|
คห.ที่ 34 เอาแบบขยันทำงาน ต่อรองกับกลุ่มการเมืองได้ แต่ไม่เล่นการเมือง มีความเป็นผู้นำและเฉียบขาด แต่ไม่ใช่บ้าอำนาจนะ ที่แน่ๆคือไม่ชอบพวกถ่วงดุลย์ผลประโยชน์อ่ะ พวกที่ชอบดึงจังหวะเก็บเล็กเก็บน้อย น่ารำคาญอ่ะ
ตอบต้องหาแบบคุณตันที่แจกเงินให้นักกีฬาโอลิมปิคคนละล้านสองล้าน แกหาเงินเก่งที่จริงเหมาะเป็นนายกมากกว่าแต่ควรให้ฝึกงานเป็นผู้ว่าไปก่อนครับ คนมีจิตใจแบบนี้หายากหรือท่านว่าไงครับ หายากไหมครับหากมีใครที่ดีอีกก็ช่วยกันเสนอเข้ามาครับ..
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 35 อยากได้ผู้ว่าที่ทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่ขี้เหล้า เอาแต่พวก ชอบแหขวะคนอื่น
มีความซื้อสัตย์สุจริต ผู้ว่าคนใหม่ให้ช่วยปรับปรุงป้ายบอกจราจรหน่อยค่ะ
อยากให้ไปดูตัวอย่างประเทศสิงคโปร์บ้าง ป้ายเขาไม่ใหญ่มากแต่ก่อนถึงทางเลี้ยวไปโน่นไปนี่ เขาจะเขียนไว้ชัดเจน เป็นแผนที่บอกทางได้ชัดเจนมาก ไม่เหมือนของไทยเรา ติดไว้บนสะพานลอยตัวเท่าบ้านคนแต่อ่านแล้วงงมากไม่ละเอียดคุณสังเกตได้เลย ตจว.ก็เหมือนกัน ใครออกแบบก็ไม่รู้
แล้วหลุมท่อตามถนนปรับปรุงให้มันเท่าพื้นถนนหน่อยเป็นหลุมเยอะมากแถวถนนสุขุมวิทไปทางพระโขนงมาทางคลองตัน
อยากได้ผู้ว่าที่จัดระเบียบผังเมืองให้เป็นระเบียน จุดไหน ทำอะไร
อยากได้ผู้ว่ากทม. เข้มงวดกับรถมอไชต์รับจ้างหน่อย รถยนต์ รถเข็นขายของ จอดตามถนนไม่เป็นระเบียนนึกจะจอดตรงไหนก็จอดตามอำเภอใจ ขายตามฟุตบาตเกะเกะเดินทาง บางทีตั้งขายกันบนถนนเลยก็มี เฮ้อทำไมบ้านเมืองเรามันไม่มีความเป็นระเบียบเอาเสียเลยเนี่ย
ตอบขอบคุณน้องเดียร์ที่เสนอเข้ามาด้วยความตั้งใจเสนอข้อความให้ผู้ว่าคนใหม่นำไปปฏิบัติทุกๆข้อเลยครับ หากใครลงสมัครแล้วได้รับเลือกอย่าลืมเลือท่านที่มาแสดงความคิดเห็นทั้งหมดนี้เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าด้วยนะครับเพราะทุกคนยอมเสียสละเวลามาร่วมแสดงความคิดเห็นร่วมกันครับโดยเฉพาะผมขอเป็นประธานที่ปรึกษาผู้ว่าด้วยนะครับ ฮิ ฮิ...ถ้าเราทุกคนได้รับเลือกเป็นที่ปรึกษาก็จะดีมากใช่ไหมครับทุกคน....
(เชิญท่านอื่นๆเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นได้อีกครับ...)
