ปรับปรุงพื้นที่บนชั้น 80 เสร็จเรียบร้อย ปิดฉากโครงการปรับโฉมหอชมวิวที่ใช้เงินลงทุน 165 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลานาน 4 ปี
ตึกเอ็มไพร์สเตทปิดฉากโครงการปรับโฉมหอชมวิวบนยอดอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งใช้เงินลงทุน 165 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลานาน 4 ปี หลังปรับปรุงพื้นที่บนชั้น 80 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนสุดท้ายที่มีการปรับปรุงเป็นส่วนจัดแสดงข้อมูลความรู้สำหรับผู้มาเยือนมหานครนิวยอร์ก รวมถึงแสดงเอกลักษณ์ของแลนด์มาร์กแห่งนี้
ส่วนจัดแสดงบนชั้น 80 เกิดจากการร่วมมือกับ NYC & Company ซึ่งเป็นสำนักงานด้านการตลาด การท่องเที่ยว และการสร้างความร่วมมือของมหานครนิวยอร์ก โดยมีการนำเสนอ 5 วิดีโออินเทอร์แอคทีฟที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ออกแบบแผนการท่องเที่ยว 5 เขตในนิวยอร์ก โดยอาศัยข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ NYC & Company รวบรวมไว้มากมาย และสามารถดาวน์โหลดแผนการท่องเที่ยวลงมือถือโดยใช้ QR Code หรือส่งผ่านอีเมล บริการนี้พัฒนาขึ้นโดยอ้างอิงผลการวิจัยที่ระบุว่า หอชมวิวของตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นสถานที่แรกในนิวยอร์กที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะมาเยือน บริการนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักท่องเที่ยวและชาวนิวยอร์กทุกคน
นอกจากนี้ ผู้มาเยือนสามารถฟังเสียงบรรยากาศและชมวิวสถานที่สำคัญของมหานครนิวยอร์กแบบเสมือนจริงผ่านกล้องส่องทางไกลหน้าตาคลาสสิก นอกจากนั้นยังสามารถชมวิดีโอต่าง ๆ เช่น วิดีโอการแสดงแสงสีเสียงบนยอดตึก พร้อมบทสัมภาษณ์มาร์ก บริคแมน นักออกแบบแสงสีชื่อก้องโลก วิดีโอที่ผู้มาเยือนบันทึกไว้ รวมถึงวิดีโอแสดงขั้นตอนการวาดภาพมหานครนิวยอร์กจากฝีมือของ สตีเฟน วิลท์ไชร์ ศิลปินชาวอังกฤษผู้วาดภาพจากความทรงจำ
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดพื้นที่ใหม่นี้ ตึกเอ็มไพร์สเตทได้เปิดตัววิดีโอใหม่ที่นำแสดงโดย ลิน มานูเอล มิแรนดา นักแสดงและนักแต่งเพลงเจ้าของรางวัลโทนี แกรมมี เอ็มมี และพูลิตเซอร์ โดยมีเพลงประกอบคือ Cheering for Me Now ออริจินัลซาวด์แทรคจากซีรีส์ Hamildrop ที่แต่งทำนองโดยนักแต่งเพลงระดับตำนาน จอห์น คันเดอร์ (Cabaret, Chicago) และแต่งเนื้อร้องโดยมิแรนดา วิดีโอจะเสนอภาพการแสดงแสงสีชุดใหม่ที่ออกแบบโดยมาร์ก บริคแมน และภาพมิแรนดาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของหอชมวิว โดยวิดีโอบางส่วนจะเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 27 พฤศจิกายน ผ่านรายการสด CBS This Morning และจะโพสต์ผ่านยูทูบแชนแนลและเพจเฟซบุ๊กของตึกเอ็มไพร์สเตท ส่วนแฟน ๆ ในนิวยอร์กสามารถชมการแสดงแสงสีแบบสด ๆ ได้ที่ตึกเอ็มไพร์สเตทในคืนวันเดียวกัน เวลา 20.00 น. พร้อมกับฟังเพลงผ่านทางบรอดเวย์แชนแนล www.iheartradiobroadway.com ของ iHeartRadio
ส่วนจัดแสดงบนชั้น 80 ประกอบด้วย
- NYC: Above and Beyond: ส่วนนี้สร้างสรรค์ร่วมกับ NYC & Company เพื่อให้ผู้มาเยือนได้กำหนดแผนการท่องเที่ยวส่วนตัวจากยอดตึกเอ็มไพร์สเตท ซึ่งเป็นสถานที่แรกในนิวยอร์กที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะมาเยือน เมื่อผู้มาเยือนตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่สนใจและระยะเวลาที่มาเยือนนิวยอร์ก ระบบก็จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในแมนฮัตตัน บรุกลิน ควีนส์ บรองซ์ และเกาะสแตเทน จากนั้นสามารถดาวน์โหลดแผนการท่องเที่ยวลงมือถือผ่านอีเมลหรือสแกน QR code
