-- ความร่วมมือครั้งนี้จะส่งมอบเงินบริจาคกว่า 10 ล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ พร้อมปล่อยผลงานเพลงใหม่จาก U2 ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีในช่วงศึกซูเปอร์โบว์ล
(RED), U2 วงร็อคชั้นแนวหน้า และ Bank of America ประกาศความร่วมมือซึ่งจะระดมเงินมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ สามารถรับชมรายละเอียดได้ที่ www.bankofamerica.com/RED
ประเดิมความร่วมมือด้วยภาพยนตร์โฆษณาระหว่างการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมการแสดงผลงานเพลงใหม่ล่าสุด "Invisible" จาก U2 ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดเพลงนี้ได้ฟรีแบบลิมิเต็ด เอดิชั่นทาง iTunes ในระหว่างเกมไปจนกระทั่งครบ 24 ชั่วโมง โดย Bank of America จะมอบเงินบริจาค 1 ดอลลาร์ รวมเป็นจำนวนสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์ สำหรับทุกยอดดาวน์โหลดในช่วงเวลาดังกล่าว ให้แก่กองทุนโลกเพื่อต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย (Global Fund to Fight AIDS, Tuberculosis and Malaria) ซึ่งให้บริการรักษา ตรวจและป้องกันเชื้อเอชไอวี/เอดส์ แก่ผู้คนหลายสิบล้านคนในประเทศยากจน
(RED) ได้ระดมเงินให้แก่กองทุนโลกแล้วเป็นจำนวนกว่า 240 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 โดยโบโน่ นักร้องนำจากวง U2 และบ็อบบี้ ไชรเวอร์ เพื่อผลักดันเงินบริจาคจากภาคธุรกิจสำหรับใช้ในการต่อสู้กับโรคเอดส์ ทั้งนี้ ด้วยเงินบริจาคเพิ่มเติมจาก Bank of America จะทำให้ยอดการระดมทุนของ (RED) ผ่านหลัก 250 ล้านดอลลาร์
โบโน่กล่าวว่า “นับเป็นข่าวดีที่ Bank of America จะมาร่วมเป็นพันธมิตรกับ (RED) เพื่อสนับสนุนความพยายามของกองทุนโลกในการกำจัดโรคเอดส์ให้หมดสิ้นไป การรวมพลังครั้งนี้ถือเป็นแรงจูงใจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ใช่แค่การบริจาคเงินหลายล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้และสร้างแรงกดดันในภาคสาธารณะอันจะนำไปสู่จุดจบของโรคระบาดร้ายแรงที่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วถึง 35 ล้านคนทั่วโลก และด้วยคำมั่นของธนาคารที่จะมอบเงินบริจาค 10 ล้านดอลลาร์นั้น ได้ส่งผลให้ Gates Foundation, SAP และ Africa's Motsepe Family ร่วมสมทบทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 22 ล้านดอลลาร์ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”
กุญแจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของโครงการริเริ่มนี้คือการสร้างการรับรู้ในหมู่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ของ Bank of America อีกทั้งพนักงานกว่า 240,000 คน และมอบโอกาสให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการกำจัดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกให้หมดสิ้นไปภายในปี 2558 ซึ่งความพยายามระดับโลกนี้กำลังเดินทางมาถึงช่วงเวลาสำคัญยิ่ง Bank of America ให้บริการแก่ครัวเรือนในสหรัฐในสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่ง ผ่านเครือข่ายสำนักงานธนาคารเพื่อรายย่อยประมาณ 5,100 แห่ง และตู้เอทีเอ็มประมาณ 16,300 แห่ง นอกจากนี้ธนาคารยังเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดเว็บหนึ่งของโลก ด้วยยอดผู้ใช้บริการธนาคารออนไลน์กว่า 30 ล้านคน และผู้ใช้บริการผ่านโทรศัพท์มือถืออีก 14 ล้านคน
