ติดแบล็คลิสคืออะไร? ทำไมต้อง เช็คแบล็คลิส ก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน?
หนึ่งในสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ราคาแพงนั้นหลาย ๆ คนคงจะนึกถึงอสังหาริมทรัพย์อย่าง “บ้าน” ที่ทำให้หลาย ๆ คนเมื่อต้องการซื้อบ้านจึงต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินกัน และต้องการให้ได้วงเงินที่สูงที่สุด ซึ่งการจะได้วงเงินสูงนั้น การพิจารณาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็จะเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น จึงมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่อยากขอสินเชื่อบ้านว่า ห้ามทำให้ตัวเองติด BlackList แต่การ ติดแบล็คลิสคือ อะไร? และเรา เช็คแบล็คลิส ของตัวเองได้อย่างไร ที่นี่มีคำตอบพร้อมแล้ว
ติดแบล็คลิสคืออะไร ทำไมคนกู้ซื้อบ้านต้องกลัว
หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ของสถาบันการเงินและธนาคารต่าง ๆ มีความแตกต่างกันอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ การตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตของเรา ซึ่งมักจะเรียกกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า เครดิตบูโร นั่นเอง โดยรายงานข้อมูลเครดิตที่ว่านี้ จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ สามารถใช้ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของแต่ละบุคคลย้อนหลังได้มากสุดถึง 3 ปี นั่นหมายความว่า หากใครเคยมีประวัติไม่ดีในการชำระหนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการผิดนัดชำระหนี้ หรือมียอดหนี้คงค้างกับสถาบันการเงินใด ๆ ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ไม่ได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ซื้อบ้าน และหากยังต้องการขอกู้ซื้อบ้านให้ได้ ก็อาจต้องรอต่อไปอีก 2-3 ปีเลยทีเดียว
จะสามารถ เช็คแบล็คลิส หรือตรวจสอบว่ามีชื่อตนเองใน รายชื่อผู้ติดแบล็คลิส ได้อย่างไร?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สถาบันการเงินหรือธนาคาร ตรวจสอบเครดิตบูโรเฉพาะบุคคล โดยเจาะจงลงไปว่าบุคคลนั้น ๆ มีประวัติการชำระหนี้เป็นอย่างไร ล่าสุดผ่อนชำระอะไรอยู่บ้าง เช่น รถยนต์ บัตรเครดิต และมีภาระหนี้อยู่กี่รายการ เป็นเงินจำนวนประมาณเท่าไร แต่จะไม่มีการไปไล่ดูรายชื่อใน รายชื่อผู้ติดแบล็คลิส เพราะไม่มีการทำลิสต์รายการที่ว่าและท่านสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเองได้ ทั้งแบบถือเอกสารเดินทางไปขอด้วยตนเอง และผ่านทางออนไลน์หลายช่องทาง ดังนี้
ยื่นเอกสารขอตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเองได้ที่
1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อาคาร 2 ชั้น 2 เวลา 9.00-16.30 น.
2. อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (โซนธนาคาร) เวลา 9.00-18.00 น
3. ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ (เฉพาะสาขาที่ให้บริการ) และเคาน์เตอร์ธนาคาร ดังต่อไปนี้
ธนาคารธนชาต
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ตรวจสอบเครดิตบูโรแบบออนไลน์ได้หลายช่องทาง ดังนี้
1. ใช้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารเจ้าของบัตรดังต่อไปนี้
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์
2. Mobile Application
ธนาคารธนชาต
ธนาคารกรุงไทย
3. Internet Banking
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงไทย
โดยการขอตรวจสอบเครดิตบูโร จะมีค่าธรรมเนียมราว 100-200 บาท ต่อครั้ง แต่สำหรับลูกหนี้ซึ่งเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถขอคูปองยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ได้ที่บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM
การป้องกันไว้ล่วงหน้า ดีกว่าการแก้ไขในภายหลังเสมอ ดังนั้นจึงควรมีวินัยทางการเงินและรักษาเครดิตของตนไว้อย่างดีที่สุด แต่หากมีความจำเป็นต้องมีประวัติเสียในเครดิตบูโรจริง ๆ ก็ยังมีทางแก้ไข เช่น การผ่อนชำระหนี้ให้ครบแม้จะใช้ระยะเวลายาวนานและต้องเจรจาต่อรองกับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้สักหน่อย รวมถึงการแสดงเอกสารหลักฐานสาเหตุของการเสียประวัติซึ่งอาจไม่ใช่ความผิดของตน รวมทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีของตนเองอย่าสม่ำเสมอในระหว่าง 3 ปีนี้ เพื่อสร้างเครดิตขึ้นมาใหม่ ว่ามีรายได้เข้ามาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการกู้ซื้อบ้านให้สำเร็จตามที่หวังไว้
การป้องกันนั้นดีกว่าการประมาทและทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั่นยากเกินแก้ เพราะฉะนั้นคุณควรมีวินัยทางการเงินและต้องรักษาเครดิตของตนเองไว้ให้ดีที่สุด และหากมีความจำเป็นที่ต้องเสียประวัติในเครดิตบูโรจริง ๆ ก็มีทางออกโดยการผ่อนชำระหนี้ให้ครบถ้วน รวมถึงการแสดงเอกสารหลักฐานสาเหตุของการเสียประวัติซึ่งอาจไม่ใช่ความผิดของตนเอง รวมทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีของตนเองเป็นประจำในระหว่าง 3 ปีนี้ เพื่อสร้างเครดิตขึ้นมาใหม่ ว่ามีรายได้เข้ามาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการกู้ซื้อบ้านให้สำเร็จตามที่หวังไว้ได้นั่นเอง