- Artistry in Light: เคยสงสัยไหมว่าการแสดงแสงสีเสียงบนตึกเอ็มไพร์สเตททำอย่างไร ผู้มาเยือนจะได้คำตอบจากภาพยนตร์สั้นที่บรรยายโดยมาร์ก บริคแมน นักออกแบบแสงสีชื่อก้องโลก โดยจะมีการนำเสนอไฮไลท์ของการแสดงต่าง ๆ เช่น การแสดงแสงสีครั้งแรกประกอบเพลงของอลิเชีย คีส์ ในปี 2555 และการแสดงแสงสีประกอบเพลง "All I Want For Christmas Is You" ของมารายห์ แครี
- Stephen Wiltshire's Drawing: ในปี 2560 สตีเฟน วิลท์ไชร์ ศิลปินชาวอังกฤษผู้วาดภาพจากความทรงจำ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวรอบเกาะแมนฮัตตันเป็นเวลา 45 นาที จากนั้นวาดภาพทิวทัศน์ของมหานครนิวยอร์กด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง โดยใช้พื้นที่บนชั้น 80 ของตึกเอ็มไพร์สเตทเป็นที่สร้างสรรค์ผลงาน ภาพยนตร์สารคดีความยาว 3 นาทีจะนำเสนอขั้นตอนการทำงานของเขา ตั้งแต่การขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 45 นาที ไปจนถึงการวาดภาพนาน 4 วัน
- Scenes of NYC: ผู้มาเยือนสามารถชมภาพมุมกว้างของ 9 สถานที่สำคัญในนิวยอร์กแบบเสมือนจริงผ่านกล้องส่องทางไกลหน้าตาคลาสสิกบนชั้น 80 ตั้งแต่ไทม์สแควร์ไปจนถึงเกาะโคนี่ นอกจากนั้นยังสามารถชมภาพระยะใกล้หรือแม้แต่ชมภายในสถานที่ได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้มาเยือนสามารถชมสถานที่จริงได้จากหอชมวิวบนชั้น 86 และชั้น 102 ของตึกเอ็มไพร์สเตท
- Showtime Pictures: บนชั้น 2 ของตึกเอ็มไพร์สเตทมีการถ่ายภาพบน Green Screen โดยใช้กล้อง HD รวม 25 ตัว จับภาพจาก 25 มุม เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงที่สุด ผู้มาเยือนสามารถรับภาพดังกล่าวได้ที่จุดนี้ โดยมีการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้เพื่อให้รับภาพและจ่ายเงินได้เร็วขึ้นผ่านเคาน์เตอร์บริการตัวเอง
- Share Your Experience: ขณะต่อคิวบริเวณทางออก ผู้มาเยือนสามารถแชร์ภาพถ่ายของตนเองผ่านโซเชียลมีเดียโดยใช้แฮชแท็ก #empirestatebuilding ภาพเหล่านี้จะขึ้นบนจอ 4 จอและเป็นส่วนหนึ่งของภาพโมเสคร่วมกับภาพของนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ
แอนโทนี อี มัลกิน ประธานและซีอีโอของเอ็มไพร์ สเตท เรียลตี้ ทรัสต์ กล่าวว่า "เราเริ่มจากการเปิดทางเข้าหอชมวิวใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 และมาเสร็จสมบูรณ์ที่นี่ โดยเราตั้งใจมอบความรู้และดึงดูดผู้มาเยือนจากทั่วโลกให้มีความรู้สึกร่วมกับอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก รวมถึงช่วยวางแผนท่องเที่ยวทั่วนิวยอร์กจากศูนย์กลางของเมือง หอชมวิวที่ปรับโฉมเสร็จสมบูรณ์จะยกระดับประสบการณ์ของผู้มาเยือน ตั้งแต่ทางเข้าใหม่ไปจนถึงหอชมวิวใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจบนชั้น 102 ทั้งนี้ ด้วยอายุ 88 ปี ตึกเอ็มไพร์สเตทยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และความฝัน และเป็นบรรพบุรุษของตึกระฟ้าทั่วโลก"
บริษัท Thinc Design เป็นผู้รวบรวมทีมงานแนวหน้าของโลกจากหลากหลายสาขา ทั้งศิลปะ สถาปัตยกรรม การท่องเที่ยว เทคโนโลยี วิศวกรรม และความบันเทิง เพื่อระดมสมอง ออกแบบ และสร้างสรรค์โครงการนี้
ทีมงานประกอบด้วย
- Beneville Studios
- Corgan
- Diversified.
- IDEO
- Intersection
- JLL
- Kubik Maltbie
- NYC & Company
- Otis Elevator Company
- Showtime Pictures
- Skanska
- Squint / Opera
- Stephen Wiltshire
- Syska Hennessy Group
- Tactman
- Tenguerian Models
- The Lighting Practice
- Thornton Tomasetti
บัตรเข้าหอชมวิวชั้น 86 จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 38 ดอลลาร์ ส่วนบัตรเข้าหอชมวิวชั้น 102 เพิ่มเงินอีก 20 ดอลลาร์ โดยสามารถซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่ www.empirestatebuilding.com หรือตู้ขายบัตรบนชั้น 2 และชั้น 86 ของตึกเอ็มไพร์สเตท สามารถติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลได้ทาง #ESBReimagined
