชาชนมีความคิด มีสติปัญญา คือกลุ่มชนที่เป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตอาหาร มีอำนาจในการกำหนดราคาและต่อรองได้ แต่ทำไมในประเทศไทย อาชีพชาวนา เกษตรกร กลายเป็นกลุ่มชนที่ยากจน มีแต่หนี้สิน กลายเป็นคนชั้น2ในประเทศตัวเอง สาเหตุทั้งหมดมาจากกลุ่มทุนที่เป็นคนกลาง ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการซื้อถูกขายแพง เร่งขยายการผลิตเพื่อขายมากๆ จนชาวนาต้องเป็นหนี้ค่าปุ๋ย ค่าวัสดุการเกษตร เพื่อผลิตข้าว ผลิตพืชจำนวนมากมายจนเหน็ดเหนื่อย จนต้องขายนา ขายบ้าน มารับจ้างนายทุนทำนา ที่นาก็ลดลงทุกวันๆ เพราะนายทุนขายไปทำโรงงาน ลูกหลานเรียนมาสูงๆ แต่ไม่ได้เพิ่มความคิด สติปัญญาที่จะมาช่วยเหลือชาวนา แต่กลับไปเป็นลูกจ้างนายทุนซะอีก มันน่าเศร้านะ ความจริงแบบนี้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 20:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราเป็นประเทศเกษตรกรรม....ปลูกข้าวก็อยู่แนวหน้า น่าแปลกไหมที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเกษตรเราต้องรอให้ชาติอื่นเค้าพัฒนาให้ซึ่งทำให้เพิ่มรายจ่ายเทคโนโลยีเหล่านั้น (เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา) เราคงจำคำนี้กันได้ แต่ปัจจุบันนี้ เข้าใจ - เข้าใจว่าเป็นชาวนาต้องลงแรง ตากแดด ตากฝน , เข้าถึง - เข้าถึงตอนหาเสียงอยู่กระท่อมปลายนาก็ยังหาเจอ , พัฒนา - พัฒนาราคาข้าวแต่ไม่คำนึงถึงงบประมาณ ราคาปุ๋ยขึ้น ก็ขึ้นราคาข้าว ปุ๋ยขึ้นอีก ข้าวขึ้นอีกนิดนึง แต่หารู้ไม่ชาวนาบางรายก็ยังไม่ได้ตามที่ประกาศเลย หักค่าความชื้น สิ่งเจือปน ค่าน้ำมันในการขนส่ง นี่หรือชาวนาไทย (ชาวนามีหน้าที่ทำนา คนขึ้นราคาข้าวคือนักการเมืองแต่มีนักการเมืองคนไหนปลูกข้าวเหมือนชาวนาบ้างครับ)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 21:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เราเป็นคนนึงทีเป็นลูกชาวนา จบโทจากมหาลัยมีชื่อ ทุกวันนี้ จันทร์ - ศุกร์ ทำงานประจำ เสาร์ - อาทิตย์ทำนาให้แม่ อยากบอกว่าทำนาสมัยนี้ไม่เหนื่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าข้าวราคาดี เป็นชาวนาก็รวยได้ ได้เป็นนายตัวเองด้วย อยู่ที่เราคนรุ่นใหม่ ใช้ความรู้ที่เรียนมาพัฒนา เราหวังสักวันอนาคต ชาวนาไทย จะเหมือนต่างประเทศ และอยากบอกว่าชาวนาที่เป็นเหมือนหนังตอนละครตอนเย็นมีจริงนะ ชาวนาที่มี่นาเป็นของตัวเองเป็น 100 ไร่นะ เพราะฉะนั้นอย่าดูถูกชาวนา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นายควาย
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 21:45 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*033เป็นค่านิยมมาแต่โบราณ ที่ปู่ย่า ตายาย ให้พรลูกหลานว่า เรียนเก่งๆๆนะ "จะได้เป็นจ้าวฅนนายฅน" ไม่เคยบอกว่า เรียนเพื่อประดับความรู้ แล้วมาทำนาน๊ะ มีลูกก็ไม่อยากให้ลูกลำบาก เลี้ยงลูกให้เป็นลูก "เทวดา" q*072q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนเดินดิน
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 18 ก.ย. 12, 23:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