|
|
|
|
|
![]() |
|
zole
|
ไม่อยากเลือกเพื่อคานอำนาจ ซึ่งมันจะหาผลงานที่โดดเด่นโดนใจไม่ได้เลย
และก็ไม่อยากให้เมืองหลวงและทั้งประเทศตกอยู่ในอุ้งมือมารซึ่งก็แค่ประชานิยม
มันควรจะมีแนวคิดอื่นที่จะมาคาน(ไม่ไช่ค้าน)กับประชานิยมเพื่อสร้างความสมดุลในการบริหาร
กรุงเทพฯเป็นแหล่งสถาบันการศึกษาระดับชาติมากมาย ต้องมีแนวคิดที่เหนือกว่าประชานิยม ทันสมัย มีเหตุผล all productivity in one investment ไม่ควรมี all dissipation for one purpose
อยากมีผู้ว่าฯที่พร้อมนำพาพวกเราออกรบในสนามAEC ด้วยวิถีแนวคิดแบบใหม่ และเห็นด้วยกับ คห 35 ทุกประการ
ขอให้คนกรุงเทพฯโชคดี มิใช่ว่าที่ผู้ว่าฯโชคดี
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 47
ไม่อยากเลือกเพื่อคานอำนาจ ซึ่งมันจะหาผลงานที่โดดเด่นโดนใจไม่ได้เลย
และก็ไม่อยากให้เมืองหลวงและทั้งประเทศตกอยู่ในอุ้งมือมารซึ่งก็แค่ประชานิยม
มันควรจะมีแนวคิดอื่นที่จะมาคาน(ไม่ไช่ค้าน)กับประชานิยมเพื่อสร้างความสมดุลในการบริหาร
กรุงเทพฯเป็นแหล่งสถาบันการศึกษาระดับชาติมากมาย ต้องมีแนวคิดที่เหนือกว่าประชานิยม ทันสมัย มีเหตุผล all productivity in one investment ไม่ควรมี all dissipation for one purpose
อยากมีผู้ว่าฯที่พร้อมนำพาพวกเราออกรบในสนามAEC ด้วยวิถีแนวคิดแบบใหม่ และเห็นด้วยกับ คห 35 ทุกประการ
ขอให้คนกรุงเทพฯโชคดี มิใช่ว่าที่ผู้ว่าฯโชคดี
ตอบ เห็นด้วยกับคุณครับโดยเฉพาะปัญหา aec นี่คือปัญหาใหญ่เลยไม่รูว่าต่างชาติได้ซื้อที่ซื้อกิจการของไทยไปเป็นจำนวนมากพอเปิดประตูปั๊บ เขาก็แสดงตัวเป็นเจ้าของปั๊บ คนไทยก็จะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองไปโดยปริยายครับและต้องให้คุณเข้ามาร่วมทีมที่ปรึกษาในเรื่องนี้โดยเฉพาะครับ...
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
420
|
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
งง
|
เลือกสส.ให้ดีก่อนดีกว่า ผู้ว่าฯน่ะ ต้องใช้เงินจากงบประมาณที่สส.อนุมัติอยู่แล้ว ถ้ายังเลือกสส.แบบซื้อสิทธิขายเสียงอย่างทุกวันนี้ จะไปหวังอะไรกับการเลือกผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯที่ดี ก็เหมือนสส.ที่ดีนั่นแหละ เอาแค่ทำหน้าที่ๆต้องพึงทำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประชาชน กทม. ประเทศชาติ แค่นีเแหละ จบ ว่าแต่ประชาชนเหอะ เมื่อไหร่จะทำหน้าที่ของตนให้มีสติซะทีล่ะ เห็นเล่นแต่บทกบเลือกนายทุกทีเลย
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่49 คุณสุหฤท สยามวาลา ได้เปิดตัวในกระทู้นี้ด้วยความยินดีครับคุณเป็นคนแรกที่เปิดตัวเข้ามารู้สึกยินดีครับที่ท่านให้เกียรติแก่เว็บสนุกและท่านสมาชิกและท่านผู้อ่านที่ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นเข้ามาทุกๆคนครับ ผมจะลงรายละเอียดให้คุณครับอย่าลืมนะครับหากคุณได้รับเลือกเป็นผู้ว่าต้องตั้งผู้แสดงความคิดเห็นในนี้เป็นที่ปรึกษานะครับ..หรือท่านใดที่ได้รับเลือกก็ต้องตั้งเช่นกันครับจะได้แสดงความคิดเห็นที่ดีในการพัฒนากทม.ร่วมกันตลอดไปครับ ขอบคุณที่ได้ลงชื่อเข้ามาครับคุณสุหฤท สยามวาลาครับ..
สุหฤท สยามวาลา ดีเจชื่อดังที่มีชื่อเสียงในวงการเพลงอิเล็กทรอนิกส์ของไทย และผู้บริหารธุรกิจเครื่องเขียน ดีเอชเอ สยามวาลา ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่าผ่าน Facebook โดยโพสต์ข้อความดังนี้
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแปลกนะครับ คือ ผมกำลังศึกษาการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครับว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ผมมีคุณสมบัติดังนี้ครับ
1 ชายไทยเชื้อสายอินเดียอายุ 45 ปี
2 เชื่อว่าการแต่งตัวแปลกของผมไม่เกี่ยวกับความสามารถทางมันสมอง
3 ไม่มีนโยบายหาเสียง มีแต่สิ่งที่อยากทำให้คนกรุงเทพ ถ้าชอบก็ขอเสียงให้ผม เพราะผมก็อยู่กรุงเทพ
4 มาตัวคนเดียวครับ ไม่มีเส้นสายใด ๆ ไม่มีพรรคการเมืองหนุน
5 มีความเชื่อส่วนตัวว่าคนตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปถึงเวลาทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้แล้ว
6 ผมมีอาชีพเป็น MD บริษัท ดี เอช เอ สยามวาลา จำกัด ขายเครื่องเขียนครับ
