หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (CBG) ได้จัดงานเปิดตัวเสมือนจริงในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งได้มีการประกาศผลิตภัณฑ์ 5G ซีรีส์ใหม่ และกลยุทธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถอย่างเต็มรูปแบบของระบบนิเวศในทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ตัวหลัก ๆ ที่ประกาศเปิดตัวมีทั้ง HUAWEI Mate Xs ซึ่งเป็นอุปกรณ์จอพับได้แบบใหม่มาพร้อมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สุดล้ำ และยังมี HUAWEI MatePad Pro 5G ซึ่งเป็นแท็บเล็ต 5G รุ่นเรือธงที่ให้ประสบการณ์ระดับพรีเมียมในทุกสถานการณ์ และ HUAWEI Wi-Fi AX3 กับ HUAWEI 5G CPE Pro 2 ผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 6+ ทั้งสองตัวนี้เป็นโซลูชันการเชื่อมต่อที่ให้ความเร็วสูงและการเชื่อมต่อที่กว้างขวางแก่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวแล็ปท็อป HUAWEI MateBook รุ่นใหม่ ใช้ขุมพลัง Intel(R) Core(TM) เจนเนอเรชัน 10 และระบบปฏิบัติการ Windows พร้อมหน้าจอแบบ FullView ที่เปลี่ยนประสบการณ์ออฟฟิศเคลื่อนที่ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำ เช่น Huawei Share และ Multi-screen Collaboration
คุณริชาร์ด หยู ซีอีโอของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า "หัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นต่อกลยุทธ์ All-scenario Seamless AI Life ต่อไป เราจะเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ชิปเซ็ต การสื่อสาร 5G เทคโนโลยี AI บนมือถือ ระบบปฏิบัติการ กล้อง และโซลูชันเสียง-ภาพ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันในระยะยาว นอกจากนี้ เรายังพยายามที่จะทำงานร่วมกับนักพัฒนาทั่วโลก เพื่อกระตุ้นการเติบโตของระบบนิเวศทุกรูปแบบ และยกระดับประสบการณ์ในทุกสถานการณ์และนำผลิตภัณฑ์สู่ระดับที่เหนือขึ้นไปอีก"
ร่วมมือกันเชื่อมต่อความเป็นไปได้
ที่หัวเว่ย ประสบการณ์ผู้บริโภคเป็นความสำคัญอันดับแรกเสมอ ด้วยการคำนึงถึงสิ่งนั้น ทำให้บริษัทมุ่งมั่นตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมาเพื่อปลูกฝังระบบนิเวศ "1+8+N" สิ่งที่สนับสนุนระบบนิเวศดังกล่าวคือ Huawei Share และ Huawei HiLink ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้ประสบการณ์ผู้ใช้แบบองค์รวม นอกเหนือไปจากนวัตกรรมฮาร์ดแวร์แล้ว หัวเว่ยยังเดินหน้าสร้างระบบนิเวศหัวเว่ย โมบาย เซอร์วิสเซส (HMS) ซึ่งเข้าถึงผู้บริโภคได้ผ่าน HUAWEI AppGallery
ด้วยแพลตฟอร์มบริการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทุกสถานการณ์ที่ทำงานสอดคล้องกัน ทำให้หัวเว่ยส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีคุณภาพ ซึ่งมีการแบ่งปันข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อในทุกสถานการณ์
2019 เป็นปีที่ไม่ค่อยปกตินักของหัวเว่ย อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยยังคงเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ ดูได้จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2019 ที่มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 30% แตะที่ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ธุรกิจสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยทำยอดการส่งมอบเกิน 240 ล้านชิ้น ทำให้หัวเว่ยก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์มือถือรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ประเภทผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในระบบนิเวศทุกสถานการณ์ทำสถิติเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยธุรกิจ PC เติบโตขึ้น 200% อุปกรณ์สวมใส่เติบโตขึ้น 173% และอุปกรณ์เสียงไร้สายเติบโตขึ้น 210%
สัมผัสความแปลกใหม่อีกครั้ง กับ HUAWEI Mate Xs
HUAWEI Mate Xs เป็นตัวแทนวิวัฒนาการขั้นต่อไปของอุปกรณ์แบบพับได้ ให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น ด้วยการใช้วัสดุแบบใหม่ผลิตหน้าจอที่มีความยืดหยุ่น และบานพับแบบใหม่เพื่อการออกแบบ Falcon Wing ที่เป็นเอกลักษณ์
