ไม่ว่าโทรศัพท์ค่ายไหนก็เอาเปรียบลูกค้าเหมือนกันครับ
ผมและภรรยาใช้โทรศัพท์ค่ายเดียวกันมาไม่เคยเปลี่ยนค่าย
ตั้งแต่่ชื่อ World Phone เปลี่ยนมาเป็น DTAC ในปัจจุบัน
ยังจำได้ตัวแรกใช็ Motolora รุ่นกระดุกสุนัขราคา 79,300 บาท
ในสมัยที่พลเอกอาทิตย์เป็น รมต คมนาคม สมัยป๋าเปรมเป็นนายก
โทรศัพท์มีหมายเลขน้อยมาก ต้อง ใช้เบอร์ของจังหวัดพิจิตรก่อน
ใช้ประมาณ 6 เดือนแล้วค่อยโอนมาอยู่กรุงเทพฯ
ช่วยนั้นยังทำ
งานอยู่ ใช้ Package D------ เร่ิ่มต้นประมาณ 2000 บาท/เดือน
เป็นระบบรายเดือนมีให้เลือกอยู่ 3 Package ขึ้นต้นด้วย D----- เหมือนกัน
พูดง่ายๆ ว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของระบบโทรศํพท์
มือถือ ในเมืองไทยครับ
ก่อนนั้นจะเป็นอีกรุ่นซึ่งตัวเครื่องจะใหญ่มากถ้าจำไม่ผิดจะเป็นรุ่น 370
เป็นโทรศํพท์ Cellular รุ่นบุกเบิกเลยทีเดียว
และเปลี่ยนมาเป็นรุ่นที่ใช้้ เครื่อง Moto รุ่น 800 ที่จะเห็นในหนังจีนสมัยก่อน
แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นระบบ 1800 และเปลี่ยนมาเป็น 3 G ในปัจจุบัน
แต๋....ก็ยังมีปัญหา เกาหลีกำลังทดสอบระบบ 5Gและ ลาวหรือเขมรใช้3Gก่่อนเมืองไทยด้วยซ้ำ
ก็เป็นเวลานานไม่ต้องบอกว่ากี่ปี ตั้งแต่ราคาตัวแรก 79,300 บาท ได้เปลี่ยนมา
เรื่อย ๆ จนบางครั้งใช้ตัวละแค่ 2000 บาท ตอนนี้ที่ใช้อยู่ราคา 6000 บาท รวมนับแล้วประมาณกว่า 20 ตัว เพราะใช้ประมาณ 1 ปีหรือครึ่งปีก็ขายแล้วซื้อใหม่ เพราะยิ่งรุ่นใหม่ราคาก็ยิ่งถูกลง และ High tech ขึ้นเรื่อยๆ
กลับมาเรื่องค่ายโทรศัพท์เอาเปรียบลูกค้าต่อครับ
พอปลดเกษียรการโทรน้อยลงก็ได้เปลี่ยนเป็นระบบเติมเงินก็ยังใช้ค่ายเดิม
ทางDTAC ก็ออกชื่อใหม่ว่า Happy ก็ประมาณ 6-7 ปีก็เสนอให้สมัคร
เป็นสมาชิกในรายการ Data Bank ผมกับภรรยาก็สมัครพร้อมกัน
ทาง Happy ให้เติมเงินในวันเกิด เติม 800 แถม โบนัสให้อีก 800
ภรรยาเติมทุุกครั้งเหมือนผมคือ 800 ได้โบนัสอีก 800
สองปีหลังก็ให้เติมได้เพียง 500 ได้โบนัส 500
โดยโบนัสจะใช้หักค่าโทรได้แต่ในเครือเดีัยวกันเท่านั้นแต่จะสะสมไปเรื่อยๆ
แต่ช่วงปีที่แล้วโบนัสก็ไม่โชว์เวลาเช็คตัวเลขเงินเหลือ
และสุดท้ายก็ไม่สะสม ผมเช็คเมื่อคืนนี้มีเงิน เหลือ 614.53 บาท
โบนัสเหลือ 975.18 บาท โบนัสจะไช้ได้ถึงวันที่ 1 เมษา 57 นี้เท่านนั้น
ซึ่งแต่ก่อนโบนัสจะไม่มีอายุ จะสะสมไปเรื่อยๆ พอเป็นอย่างนี้วันเกิดปีที่แล้ว
ผมเลยเติมแค่ 100 เท่านั้น และต่อไปจะเดิมครั้งละ 10 บาท เพื่อต่ออายุวัน
ใช้หมดก็จะเปลี่ยนค่ายครับ