7 ผมจะไม่ลบรูปทั้งหมดของผมใน Facebook เพื่อให้ท่านได้เห็นตัวตนก่อนตัดสินใจ
8 ถ้าผิดระเบียบแม้แต่ข้อเดียวในการสมัคร ผมจะไม่เปลี่ยนแต่จะเลือกไม่ลงสมัครแทน
9 ผมมีอดีตที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ผมก็เป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำถูกตลอดเวลา
10 ผมมีความตั้งใจจริง ถ้าทำไม่ได้ที่จะซื่อสัตย์สุจริตก็ไม่ทำและยอมถอยแทนที่จะเปลี่ยนตัวเองตามน้ำ
11 เชื่อว่าในวงการราชการยังมีคนดีจำนวนมาก ถ้าผมขอความช่วยเหลือเขาอย่างจริงใจ
12 นโยบายกำลังร่างอยู่ อย่าตกใจนะครับ เพราะมันจะไม่เหมือนที่ผ่านมา
13 โปรดติดตามนะครับ ผมอยากทำจริง ๆ ครับ
ปล. กำลังทำ page ใหม่ของผมอยู่ ขอเวลาสักนิดแล้วจะแจ้งให้ทราบ
ผมขอเสียงท่านตรง ๆ ครับและจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ ขอนะครับ สวัสดีครับ
สุหฤท สยามวาลา
ส่วนเรื่องนโยบาย เขาโพสต์ว่า
นโบายที่ดีที่สุดสำหรับผมในการลงสมัครผู้ว่ากทม. ในครั้งนี้คือ ผมจะถามทุกท่านว่าอยากได้อะไรแล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญว่าทำได้ไหม และจะไม่มีนโยบายที่ทำไม่ได้แต่หาเสียงได้ ช่วยกันบอกผมนะครับ เราช่วยกันสร้าง surprise ให้กรุงเทพได้ครับ เริ่มเลยครับ
ผมจะลงสมัครเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครจริงๆ ครับ ผมจะไม่ลบภาพใดๆ ที่อยู่ใน facebook และไม่เปลี่ยนตัวตน อย่าตัดสินผมด้วยการแต่งตัวและถอดเสื้อบนเวทีนะจ๊ะ— SUHARIT RUN BKK!!!
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
เผยเหตุผล 10 ข้อ ว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
1. สุหฤทคิดว่า ตัวเองควรจะเริ่มหยุดบ่นและลุกขึ้นมาทำ ชีวิตคนเราต้องเริ่มต้นด้วยการลงมือทำ มิใช่หลบอยู่ข้างหลังกำแพง
2. สุหฤทคิดว่า การได้ทำกับทำได้ต่างกัน การได้ทำและทำได้ คือจุดประสงค์สูงสุดของการลงสมัครครั้งนี้ แต่ทำได้สำเร็จหรือไม่ ผมตัดสินไม่ได้
3. สุหฤทคิดว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความสุขได้ เรามีเสน่ห์มาก ๆ เพียงแต่อยากจะลุกขึ้นมาแล้วทำให้สำเร็จ กรุงเทพมันสวยมากว่ะ
4. สุหฤทเชื่อว่า ไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง แต่ต้องอยู่ห้อมล้อมคนที่เก่งเพื่อผลักดันฝัน และผมก็เชื่ออีกเช่นกันว่า เราไม่ได้โง่ทุกเรื่อง
5. สุหฤทเชื่อว่า เมื่อถึงอายุหนึ่งในชีวิต เราต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อสังคม เราเลือกได้และสังคมจะต้อนรับเราถ้าเราจริงใจ
6. สุหฤทเชื่อมั่นว่า ไม่มีใครในโลกที่จะมีคนรัก 100 % และสุหฤทก็เชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีคนเกลียด 100% ถ้าเราจริงใจ
7. สุหฤทเบื่อความขัดแย้ง แต่อยู่ได้บนความขัดแย้ง ไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู แต่ถ้าเขาเห็นเราเป็นศัตรู เราเศร้า
8. สุหฤทเชื่อที่พ่อบอกว่า จงเป็นปลาแซลมอนที่ว่ายทวนน้ำ เหนื่อยอย่างแสนสาหัส เพื่อสัมผัสน้ำที่บริสุทธิ์สดชื่นกว่าด้านล่าง
9. สุหฤทเชื่อว่า คนกรุงเทพฯ ทุกคนมีฝันเป็นของตัวเอง สุหฤทเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ต้องเป็นคนสร้างเมืองให้สวยงาม สุหฤทเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ทำได้
10. สุหฤทเชื่อว่า คนเราทุกคนมีอดีต ดีบ้างแย่บ้าง เพราะเราเป็นมนุษย์ มิใช่เทวดา แต่อดีตมันแก้ไม่ได้แต่ควบคุมได้ สุหฤทจึงคิดเริ่มที่จะทำ
11. สุหฤทรู้ตัวว่า กำลังเขียนเกิน 10 เหตุผลแต่ยังอยากเขียนต่อให้ทุกคนได้อ่าน นะคะเบยงุงิ
12. สุหฤทคิดว่า ยังมีคนกลุ่มใหญ่ในสังคมที่พร้อมจะ SURPRISE BKK และอยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ถึงเวลาของพวกท่านแล้วครับ
13. รักสุหฤทนะตะเอง SURPRISE BKK FUN BKK SUHARIT RUN BKK
สำหรับ "โต้ สุหฤท สยามวาลา" เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ที่ต้องดูแลธุรกิจเครื่องเขียน ดี เอช เอ สยามวาลา (DHA SIAMWALLA) ซึ่งก่อตั้งมานานนับศตวรรษตั้งแต่สมัยคุณทวดชาวอินเดีย ขณะเดียวกัน เขาก็รักในดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำงานเป็นดีเจแนว Electro Minimal Progressive house มานานกว่า 15 ปีแล้ว