HUAWEI Mate Xs ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Kirin 990 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G SoC เรือธงที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเอง พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นทั้งเทคโนโลยี AI มือถือและความสามารถในการสื่อสารแบบ 5G
กล้อง Leica SuperSensing Quad Camera กลับมาอีกครั้งบน HUAWEI Mate Xs ประกอบด้วยกล้อง SuperSensing ความละเอียด 40MP กล้องมุมกว้างพิเศษความละเอียด 16MP และกล้องถ่ายไกลความละเอียด 8MP พร้อมกล้อง 3D Depth Sensing ระบบกล้องของ Leica ที่ทรงพลังนี้จะใช้ประโยชน์จากตัวเครื่องแบบพับได้อย่างเต็มที่ โดยจะอาศัยภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเพื่อให้ถ่ายภาพได้กว้างพิเศษ
HUAWEI Mate Xs ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI10.0.1 สนับสนุนแอปแบบ Multi-Window ให้ประสบการณ์อัจฉริยะและมีชีวิตชีวากว่าเดิม หัวเว่ยกำลังทำงานร่วมกับนักพัฒนาจากทั่วโลกเพื่อพัฒนาระบบนิเวศ และขยายขอบเขตของแอปพลิเคชันที่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของมือถือพับได้อย่างเต็มรูปแบบ
HUAWEI Wi-Fi AX Series ก้าวล้ำเหนือมาตรฐาน Wi-Fi 6
โซลูชันการเชื่อมต่อ เช่น เราเตอร์ Wi-Fi, อุปกรณ์ Customer-Premise Equipment (CPE) และโมดูลการสื่อสารต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ All-scenario Seamless AI Life ของหัวเว่ยนั้น ต่างมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อระบบนิเวศ 1+8+N เข้าด้วยกัน เพื่อนำเสนอประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ล้ำหน้า ชาญฉลาด และว่องไวแก่ลูกค้า
หัวเว่ย ในฐานะผู้นำเทคโนโลยี 5G เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการกำหนดมาตรฐาน Wi-Fi 6 ปัจจุบัน คณะทำงานมาตรฐาน IEEE 802.11ax มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากหัวเว่ยรวมอยู่ในนี้ถึง 5 ราย โดยหนึ่งในนี้ได้รับเกียรติเป็นประธานคณะด้วย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีบทบาทมากที่สุดเป็นอันดับสองในความพยายามดังกล่าว เพราะได้ยื่นกำหนดมาตรฐานนี้ถึง 260 รายการ หรือคิดเป็น 15% ของทั้งหมดในโครงการ Wi-Fi 6 (802.11ax)
หัวเว่ยงัดใช้ประโยชน์จากการหลอมรวมกันของชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเองกับการปรับซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม จนพัฒนาขึ้นเป็น Wi-Fi 6+ ที่ต่อยอดมาจากมาตรฐาน Wi-Fi 6 โดย Wi-Fi 6+ นี้รองรับแชนแนลแบนด์วิดท์ 160MHz ครบวงจร รวมถึงเทคโนโลยีไดนามิกแนร์โรว์แบนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของหัวเว่ย และเมื่อผนวกรวมกันแล้ว ความก้าวล้ำทั้งสองนี้ส่งผลให้ Wi-Fi มีความเร็วและสัญญาณครอบคลุมดีขึ้น
ในการเปิดตัวเสมือนจริงนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวชิปเซ็ต Wi-Fi 6+ ล่าสุดอย่าง Gigahome 650 และ Kirin W650 ที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับเราเตอร์และสมาร์ทโฟนตามลำดับ โดย HUAWEI Wi-Fi AX3 Series มาพร้อมกับชิปเซ็ต Gigahome 650 ส่งผลให้รองรับการทำงานแบบ Dual-band dual-concurrent (DBDC) ในความเร็วสูงสุด 3000Mbps และเมื่อใช้ควบคู่กับอุปกรณ์จากหัวเว่ยที่รองรับ Wi-Fi 6+ เช่นกันแล้ว เราเตอร์ HUAWEI Wi-Fi AX3 ก็สามารถส่งมอบสัญญาณที่ครอบคลุมและมีความเร็วเหนือกว่าเราเตอร์ Wi-Fi 6 ทั่วไป
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังเปิดตัว HUAWEI 5G CPE Pro 2 ซึ่งเป็น Wi-Fi 6+CPE รุ่นใหม่ในขนาดกะทัดรัดกว่ารุ่นเดิมถึง 30% สำหรับการอัพเกรดอื่น ๆ ที่สำคัญมีทั้งการรองรับ 5G ถึง 11 แบนด์ รวมถึงเทคโนโลยี Super Uplink อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหัวเว่ย ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วและลดค่าความหน่วงในการอัพโหลด
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1094332/Huawei.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1094331/Huawei_AI_Life.jpg