ไบรอัน มอยนิฮาน ซีอีโอของ Bank of America กล่าวว่า “เช่นเดียวกับที่เราได้อุทิศทรัพยากรที่เรามีทั้งหมดเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐและทั่วโลก เราสามารถทุ่มเททรัพยากรเหล่านี้เพื่อต่อสู้โรคเอดส์ ร่วมกับ (RED) และชุมชนสาธารณสุขทั่วโลกได้เช่นเดียวกัน และที่สำคัญที่สุด เรากำลังเชิญชวนบรรดาลูกค้าและพนักงานให้มาร่วมต่อสู้ไปกับเรา”
(RED) กำลังใช้เงินทุนเพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ใน 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา ได้แก่ กานา เคนยา เลโซโท รวันดา แอฟริกาใต้ สวาซิแลนด์ แทนซาเนีย และแซมเบีย และได้เคยสนับสนุนเงินบริจาคเพื่อการรักษา ตรวจและป้องกันเอชไอวี/เอดส์ ตลอดจนบริการสุขภาพ โดยมุ่งเน้นไปที่การกำจัดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก และการสร้างยุคปลอดเอดส์ ยอดเงินกว่า 240 ล้านดอลลาร์ที่ (RED) ระดมได้นั้นถูกนำส่งให้กองทุนโลกโดยตรงทั้ง 100% เพื่อจัดหาการบริการในพื้นที่ โดย (RED) ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น (RED) และพันธมิตร เช่น Bank of America, Starbucks, Apple และอีกมากมาย รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อกำจัดการถ่ายทอดไวรัสเอชไอวีจากแม่สู่ลูกให้หมดสิ้นไปภายในปี 2558 ตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ (UN Millennium Development Goals)
มาร์ค ไดบูล กรรมการบริหารของกองทุนโลกเพื่อต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย กล่าวว่า “เราขอแสดงความขอบคุณต่อ Bank of America, (RED) และ U2 สำหรับความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ เพื่อมอบเงินบริจาคที่มีความจำเป็นอย่างมากและสร้างความตระหนักรู้ถึงความพยายามของเราในการกำจัดโรคเอดส์ให้หมดสิ้นไป ความร่วมมือนี้จะส่งผลอย่างมหาศาลในปีต่อๆไป”
เกี่ยวกับ (RED) (TM)
(RED) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2549 โดยโบโน่ และบ๊อบบี้ ไชรเวอร์ เพื่อเชิญชวนธุรกิจและประชาชนมาร่วมต่อสู้กับโรคเอดส์
(RED) ร่วมมือกับสุดยอดแบรนด์ดังของโลก ซึ่งมอบกำไร 50% จากการขายสินค้าและบริการของแบรนด์ (RED) ให้แก่กองทุนโลก โดยพันธมิตรที่ภาคภูมิของ (RED) ได้แก่ Apple, Starbucks, The Coca-Cola Company, Beats by Dr. Dre, Belvedere, Claro, SAP, Telcel และ Live Nation Entertainment และพันธมิตรที่มีส่วนร่วมในการผลิตสินค้ารุ่นพิเศษของ (RED) ได้แก่ Jonathan Adler, Theory, HEAD, Kidrobot, Mophie, FEED, Sir Richard's Condom Company, Shazam, Girl Skateboards, Nanda Home, Bottletop, Fatboy USA และ Bed Bath & Beyond
จนถึงปัจจุบัน (RED) ได้ระดมเงินมากกว่า 240 ล้านดอลลาร์ให้แก่กองทุนโลก เพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย ตลอดจนเพื่อสมทบทุนสำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในประเทศกานา เคนยา เลโซโท รวันดา แอฟริกาใต้ สวาซิแลนด์ แทนซาเนีย และแซมเบีย เงินบริจาคทั้ง 100% ถูกนำไปใช้เพื่อการปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เงินทุนของกองทุนโลกที่ (RED) ให้การสนับสนุนนั้นมีส่วนช่วยในการป้องกัน รักษา ให้คำปรึกษา ทดสอบเชื้อเอชไอวี และการพยาบาลต่างๆ แก่ผู้คนมากกว่า 40 ล้านคน