นอกจากนี้ โต้ สุหฤท สยามวาลา ยังมีความเป็นศิลปินสุดแนวเต็มตัว เขากล้าฉีกกรอบนำความคิดสร้างสรรค์ไปถ่ายทอดเป็นผลงานเพลงในสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ออกมาแล้วหลายอัลบั้ม ทั้ง "สุหฤท", "ดิจิตัล พังก์" ,"เก" และ "จาระบี-ลื่นขั้นเทพ" บวกกับสไตล์การแต่งตัวสุดล้ำ จนทำให้เขาได้รับสมญานามว่า "พ่อมดอิเล็กทรอนิกส์"
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยครับ
เบื่อผู้ว่าดาวซินโดม แบบเอ๋อ ๆ... กรุงเทพเลย เอ๋อๆ...คนสร้างบ้านเมา บ้านก็ออกมาแบบเมาๆ เละๆ พอๆกันครับ
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
สร้างเซอร์ไพรส์พอสมควรสำหรับนายโฆสิต สุวินิจจิต ที่ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น ซึ่งดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์สปริง นิวส์ทางเคเบิลทีวี เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะเปิดศึกชิงชัยกันในต้นปี 2556
โดยครั้งนี้เจ้าตัวชิงเปิดตัวในนามอิสระ พร้อมกับชูจุดขายในเรื่องความเป็นคนกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง พรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งประกาศก้องว่าถึงเวลาแล้วที่คนกรุงเทพฯ ต้องมีคนกลางเข้ามาบริหารเสียที
รวมทั้งนโยบายที่ใช้ชูโรงในเที่ยวนี้อย่าง "กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง" เพื่อให้บริการประชาชนได้ตลอดเวลา เนื่องจากปัญหาความเดือดร้อนของคนกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องความปลอดภัยปัญหาอาชญากรรม มลภาวะ การจรา จร และขยะเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นคนกรุงเทพฯ ต้องปลอดภัย เดินทางสะดวก มีสุขภาพดี และประกอบอาชีพสุจริตได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน การชิงเปิดตัวครั้งนี้อดีตผู้บริหารช่องสปริงนิวส์เองก็ออกตัวแรง ด้วยการเดินหน้าหาเสียงกันตั้งแต่หัววันเพื่อปั๊มคะแนนแข่งกับสองพรรคใหญ่ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวเองออกจากเก้าอี้ผู้บริหารเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งพ่อเมืองคนใหม่ของกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ก็ได้สร้างคำถามและข้อสังเกตมากมายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับบรรดานักการเมืองในซีกฝั่งรัฐบาล จนโฆสิตเอง พยายามยืนยันว่า รู้จักมักคุ้นกับคนการเมืองทั้งสองซีก ไม่ได้เป็นการเฉพาะเจาะจง
สำหรับประวัติโฆสิต เขาถือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ ข่าวผ่านดาวเทียมสปริงนิวส์ ที่ออกอากาศผ่านระบบดาวเทียม KU Band ความถี่ 11131 V 27500 และระบบดาวเทียม C Band ความถี่ 3960 V 3000 บริหารงานโดยบริษัท สปริงส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จำกัด (มหาชน) ที่มีนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99
โดยมีการทดลองแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตั้ง แต่วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2553 และเป็นที่รู้จักกันดีในช่วงเหตุ การณ์ความไม่สงบทางการเมืองเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมปี 2553 เนื่องจากมีการทดลองรายงานข่าวผ่านระบบ3 จี นอกจากนี้ ยังเคยเป็นประธานกรรมการบริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครืออีกด้วย.
บรรยายใต้ภาพ
โฆสิต สุวินิจจิต
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 50
เลือกสส.ให้ดีก่อนดีกว่า ผู้ว่าฯน่ะ ต้องใช้เงินจากงบประมาณที่สส.อนุมัติอยู่แล้ว ถ้ายังเลือกสส.แบบซื้อสิทธิขายเสียงอย่างทุกวันนี้ จะไปหวังอะไรกับการเลือกผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯที่ดี ก็เหมือนสส.ที่ดีนั่นแหละ เอาแค่ทำหน้าที่ๆต้องพึงทำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ประชาชน กทม. ประเทศชาติ แค่นีเแหละ จบ ว่าแต่ประชาชนเหอะ เมื่อไหร่จะทำหน้าที่ของตนให้มีสติซะทีล่ะ เห็นเล่นแต่บทกบเลือกนายทุกทีเลย
ตอบ ขอบคุณที่แนะนำการทำหน้าที่ของผู้ว่าที่ดีและส.ส.ที่ดีควรทำอย่างไร
เชิญเข้ามาเสนอแนะบ่อยๆครับ..
