ขยายตัว 11.3% เติบโตต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 9
ไฮไลท์สำคัญ:
- บริการ อุตสาหกรรม และภูมิภาคทั้งหมดที่ดีลอยท์ดำเนินงานยังขยายตัวต่อเนื่อง
- ดีลอยท์ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น 8.4% เป็นกว่า 286,000 ราย รวมเป็นทีมงานที่มีความคล่องแคล่วยืดหยุ่น พร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
นิวยอร์ก, 18 ก.ย. 2561 /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ -- ดีลอยท์ (Deloitte) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทสมาชิกในเครือมีรายได้รวมกัน 4.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 (ปีงบการเงิน 2561) เพิ่มขึ้น 11.3% หรือ 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ปีงบการเงิน 2561 เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับดีลอยท์ ในขณะที่เราเดินหน้านำเสนอผลลัพธ์ที่วัดผลได้แก่ลูกค้า ผู้คน และสังคมของเรา ผลลัพธ์เหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันไม่ลดละของดีลอยท์ ในการให้บริการลูกค้าด้วยคุณภาพและความโดดเด่น พร้อมน้อมรับความรับผิดชอบเพื่อก่อให้เกิดสาธารณประโยชน์ด้วย” คุณพูนิต เรนเจน ซีอีโอของดีลอยท์ โกลบอล กล่าว “ในปีที่ผ่านมา เราได้เพิ่มการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับศักยภาพและบริการ ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าในตลาดที่เติบโตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ เรายังได้ขยายขอบเขตความพยายามและการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพและนวัตกรรมด้านการตรวจสอบบัญชี ไปพร้อม ๆ กับการบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างแข็งแกร่ง”
เปิดรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (อุตสาหกรรม 4.0) เติบโตในทุกธุรกิจ อุตสาหกรรม และภูมิภาค
กลยุทธ์ระดับโลกและโมเดลธุรกิจแบบหลากหลายสาขาของดีลอยท์ ยังคงนำมาซึ่งความสำเร็จในปีงบการเงิน 2561 โดยขอบเขตการดำเนินงานทั้ง 5 ส่วนงาน ซึ่งได้แก่ การตรวจสอบบัญชีและการประกัน การให้คำปรึกษา การปรึกษาด้านการเงิน การบริหารความเสี่ยง ตลอดจนภาษีและกฎหมาย ต่างเติบโตในปีดังกล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีบทบาทส่งเสริมให้ดีลอยท์มีรายได้เติบโตในปีงบ 2561 ได้แก่ เทคโนโลยี สื่อและโทรคมนาคม และบริการทางการเงิน ซึ่งต่างขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้กว่า 12% เมื่อคำนวณตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอุตสาหกรรมเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้มากที่สุด โดยทำรายได้มากถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างปีงบ 2560 และปีงบ 2561
ในภาพรวมแล้ว ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 15.9% เมื่อคำนวณตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ทำรายได้เพิ่มขึ้น 13.3% และทวีปอเมริกาที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 8.0%
- การตรวจสอบบัญชีและการประกันมีรายได้เพิ่มขึ้น 7.7% ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและดิสรัปทีฟเทคโนโลยี ส่วนงานตรวจสอบบัญชีและการประกันได้ต่อยอดบริการที่มอบมูลค่าและข้อมูลเชิงลึกได้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงปฏิบัติตามพันธสัญญาในเรื่องสาธารณประโยชน์ โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ดีลอยท์ได้ยกระดับคุณภาพของการตรวจสอบบัญชีด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก หนึ่งในนั้นได้แก่ Deloitte Omnia แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่บนระบบคลาวด์ ที่เข้ามาเสริมทัพให้กับโซลูชั่นชั้นแนวหน้าระดับโลก และดีลอยท์ยังคงได้รับการยอมรับทั่วโลกถึงบทบาทความเป็นผู้นำในแง่ของคุณภาพการตรวจสอบบัญชี รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่อาศัยการวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์
- การให้คำปรึกษามีรายได้เติบโตเร็วที่สุดถึง 15.7% โดยมีอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักในขอบข่ายการให้คำปรึกษาหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี กลยุทธ์และการดำเนินงาน รวมถึงทรัพยากรมนุษย์ ส่งผลให้ส่วนงานนี้เติบโตในอัตราเลขสองหลักติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนงานให้คำปรึกษาทุ่มเทให้กับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพลิกโฉมธุรกิจ ด้วยการบูรณาการกลยุทธ์ บุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้ลูกค้ารับมือกับความท้าทายและโอกาสในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ส่วนงานให้คำปรึกษายังได้พัฒนา ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น ระบบคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและทำงานว่องไว ผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นแนวหน้า
- การให้คำปรึกษาด้านการเงินมีรายได้เพิ่มขึ้น 8.0% ด้วยการจัดหาบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องของการทำข้อตกลงควบรวมกิจการ (M&A) การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ รวมทั้งจัดทำแผนงานต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรของลูกค้า นอกจากนี้ การบริการ M&A ที่ครบวงจรยังคงช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมทั่วโลก ในขณะที่บริการ Forensic ซึ่งอยู่ภายใต้ส่วนงานให้คำปรึกษาด้านการเงินของดีลอยท์ ได้ช่วยสนับสนุนลูกค้าที่อาจกำลังเผชิญกับข้อพิพาทหรือการสืบสวนที่ซับซ้อนและเป็นคดีใหญ่ โดยใช้ประโยชน์จากระบบอนาไลติกส์ เครื่องมือดิจิทัล และกลไลการส่งข้อมูลดิจิทัล
- การให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงมีรายได้ขยายตัวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในอัตรา 12.0% ซึ่งมีปัจจัยส่วนใหญ่มาจากความเสี่ยงทางไซเบอร์ การเงิน และการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนงานให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงได้ซื้อกิจการหกแห่งแล้วเสร็จ ซึ่งล้วนเป็นกิจการที่มีความสำคัญต่อการเติบโตในด้านต่าง ๆ เช่น ความรับผิดชอบต่อสังคม ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การแจ้งเตือนและวิเคราะห์ความเสี่ยง รวมไปถึงด้านกลยุทธ์และด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนงานให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สามารถใช้งานข้ามอุตสาหกรรมได้ ทั้งในด้าน GDPR การแจ้งเตือนการผิดสัญญา และความเสี่ยงทางดิจิทัล อีกทั้งยังได้มีการแนะนำบริการแก่ลูกค้ากลุ่มชีววิทยาศาสตร์ในด้าน IDMP และ Medtech ซึ่งส่วนงานให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงได้ช่วยสนับสนุนลูกค้าที่กำลังปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก Brexit
- ภาษีและกฎหมายมีรายได้เติบโตขึ้น 8.7% ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากความต้องการของลูกค้าที่เผชิญกับข้อกำหนดด้านภาษีและกฎหมายที่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ด้านภาษีและกฎหมายได้มีการใช้จุดแข็งในการนำโซลูชั่นเทคโนโลยีระดับโลกมาปรับใช้ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายภาษี กฎหมาย การเคลื่อนย้ายบุคลากรและการอพยพที่มีการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่พวกเขากำลังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจทั่วโลก