การเป็นชาวนาไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย ถ้าเทียบกับพวกที่ทำอาชีพที่ดูดีแต่ได้มาด้วยความทุจริต นี้สิน่าอายยิ่งกว่า
ชาวนาแม้จะเหนื่อย งานจะหนักแต่ขอให้ตระหนักถึงความเป็นชาวนาของเรา มันไม่ได้เหนื่อยหรือหนักอย่างที่คิดถ้าคุณลองทำสักนิดก็จะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน (สำหรับคนที่ยังไม่เคยลงมือทำ เพียงแค่คิดแต่จงลงมือทำสิคุณก็จะรู้............) และสิ่งสำคัญที่สุดที่ลูกหลานจะสืบทอดการทำนาต่อไปหรือไม่นั้นอยู่ที่การปลูกฝังให้ลูกหลานของตนพึงรักในความเป็นชาวนามากแค่ไหน
สำหรับฉันอาจเหมือนหลายคนที่พ่อแม่ส่งให้เรียนสูงๆๆเพื่อจะได้ทำงานดีๆ ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนพ่อแม่ แม้พ่อแม่จะสอนฉันเช่นไร สำหรับฉันการทำนายังอยู่ในสายเลือดของฉันฉันรักอาชีพชาวนามากกว่าอาชีพใดๆ เพราะนี้คือสิ่งที่บรรพบุรุษฉันได้ถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน และฉันจะสืบทอดวัฒนธรรมดีๆแบบนี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้ถึงการทำนา แม้ว่าตอนนี้ฉันจะเข้ามาทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นสบายมีความสะดวกสบายมากมาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไปนั้นคือ ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ แต่ทุกครั้งที่ฉันมีวันหยุดฉันจะเดินทางกลับไปพักอยู่ที่บ้าน เพราะที่บ้านมีทุ่งนาที่เขียวขจี พร้อมสายลมที่เย็นสบายสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอด
สำหรับคนที่คิดว่าไม่อยากทำนาเพราะเป็นงานหนัก คุณกลับความคิดตอนนี้ยังไม่สาย เพราะคุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่คุณต้องการมาทั้งชีวิตนั้นคืออะไร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
กาฟิวส์
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 08:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าวัยรุ่นสมัยนี้เกลียดอาชีพ ทำนา ต่อไปในอนาคตการทำนาในประเทศของเราก็จะค่อยๆหมดไป ต้องไปซื้อข้าวต่างประเทศกิน (ขออันเชิญพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านว่า ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อย ๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ
เรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก..")

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร โครงการโคกกูแว จังหวัดนราธิวาส พ.ศ. 2536

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนเคยทำนา
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 09:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062 ฉันเองก็เคยทำนามาก่อน เวลาปลูกข้าวเสร็จทั่วทั้งทุ่งนา แล้วเดินกลับ บ้าน มือทิ้ววิทยุ เปิดเพลงดัง ๆ เดินเลาะตามคันนา อุ๊ย มีความสุข ในโลกเลย ยิ่งเวลาข้าวกำลังเหลืองทั่วทุ่งนา คุณเอ้ย หาคำบรรยายไม่ได้เลยเชียว นะ เว้ามาแล้วคิดฮอดบ้านเด้อพี่น้องเอ๋ย

( อีกไม่นานก็จะเกษียนตัวเองกลับไปอยู่บ้านเฮาแล้วเด้อ )

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ความจริง
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 10:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

รู้ไหมชาวนาแถวบ้านเรารวยกว่าพวกทำงานบริษัทหรืองานอะไรที่มันสบายๆอีกเดียวนี้ทำนาได้ค่าโน้นนี่นั้นตั้งเยอะแต่เสียอย่างเดียว....มันเหนื่อย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
miniime
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 10:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ว่าจะเก็บเงินซักก้อน แล้วจะไปทำนา ^^
แต่ไม่มีที่ดิน ไม่มีวิชา ไม่รู้เคล็ดลับ (แอบอิจฉาคนเป็นลูกชาวนาชาวไร่)
ชีวิตเมืองมันไม่ค่อยดีหรอกครับ แข่งกันทั้งวันทั้งคืน
แข่งกับเวลา แข่งกับคนอื่น แข่งกับเทคโนโลยี
เงินทองที่หาได้ ก็เอาไปแข่งร่ำแข่งรวยกันจนแทบไม่มีเหลือเก็บ
เมืองนอกเมืองนา ชาวไร่ชาวนาเค้ารวยนะ อาจเพราะเค้าเอาเทคโนโลยีไปใช้อย่างคุ้มค่าก็เป็นได้