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 53
เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยครับ
เบื่อผู้ว่าดาวซินโดม แบบเอ๋อ ๆ... กรุงเทพเลย เอ๋อๆ...คนสร้างบ้านเมา บ้านก็ออกมาแบบเมาๆ เละๆ พอๆกันครับ
ตอบอย่าไปว่าใครเลยครับ อีกไม่นานพรรคเพื่อไทยก็จะเปิดตัวแล้วครับเห็นบอกวันที่ 10 ม.ค.56 ก็รออีก 10 กว่าวันครับจนจะรู้ว่าเป็นใครที่ลงครับ..ท่านนี้ขอสนับสนุนพรรคเพื่อไทยครับ..
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
มีท่านหนึ่งข้อความไม่ขึ้น ให้เสนอเข้ามาใหม่ครับ รออยู่ครับ...
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
‘โฆสิต สุวินิจจิต’ ผู้บริหาร Springnews ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่า กทม
‘โฆสิต สุวินิจจิต’ ผู้บริหาร Springnews ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่า กทม. .
“โฆสิต สุวินิจจิต” อดีตเจ้าของ มีเดีย ออฟ มีเดียส์ และผู้บริหารสถานีดาวเทียม Springnews เปิดตัวลงชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าราชการ กทม. อย่างเป็นทางการในวันนี้ (17 ธันวาคม) โดยเป็นผู้สมัครอิสระและไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ
ผลงานของโฆษิตในอดีตคือ รายการบ้านเลขที่ 5, รายการที่นี่ประเทศไทย, คอนเสิร์ตลูกทุ่งเวทีไท ก่อนจะหันมาทำสถานีข่าวดาวเทียม Springnews ในปัจจุบัน ประวัติการศึกษาจบตรีและโทจากรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิยาลัยรัตนบัณฑิต ถือเป็นบุคคลจากภาคธุรกิจที่มีความเข้าใจเรื่องสื่อ และมีคอนเนคชั่นกว้างขวางคนหนึ่งของวงการ
ในงานเปิดตัวเขาระบุว่าลาออกจากตำแหน่งบริหารทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะตำแหน่งประธานกรรมการของ Springnews เพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องการใช้สื่อเอื้อประโยชน์ในเชิงประชาสัมพันธ์ ส่วนนโยบายจะขอคนในพื้นที่ กทม. 50 เขต ส่งตัวแทนเข้ามาเสนอนโยบายเขตละ 1 ยุทธศาสตร์ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ ในภาพรวมจะใช้ชื่อนโยบายหาเสียงว่า “กรุงเทพฯ24ชั่วโมง” เน้นบริการต่างๆ ของ กทม. ตลอด 24 ชั่วโมง และสโลแกนหาเสียง “เลือกคนอื่นเป็นผู้ว่าคนอื่น เลือกโฆษิตเป็นผู้ว่าของพวกเรา”
นายโฆษิตได้โพสต์ข้อความใน Facebook ถึงนโยบาย “กรุงเทพ 24 ชั่วโมง” ไว้ดังนี้
ผมมีความคิดเรื่องกรุงเทพมหานคร เมือง 24 ชั่วโมง เมืองกรุงเทพมหานครนั้นประกอบด้วยคนทำงานที่หลากหลายช่วงเวลา ทั้งกลางวัน กลางคืน รวม ๆ แล้วเกือบ 3-4 กะ ได้
แต่กลับกันบริการสาธารณะ หรือห้างร้านต่าง ๆ กลับเปิดในเวลาที่จำกัดในช่วงเวลาแค่กลางวัน ทำให้คนที่ทำงานนอกเวลาเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้ใช้งานหรือฝช้บริการ จะใช้บริการหรือใช้งานทีก็ต้องรอวันหยุด วันลา ทำให้ตัวเองเสียโอกาสการทำงานไป
เพราะฉะนั้น ถ้าผมได้เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครแล้วละก็ ในขั้นแรก ก็จะให้หน่วยงานราชการ รวมถึงบริการสาธารณะของกรุงเทพมหานคร เช่น สวนสาธารณะ ห้องสมุดกรุงเทพ โรงพยาบาล หรือหน่วยงานราชการที่ต้องมาติดต่อ นั้นเปิด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คนที่ทำงานเวลาต่าง ๆ สามารถมารับบริการได้ ซึ่งหลังจากนั้นก็จะรณรงค์ให้ภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพนั้นกลายเป็นมหานครที่ตื่นตลอด 24 ชั่วโมง
หากหลาย ๆ ท่านกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ในยุคที่เทคโนโลยีที่มาเร็วเช่นนี้ ทำให้เราสามารถติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม หรือติดไฟสาธารณะเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นหลอดไฟ LED ทำให้จะมีอายุการใช้งานไปอีกยาวนาน และยังใช้พลังงานไฟน้อยอีกด้วย
ผมอยากทำให้กรุงเทพมหานครนั้นเป็นมหานครน่าอยู่สำหรับทุกคน ทุกกลุ่มครับ ร่วมทั้งอยากได้พลังความเห็น ความมีส่วนร่วมจากคนกรุงเทพทุกคนด้วยครับ
เขายังแสดงความเห็นไว้ใน Facebook เรื่องการใช้เงินเพื่อลงสมัครเลือกตั้ง ว่าจะไม่ใช้เงินเลย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการถอนทุน แต่จะใช้วิธีรับเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนแทน
เพราะ กกต. กทม. ประกาศการใช้งบผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครว่าให้ใช้งบอยู่ใน 49 ล้านบาท แต่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครมีเงินเดือนแค่ 100,000 บาท ทำให้หลายพรรคที่ลงทุนต้องเข้ามาถอนทุน
ผมจะเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครที่ไม่ลงเงินเลือกตั้งสักบาท เพราะจะได้ไม่ต้องมีคนมาคิดว่าจะเข้ามาถอนทุน แต่จะเปิดรับบริจาคจากพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อให้ผมทำงานได้เต็มที่ ถ้าใครอยากให้ผมเป็นผู้ว่าของทุกคน และทุกคนอยากให้กรุงเทพมหานครที่อิสระจากการเมือง ก็บริจาคและสนับสนุนผมเลยครับ
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ผู้สมัครท่านนี้จะไม่ใช้เงินในการหาเสียงครับ รู้สึกจะมีคนเดียวที่ไม่ใช้งบหาเสียงครับมาฟังเหตุผลของท่านครับท่านผู้อ่าน...
เรื่องการใช้เงินเพื่อลงสมัครเลือกตั้ง ว่าจะไม่ใช้เงินเลย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการถอนทุน แต่จะใช้วิธีรับเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนแทน
เพราะ กกต. กทม. ประกาศการใช้งบผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานครว่าให้ใช้งบอยู่ใน 49 ล้านบาท แต่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครมีเงินเดือนแค่ 100,000 บาท ทำให้หลายพรรคที่ลงทุนต้องเข้ามาถอนทุน
ผมจะเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครที่ไม่ลงเงินเลือกตั้งสักบาท เพราะจะได้ไม่ต้องมีคนมาคิดว่าจะเข้ามาถอนทุน แต่จะเปิดรับบริจาคจากพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อให้ผมทำงานได้เต็มที่ ถ้าใครอยากให้ผมเป็นผู้ว่าของทุกคน และทุกคนอยากให้กรุงเทพมหานครที่อิสระจากการเมือง ก็บริจาคและสนับสนุนผมเลยครับ
(หาเสียงแบบนี้น่าจะไดใจพี่น้องไม่มากก็น้อยครับ)
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ขอเชิญท่านผู้อ่านมาร่วมเสนอความคิดเห็นแบบต่อเนื่องได้ครับ...
ประชาชนได้แต่เฝ้ารอคนดีที่เสียสละเพื่อบ้านเมืองมาช่วยเหลือประชาชนในทุกระดับ เฝ้ารอมานานแสนนานครับ.....
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
Ris
|
ใครก็ได้ที่ทักษิณส่งมา. 555
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 61 บอกว่า ใครก็ได้ที่ทักษิณส่งมา. 555
ตอบยังไงทุกพรรคต้องเฟ้นมาดีที่สุดมาให้ประชาชนเลือกครับ ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจครับ...
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
asasa
|
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
(27 ธ.ค.) มติพรรคประชาธิปัตย ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นตัวแทนพรรค ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย ด้าน กอปร์ศักดิ์ เซ็ง โพสต์เฟซบุ๊กซัดกรรมการพรรค หัดส่องกระจกดูตัวเองบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา มีการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ คัดเลือกส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมติที่ประชุมลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 6 เสียง ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคให้ลงสมัครชิงผู้ว่าฯ อีกสมัย โดยมั่นใจว่าจะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง
หลัง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส่งข้อสรุปจุดอ่อนจุดแข็ง ของผู้แสดง ความจำนงทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายอภิชัย เตชะอุบล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี นายกอปร์ศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายประกอบ จิรกิตติ อดีตรองผู้ว่าก.ท.ม และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทมคนปัจจุบัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า กรณีประชุมหารือเลือกตัวแทนลงสมัครชิงผู้ว่าฯ ยังเกิดกรณีขัดแย้งและไม่พอใจแต่บุคคลที่มีความจำนง โดยเฉพาะ นายกอปร์ศักดิ์ สภาวสุ ซึ่งได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ชุดดังกล่าวของพรรคประชาธิปัตย์
