Infineon Technologies ได้สาธิตพิมพ์เขียว FIDO2 ซึ่งเป็นโทเคนยืนยันตัวตนเพื่อการล็อกอินเข้าใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Azure Active Directory ทั้งนี้ FIDO2 ถูกออกแบบขึ้นตามข้อกำหนดที่พัฒนาโดยกลุ่มพันธมิตร FIDO (Fast Identity Online) Alliance เพื่อมอบกรอบการทำงานสำหรับระบบยืนยันตัวตนที่ง่ายแต่ปลอดภัย สามารถป้องกันภัยจากการโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) การโจมตีด้วยวิธีการส่งข้อมูลซ้ำ (Replay) หรือป้องกันข้อมูลรั่วไหลเมื่อเซิร์ฟเวอร์ถูกโจมตี
Infineon ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร FIDO Alliance ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิปรักษาความปลอดภัยด้วยฮาร์ดแวร์รายแรก ที่เผยการสาธิตพิมพ์เขียว FIDO2 ต่อสาธารณะ โดยพิมพ์เขียว (reference design) ดังกล่าวใช้คอนโทรลเลอร์ Infineon SLE 78 ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากชิป SLE 78 ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย และเป็นชิปเดียวในตลาดที่มีการผนวกรวมอินเทอร์เฟซ USB และ NFC เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้ในโทเคนทั้งแบบ USB และแบบ USB/NFC คอนโทรลเลอร์ดังกล่าวมาพร้อมกับ Infineon Integrity Guard ซึ่งประกอบด้วยกลไกดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อการปกป้องข้อมูลลับ การตรวจจับความผิดพลาดที่มีความซับซ้อนสูง และการตอบโต้การโจมตีในระดับชิป
"Windows Hello กำลังปูทางไปสู่ยุคไร้รหัสผ่าน และวันนี้ เรามีความยินดีที่จะแนะนำคีย์ความปลอดภัยของระบบ Windows Hello" เดวิด บอสซิโอ ผู้จัดการฝ่าย Group Program ของ Microsoft กล่าว "ความร่วมมือของเรากับ Infineon ทำให้ผู้ใช้สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วยคีย์ความปลอดภัย FIDO2 ซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Infineon ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ปกป้องอุปกรณ์ Windows มาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ"
การป้องกันด้วยรหัสผ่านที่เดาง่ายเป็นปัจจัยของการรั่วไหลของข้อมูลส่วนใหญ่ที่เกิดจากการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในภาคธุรกิจและการใช้งานทั่วไป ระบบการยืนยันตัวตน FIDO จะช่วยให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์และองค์กรธุรกิจสามารถตอบโจทย์ความท้าทายด้านการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยได้
รับชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนโทรลเลอร์ Infineon SLE 78 ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Common Criteria EAL 6+ (high) ได้ที่ https://www.infineon.com/cms/en/product/security-smart-card-solutions/security-controllers/sle-78/ และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิมพ์เขียว FIDO2 ได้ที่ www.infineon.com/FIDO