เงินทองเป็นของมายา แต่ข้าวปลาเป็นของจริง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนาที่พลัดถิ่น
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 10:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062
ฉันภูมิใจในอาชีพของพ่อแม่ ทุกวันนี้ทำงานที่ชลบุรี แต่ก็ยังกินข้าวจากผืนนาของพ่อแม่ที่สกลนครค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา!!
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 11:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็แน่หร่ะค่ะ..การเป็นชาวนาทั้งเหนื่อยและลำบากตรากตรำหนักมากกว่าจะได้มาซึ่งผลกำไรหรือไม่ก็ขาดทุนอีกต่างหาก..ค่าตอบแทนได้มากก็จิงแต่ชาวนาส่วนใหญ่ค่อนข้างยากจน..ต้องกู้หนี้ยืมสินได้เงินมาทีนึงก็ต้องใช้หนี้ที่กู้ยืมมาลงทุนได้ใช้เงินที่ได้มาจริงๆก็ไม่เท่าไหร่..มันหนักและเหนื่อยเสียเหงื่อเท่าไหร่นับไม่ถ้วน..แต่คนเปนชาวนาก็มีความสุขทียังมีนาทำนะ..มันสบายใจดี!ปล.พ่อแม่ชาวนาคนไหนก็ไม่อยากให้ลูกต้องมาเป็นชาวนาหรอกค่ะเพราะพวกเค้ารู้ว่ามันเหนื่อยมากแค่ไหนนะ!!^..^

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
gg
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 11:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าที่นาของฉันมีคลองชลประทานผ่านฉันก็ไม่มานั่งทำงานเป็นลูกน้องใครเขาหรอกเพราะที่นาแห้งแล้งน้ำไม่ผ่านทำนาได้แค่ปีละครั้งถ้าทำได้เหมือนที่อื่นฉันก็จะยังสืบทอดมรดกของปู่ย่าตายายพ่อแม่ของฉันต่อไปค่ะ คนอำนาจเจริญ q*062