นายกอร์ปศักดิ์ โพสต์ข้อความว่า "กรรมการฯ ตั้งคำถามว่า ทำไมถึงอยากลงสมัคร ตนตอบไปว่า ไม่เคยคิด แต่พอทราบว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนใจในตำแหน่งนี้ ก็เกิดความกังวลว่า พรรคน่าจะมีทางเลือก จึงตัดสินใจเสนอชื่อตนเอง หลังจากนั้นก็เสนอนโยบายสารพัดและพูดคุยกันต่อเกือบทุกเรื่อง และมีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ทำยุทธศาสตร์พรรคมาสองครั้ง แล้วพรรคแพ้ทั้งสองครั้ง ครั้งนี้เสนอตัวแล้วไม่กลัวแพ้หรือ (แปลว่า เราคือตัวซวย หรือไม่ก็ เก่งมากคือ เป็นต้นตอที่ทำให้พรรคแพ้เลือกตั้งถึงสองครั้ง) สุดยอดของคำถาม ทำให้ต้องพิจารณาตัวเองอย่างจริงจังเหมือนกัน แต่นึกไปนึกมาก็อดขำไม่ได้ว่า คนเรานี่แปลกดี ไม่เคยส่องกระจกดูตนเองแต่มักจะโทษคนอื่นเป็นนิจ
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติเสียงข้างมากให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงชิง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัย โดยพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกประเด็น รวมถึงกรณีที่ ดีเอสไอ รับเรื่องโครงการขยายสัมปทานส่วนต่อรถไฟฟ้าเข้าเป็นคดีพิเศษนั้น เป็นการดิสเครดิตช่วงที่มีการเลือกตั้ง ทั้งนี้ มั่นใจว่า จะเป็นผู้แทนของพรรคที่สมบูรณ์ และจะได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพมหานคร เพราะผลงาน 4 ปี ที่ผ่านมา และนโยบายที่วางไว้ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะสามารถชนะใจคนกรุงเทพมหานครได้อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมเชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค มาหารือ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการหาเสียง
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
มุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหาของกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องสนใจการเมือง เอาแต่การบ้านของตัวเองให้สำเร็จ สามารถที่จะแยกตัวเองออกจากพรรคการเมืองที่มีแต่ความขัดแย้งได้ และไม่เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะมัวแต่ไปขัดแย้งหรือเอื้อประโยชน์กันอยู่การแก้ปัญหาของกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ อยากให้เอาคลองกับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ควบคู่กับถนน
อยากให้มีพรบ.หมู่บ้านทำการแยกขยะ ทำการสร้างบ่อกาซชีวภาพในหมู่บ้าน มีเตาเผาขยะประจำหมู่บ้าน และมีต้นไม้ใหญ่ 1ใน3 ของพื้นที่เพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนให้หมู่บ้าน และทำให้สังคมเมืองมีแต่ความสงบสุข ร่มเย็นไปตลอดกาล
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ยืนยัน ไม่ประมาทลงชิงผู้ว่าฯกทม.สมัยที่ 2 พร้อมสานนโยบายเก่าหาเสียงคนกรุงเทพมหานคร เชื่อว่า คดี บีทีเอส จะไม่กระทบคะแนนเสียง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีมติเลือกเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.สมัยที่ 2 ว่า ขอขอบคุณทางคณะกรรมการบริหารพรรคที่เลือกตนลงสมัครอีกครั้ง โดยสิ่งสำคัญจากนี้คือการเตรียมพร้อมหาเสียง และการสานต่อนโยบายที่เคยทำไว้ในสมัยของตน รวมถึงในสมัยของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯกทม. ซึ่งมีนโยบายที่อยากดำเนินการต่ออยู่แล้ว แต่ตามมารยาทต้องขอปรึกษากับพรรคประชาธิปัตย์ก่อน โดยการลงชิงสู้เลือกตั้งครั้งนี้จะไม่ประมาทคู่แข่งโดยเด็ดขาด
ส่วนกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตรียมออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง 11 ราย ซึ่งมีผู้บริหารและข้าราชการ กทม. ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด มหาชน หรือบีทีเอสซี มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 2 ม.ค. 2556 จากการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด มหาชน นั้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติในการตรวจสอบ ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับคะแนนเสียง แต่ขอให้ดีเอสไอทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และยึดความถูกต้องตามหลักกฎหมาย
ผู้สื่อข่าว : อำพร แววบุตร
ข่าวจริง สปริงนิวส์ ทันเหตุการณ์ เห็นอนาคต
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ยิ่งใกล้วันที่ 10 ม.ค.56 ก็จะครบวาระ ช่วงนี้จึงมีผู้เปิดเผยตัวเข้ามามากขึ้นก็จะได้ทราบว่ามีท่านใดลงสนามผู้ว่ากทม.นี้บ้าง ค่อยๆติดตามดูกันต่อไปครับ..
