ความจริงแล้ว งูเป็นสัตว์ที่ไม่มีแขนหรือขา และงูเองก็หวาดกลัวคนเหมือนกันแต่
เราเองก็กลัวงูด้วยเหมือนกัน ต่างคนเลยต่างกลัวกัน
ปัจจุบันมีงูที่ถูกค้นพบ 2,700 ชนิด เป็นงูที่ไม่มีพิษ 2,300 ชนิด
ในประเทศไทยมีงูมากกว่า 180 ชนิด โดยเป็นงูมีพิษกว่า 60 ชนิด
เราสามารถจำแนกงูมีพิษอีกสองประเภท
1.งูที่มีพิษอาศัยอยู่บนบก จำนวน 30 กว่าชนิด
2.งูที่มีพิษอาศัยอยู่ในทะเล ซึ่งเราก็ไม่ค่อยพบเห็นกันบ่อยนัก
............รอยงูกัดบอกประเภทของงูได้....
ก่อนทำปฐมพยาบาลให้สังเกตที่รอยที่โดนกัดว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่
ถ้าหากเห็นรอยฟันเป็นสิบๆรอย ให้สันนิษฐานว่าเป็นงูไม่มีพิษ
เพราะงูชนิดนี้ไม่มีเขี้ยว ให้รีบทำความสะอาดแผลก่อนพบแพทย์
ถ้าหากรอยแผลเป็นลักษณะรอยเขี้ยว จะเห็นกี่รอยแล้วแต่ลักษณะของงูที่กัด
กัดซ้ำหรือไม่ อาจจะเห็นตั้งแต่ 1-4รอย โดยถ้าเป็นงูพิษกัดให้รีบนำส่งแพทย์
...........เลิกใช้วิธีขันเชนาะได้แล้วครับ......
วิธีการปฐมพยาบาลแบบพยุงกล้ามเนื้อ เราจะไม่ใช้การขันเชนะแบบโบราณแล้ว
เพราะถึงแม้ว่าจะสามารถหยุดเลือดและพิษของงู แต่พิษงูก็ไม่ได้เดินทางผ่านทาง
เส้นเลือดทางเดียว พิษสามารถเดินทางผ่านเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง
ก็ได้เช่นเดียวกันและการที่เรากักพิษงูไว้ให้อยู่ที่เดียวกันนานๆ ด้วยการขันเชนาะ
ยิ่งทำให้ความเข้มข้นของพิษงูทำลายเนื้อเยื่อบริเวณนั้นเร็วขึ้น จนอาจทำให้เสียแขน
หรือขาบริเวณที่ถูกกัดไปเลยและการใช้สายรัดห้ามเลือดที่ไม่ถูกวิธี
ยิ่งทำให้เนื้อเยื่อที่ถูกกดไว้เสียหายได้กลายเป็นเนื้อตาย
บวกกับพิษงูแล้วยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
............การปฐมพยาบาลแบบบพยุงกล้ามเนื้อ.........
ถ้าหากถูกกัดที่แขน วิธีการปฐมพยาบาลแบบบพยุงกล้ามเนื้อ จะเริ่มจาก
1.ถอดเครื่องประดับ แหวน,นาฬิกาออก
2.ใช้ผ้าพันตั้งแต่ข้อต่อล่างขึ้นมาเรื่อยๆพันทับแผลที่ถูกงูกัด
3.รีบมาหาหมอให้เร็วที่สุด โดยให้ผู้ถูกงูกัด นอนราบไปกับพื้น
เคลื่อนย้ายในท่านอน เพื่อให้หัวใจทำงาน้อยที่สุด โดยตรวจสอบ
ว่าสถานพยาบาลที่นำส่งมีเซรุ่มแก้พิษงูหรือไม่เพื่อไม่ให้เสียเวลา
ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับการเพิ่มเพิ่มเติมได้ที่ รายการนาทีชีวิต
http://www.ramachannel.tv/detail.php?id=2161
Facebook : http://www.facebook.com/Ramachannel
Twitter : ramachannel
ชมสดหรือดูย้อนหลัง http://www.ramachannel.tv