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ใจช่วย
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 13:06 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทุกคนไม่อายที่ เป็น ลุกชาวนา แต่ประเด็นมีอยู่ว่าสังคมเปลี่ยน ชาวนา มีแต่ แก่ ๆ เด็กวัยรุ่นไม่ยอมทำนา อยากทำงานสบาย แล้วคิดว่า การทำนามันหนัก ถูกต้อง มันหนัก แต่ไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าใคร มันนี้การทำนาสะดวกกว่าแต่ก่อนแล้วไม่หนักอย่างที่คุณคิด ไม่ค่อยมีใครเขาดำนา หว่านกันอย่างเดียว ไม่ต้องใช้ควายไถนา ไม่ต้องลงแขกเกี่ยวข้าว เครื่องทุ่นแรงมี ขาดแค่ โรงสีที่เป็นของตัวเอง ถ้าสีน้อยสีเองได้แต่ถ้าสีมาก ๆ คงต้องขาย สบายกว่าแต่ก่อนเยอะแต่เอ๊ะทำไมถึงไม่อยากทำ ชาวนาบางคนทำนา รอบเดียว แค่ สี่เดือน ได้เงินมากกว่ามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานมาเปนสิบปีอีกนะ อย่าดูถูก ชาวนา อย่างตาสีตาสา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
1234
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 14:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าข้าวราคาดีแบบนี้ ฉันเป็นชาวนาดีกว่าเป็นลูกจ้าง(ขี้ข้า)เขา
มีที่นาเยอะ ๆ ทำปีเดียว รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนาจริงๆ
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 14:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากอนุรักษ์อาชีพชาวนา ไม่อยากให้ชาวนาสูญพันธุ์ อยากเก็บผืนทุ่งนาไว้ชมยามวันหยุดพักผ่อน ก็เป็นเพียงแค่..จริต..ของคนกรุง หากอยากอนุรักษ์อาชีพชาวนาไว้จริงๆ ทำไมไม่ส่งเสิมให้ลูกหลานทำนากันละครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เปลี่ยนความคิด
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 16:15 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตอนนี้เราก็มีงานทำ สามีมีอาชีพทำนา ( มีงานอื่นๆท่่ได้เงินเดือนแต่ก็ไม่ไปเลือกทำนา ที่ดินของตนเอง ) ได้กำไร 2 เท่าตัว ลงทุน 43,000 ขายข้าวครั้งนึง 140,000 ไม่เป็นหนี้ ไม่เหนื่อยมาก ใช้เครื่องทุ่นแรง เลือกพันธ์ข้าวที่เหมาะกับฤดูกาล ใช้เวลาแค่ 3-4 เดือน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ลูกชาวนา
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 16:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ฉันเป็นลูกชาวนา เคยอายเพราะเราจน รู้ไหมเพราะชาวนามักถูกตราหน้าว่ามันจนไร้เกียรติ ถูกเอาเปรียบไร้ความรู้ พ่อแม่อยากให้เป็นครู มีความรู้สูงแต่ว่าก็ยังจน ความจนมันเป็นมรดก เพราะถ้าพ่อแม่จนลูกไม่แคล้วจน เพราะ ถ้าไม่อย่างนั้นแสดงว่าคุณคนรวยไม่ได้หันกลับมาช่วยพ่อแม่เลย อย่ามาเถียงกันเพราะเรื่องเล็กๆเลย เอาเวลามาทำเรื่องอย่างอื่นดีกว่าไหม ทำไมลูกชาวนาไมอยากเป็นชาวนา เพราะมันเห็นคาตาว่าลำบาก ไม่ต้องสอน เพราะมันเห็นอยู่แล้ว เป็นพนักงานบริษัทลำบากตรงใหน มันรับรู้ไม่ไ้ก้เพราะไม่เคยมีใครเอาลูกไปเลี้ยงที่บริษัทได้ ลูกหลานเลยไม่เห็นไม่รู้ว่ามันลำบากยังใง เล่าให้ฟังมันหาว่าโม้ โกหกตลกโกหกใส่มัน เอางั้น เป็นไรดี เป็น หมอ เหนื่อยใหม โถ่อยู่ในร่มเหนื่อยตรงใหนเล่า เป็นครูก็ไม่ต้องลำบากอะไร แค่บ่นๆสอนๆมันไปตามเรื่อง นั่นคือมุมมองที่คนภายนอกมองในแต่ละอาชีพกัน ทุกคนต่างก็มองในมุมของตัวเองทั้งนั้น เคยสนใจมองในมุมของชาวนาบ้างไหม มองในมุมของครู หมอ พยาบาล พนักงานบริษัท รู้ไหม อะไรสบายท่ีสุด ก็คนตายงัยเล่า ไม่ต้องทำอะไร ไม่เหนื่อย ไม่รับรู้ความทุกข์ นั่นแหละสบายของจริง อยากสบายก็ตาย ไม่อยากสบายก็อยู่ต่อไปเท่านั้นเอง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนมีนา
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 16:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ลองคิดดู ชาวนาไทย มีหน่วยงานของรัฐ ให้ความสนใจใหม ชาวนาทุกสมัยตั้งแต่ปู่ย่าตายาย ถ้าไม่กินผักกันจนตัวเขียว ก็อย่าคิดว่าจะรวยเลยเรื่องจริง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สันติราษฎ์
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 18:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ข้าฯเป็นลูกชาวนา ข้าฯเคยทำนาแต่ทุกวันนี้ที่นาของข้าไม่มีเหลือแล้ว เพราะพ่อกับแม่ของข้าฯสู้ทำนาส่งให้ลูกๆเรียนไม่ไหว เลยจำใจต้องแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุนส่งเสียลูกๆ ยอมทนเป็นลูกจ้างเขาซึ่งพ่อกับแม่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเพราะว่าครึ่งค่อนชีวิตที่ผ่านมาทำนาเลี้ยงตัวอย่างเด๊ยว อันเป็นมรดกชิ้นเดียวของ ปู่ ย่า ตา ยาย ถึงวันนี้สมมุติว่าที่นายังอยู่ก็น่าจะแปลเปลี่ยนเป็นสวนยา่งพาราตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ใช่ว่าไม่รักอาชีพทำนา ตรงข้ามทุกวันนี้เอาใจช่วยชาวนาให้ขายข้าวได้กำไรเท่ากับชาวสวนยาง ซึ่งข้าฯหวังเล็กๆคงจะมีคนโค่นยางพาราหันกลับมาสืบทอดมรดกชาวนาต่อไป คิดขึ้นมาอดเห็นใจกระดูกสันหลังของชาติซึ่งไม่รู้ใครผู้ใดให้ฉายาเสียสวยงาม อลังการ ฟังดูแล้วตื่นตันใจแทนชาวนา แต่นอกจากประโยคอันแสนหวานประโยคนี้แล้ว ข้าฯขอภาวนาให้ชาวนาได้พบคนเก่ง คนจริง นำพาให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้และอยู่อย่างไม่ลมๆแล้งๆเสียที