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
คห.ที่ 66
มุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหาของกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องสนใจการเมือง เอาแต่การบ้านของตัวเองให้สำเร็จ สามารถที่จะแยกตัวเองออกจากพรรคการเมืองที่มีแต่ความขัดแย้งได้ และไม่เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะมัวแต่ไปขัดแย้งหรือเอื้อประโยชน์กันอยู่การแก้ปัญหาของกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ อยากให้เอาคลองกับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ควบคู่กับถนน
อยากให้มีพรบ.หมู่บ้านทำการแยกขยะ ทำการสร้างบ่อกาซชีวภาพในหมู่บ้าน มีเตาเผาขยะประจำหมู่บ้าน และมีต้นไม้ใหญ่ 1ใน3 ของพื้นที่เพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนให้หมู่บ้าน และทำให้สังคมเมืองมีแต่ความสงบสุข ร่มเย็นไปตลอดกาล
ตอบ ขอบคุณที่เสนอแผนแก้ไขมาหลายข้อครับที่สำคัญคือนำคลองมาใช้สัญจรควบคู่กับถนนแก้ปัญหารถติดครับ ยอดจริงๆเชิญเสนอเข้ามาครับ..
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ภายหลังการหมดวาระของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นับแต่วันที่ 10 มกราคม 2556 เป็นต้นไป
สำคัญ
มิได้สำคัญอย่างธรรมดา หากแต่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำคัญเป็นอย่างสูง และสำคัญอย่างถึงที่สุดในทางการเมือง
ไม่ว่าจะมองจากมุมของพรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะมองจากมุมของพรรคเพื่อไทย
และไม่ว่าจะมองจากมุมของพันธมิตรพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรพรรคเพื่อไทย
กล่าวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ไม่เพียงเพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ยึดครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2547 เมื่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้รับเลือกหากแต่ยังสามารถต่อเนื่องมายัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้อีกในปี 2552
กล่าวสำหรับพรรคเพื่อไทยยิ่งทรงความหมายเป็นอย่างสูง เพราะเท่ากับเป็นการเหยียบบาทก้าวเข้าไปในพื้นที่ของ กทม. อย่างเต็ม
ภาคภูมิ เนื่องจากตรงนี้เป็นพื้นที่ในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน
นี่คือการชิงพื้นที่อันมากด้วยความแหลมคม
ต้องยอมรับว่านับแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา พื้นที่ กทม.
เป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ครองความเหนือกว่าพรรคพลังประชาชน
แม้เมื่อพรรคพลังประชาชนมีอันเป็นไป พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังยึดครองพื้นที่ กทม.ได้เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย
การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลยังมีจุดเริ่มอยู่ใน กทม.
ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อนการรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นับแต่เดือนพฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา
ล้วนมีจุดศูนย์กลางอยู่หากไม่ลานพระบรมรูปทรงม้า ก็บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล
แม้กระทั่งการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามเพื่อ "แช่แข็ง" และปิดประเทศอันนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ก็จุดประกาย ณ สนามม้านางเลิ้ง และจอดป้าย ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า
ที่การชุมนุมยังคึกคักก็เพราะว่า กทม.เป็นฐานเสียงอันคึกคักหนักแน่นยิ่งของพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตร
นี่ย่อมเป็นเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยจักต้องช่วงชิง
การช่วงชิงของพรรคเพื่อไทยผ่านสมรภูมิการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ดำเนินไปภายใต้สภาพทางการเมืองใหญ่ๆ อย่างน้อยก็ 2 ประการ
1 คือชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
เป็นชัยชนะที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพียรอย่างเต็มเรี่ยวแรงในการแปรนามธรรมแห่งนโยบายจำนวนมากให้กลายเป็นรูปธรรมทางการปฏิบัติที่เป็นจริง
กระทั่งคะแนนนิยม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทิ้งห่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ขณะเดียวกัน 1 คือ ภาวะแห่งความเสื่อมทรุด ถดถอยของพรรคประชาธิปัตย์หรือแม้กระทั่งพันธมิตรในแนวร่วมของพรรคประชาธิปัตย์
ถดถอยเมื่อแพ้พรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้งทั่วไป
ถดถอยเมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ตกเป็นฝ่ายตั้งรับทางการเมืองมีแนวโน้มว่าจะต้องตกเป็นจำเลยนับร้อยคดี เส้นทางที่จะต้องใช้นอกจากประชุมสภาแล้วยังต้องเดินขึ้นลงศาลสถิตยุติธรรมจนรองเท้าสึก
ถดถอยเมื่อการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระยะหลังอย่างเก่งที่สุดได้เรือนหมื่น และราถอยมาเหลือเรือนพัน เรือนร้อย ยิ่งการชุมนุมโดยองค์การแช่แข็งประเทศ ยิ่งเท่ากับเป็นการตอกฝาโลง
เหล่านี้ย่อมเป็นผลดีต่อรัฐบาล เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย
จําเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องกำหนดวาระเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ให้ทรงความสำคัญเป็นอย่างสูง
อาศัยการเคลื่อนไหวในเรื่องเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เป็นการช่วงชิงคะแนนความนิยมจากคนกรุงเทพฯเพื่อปูพื้นฐานนำไปสู่การสร้างความชอบธรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เป็นเหมือนกระดานหกทางการเมือง
|
|
|
|
|
![]() |
|
|