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อมรรัตน์ ชูกำลัง
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 18:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เป็นลูกชาวนาคนหนึ่ง อายุ24 ทำนาเป็น ทำงานมาหลายตำแหน่งหน้าที่ ทั้งมีหน้ามีตา มีเงิน แต่งตัวสวย ทำงานในห้องแอร์ ไม่ร้อนแดด แต่พอกลับไปบ้านทีไร ไม่อยากกลับมาทำงานอยากอยู่ต่อหลายๆวัน และวันนี้ก็คิดได้แล้วว่าจะกลับไปอยู่ที่ๆอยู่แล้วมีความสุขมีครอบครัว ความอยากได้อยากมีสุดท้ายก็ได้แค่มีแต่ก็เอาอะไรไปไม่ได้ q*039q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ป.ตรี
เรทกระทู้
« ตอบ #36 เมื่อ: 19 ก.ย. 12, 20:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ชาวนารวยกว่าข้าราชการเสียอีก ตอนเป็นเด็กบอกแม่ว่า จบม.3 แล้วจะไม่เรียนต่อ แม่บอกว่าได้ ไม่เรียนก้อทำนา โอ้ยได้ยินแค่นั้น เรียนต่อทันที ตอนนี้อายุ 30 ปี เรียนจบ ป.ตรี รับราชการ เงินเดือน 15000 บ แต่ยังต้องทำนาไปด้วยเลย แล้วชีวิตมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อ๊อด
เรทกระทู้
« ตอบ #37 เมื่อ: 20 ก.ย. 12, 08:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จะเห็นได้ว่าหลายๆคนออกมา บอกว่าไม่อายที่พ่อแม่เป็นชาวนาอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ประเด็นมันไม่ใช่ ประเด็นมันคือทำไมคุณไม่เป็นชาวนาหล่ะ ตามหัวข้อคือคนยุคใหม่ทำนาน้อยลง

เพราะอย่างว่าพ่อแม่ที่ทำนาก็เห็นว่ามันเป็นงานหนักอยากให้ลูกๆสบายส่งเรียนสูงๆจะได้ไม่ต้องมาเป็นชาวนาเพราะลำบาก เด็กรุ่นใหม่จบมาทำงานตามในเมืองไม่ได้เป็นชาวนาคนทำนาก็น้อยลงก็แค่นั้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สงวนสี
เรทกระทู้
« ตอบ #38 เมื่อ: 20 ก.ย. 12, 09:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดิฉันเรียนจบเกษตรคะพ่อแม่ทำนาปัจจุบันก็นำนาจ๋า คาดว่าในอนาคตลูกหลานก็ยังทำนานะมีงานทำนะแต่นาก็ไม่ทิ้ง ถามว่ารวย-จนไหม ก็ไม่นะ
การศึกษาหรือก็ป.ตรี.ป.โทนะ
คิดเอาเองว่าถ้าคนไทยยังต้องกินข้าวก็น่าจะตื่นตัวเรื่องการปลูกฝังค่านิยมเรื่องอาชีพชาวนา หรือต่อๆไปคนที่นำจะเป็นนายทุน
ขอบคุณที่นานๆจะมีหัวข้อเกี่ยวกับอาชีพทำนา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ชาวนาตัวจริง
เรทกระทู้
« ตอบ #39 เมื่อ: 20 ก.ย. 12, 09:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ภูมิใจที่เป็นชาวนา

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  อาชีพ วัยรุ่นไทย ชาวนา 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม
         

ทางสนุก! จะทำการตรวจสอบ
และขออนุญาตไม่แสดงข้อความ
ที่ไม่เหมาะสม ข้อความที่
ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่
สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ รวมถึงข้อความที่
เข้าข่ายหลอกลวง การเผยแพร่
ภาพลามกอนาจาร หรือข้อความ
ใดๆ ที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย บนกระทู้นี้