- ได้รับเงินกู้ 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกลุ่มธนาคาร 5 แห่ง สำหรับนำไปใช้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ เฟสที่สอง ขนาด 630 เมกะวัตต์
- เป็นหนึ่งในข้อตกลงเงินกู้ขนาดใหญ่ที่สุดในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกในปีนี้
- ข้อตกลงนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Mainstream ที่มีต่อการผลิตพลังงานหมุนเวียนในชิลี และสะท้อนผลงานความสำเร็จของบริษัทในการส่งมอบ
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในระดับกิกะวัตต์
- โครงการ Andes Renovables ขนาด 1.3 กิกะวัตต์ ยังคงเดินหน้าอย่างยอดเยี่ยม แม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากมาตรการด้านความปลอดภัยภายใน
ที่เคร่งครัด
Mainstream Renewable Power ("Mainstream" หรือ "บริษัท") บริษัทพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก บรรลุข้อตกลงทางการเงิน
สำหรับการดำเนินการเฟสที่สองของโครงการ “Andes Renovables" ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ขนาด 1.3 กิกะวัตต์ในประเทศชิลีที่บริษัทเป็น
เจ้าของทั้งหมด
บริษัทประสบความสำเร็จในการระดมทุน 620 ล้านดอลลาร์ผ่านการกู้ยืม เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างเฟสที่สองของโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่
ที่สุดแห่งหนึ่งของลาตินอเมริกา ส่งผลให้เม็ดเงินทั้งหมดที่โครงการ Andes Renovables ระดมทุนได้จนถึงปัจจุบันนั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 1.25 พันล้าน
ดอลลาร์
สำหรับเงินกู้ยืมรอบนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธนาคาร 5 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย IDB Invest, KfW IPEX-Bank, DNB, CaixaBank และ MUFG และเป็น
ข้อตกลงการกู้เงินเพื่อธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่มีมูลค่าสูงสุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งที่ 6 คือ Santander ได้
จัดสรรวงเงินกู้เพื่อนำไปจ่ายภาษี VAT
โครงการโรงไฟฟ้า Andes Renovables เฟสสอง มีกำลังการผลิต 630 เมกะวัตต์ และมีชื่อเรียกว่า “Huemul” ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนชายฝั่ง 3
แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่ง โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 5 แห่งนี้อยู่ในช่วงก่อนก่อสร้าง และจะดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2564-2565 ซึ่ง
จะผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างยั่งยืนและมากเพียงพอสำหรับบ้านเรือน 781,000 หลังในชิลี และจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 744,200 เมตริกตันต่อปี
Andes Renovables เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ มูลค่าราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแบ่งเป็นสามเฟส ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลม
บนชายฝั่ง 7 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 แห่ง โดยเฟสแรกชื่อ “C?ndor” ได้ปิดการระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินในเดือนพฤศจิกายน 2562 และ
ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ไปกว่า 30% แล้ว โครงการเฟสนี้สร้างงานเกือบ 1,200 ตำแหน่งใน 3 ภูมิภาคของชิลี และยังคงดำเนินงานอย่างปลอดภัยในช่วงที่โค
วิด-19 แพร่ระบาด ภายใต้มาตรการด้านสุขอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เคร่งครัด ส่วนเฟสต่อไป ซึ่งเป็นเฟสสุดท้ายมีชื่อว่า “Copihue” ประกอบ
ด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 1 แห่งที่มีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และมีแนวโน้มว่าจะปิดการระดมทุนทางการเงินได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564
Vestas, Nordex Group และ Siemens Gamesa จะเป็นผู้จัดหากังหันลม และ Sacyr Industrial, SEMI และ Elecnor จะเป็นผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม
ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะก่อสร้างโดยบริษัท Sterling & Wilson และ Metka-Egn ขณะที่หม้อแปลงไฟฟ้าหลักทั้ง 5 ตัวสำหรับโครงการดังกล่าวมี
บริษัท Hitachi ABB Power Grids เป็นผู้จัดหา ส่วนงานเชื่อมสายไฟฟ้ามีกลุ่มบริษัทที่ประกอบด้วย Transelec, Inprolec และ Isotron-Siemens เป็นผู้
ดำเนินการ
Mary Quaney ประธานบริหารกลุ่ม Mainstream กล่าวว่า:
"การปิดการระดมทุนในเฟสที่สองของโครงการ Andes Renovables ของเรานี้ นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งในการเดินทางของ Mainstream เพื่อส่งมอบโรงไฟฟ้า
พลังงานลมและแสงอาทิตย์อันดับหนึ่งของลาตินอเมริกา”
"แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากโควิด-19 แต่การบรรลุข้อตกลงเงินกู้ครั้งนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการสนับสนุนของกลุ่ม
ธนาคารที่มีให้กับ Mainstream ในฐานะผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนอิสระชั้นนำของโลก
"Mainstream กำลังสร้างสิ่งที่ใหญ่ยิ่งกว่าจากโครงการ Andes Renovables ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่มาก และเกิดขึ้นใน
ช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับชิลี เนื่องจากชิลีกำลังคาดหวังที่จะลงทุนเพื่อการฟื้นตัวจากโควิด-19 อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการทำให้
ระบบไฟฟ้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดราคาการผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศ”
Manuel Tagle ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคลาตินอเมริกาของ Mainstream กล่าวว่า:
"เหตุการณ์สำคัญครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังมีความก้าวหน้าอย่างยอดเยี่ยมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเฟสหนึ่ง และผมดีใจที่ทีมงานของเรา
สามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคระบาด
"ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของโครงการนี้มีความสำคัญมาก โดยนอกจากโครงการ Andes Renovables แล้ว Mainstream ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม
และแสงอาทิตย์ที่อยู่ในแผนพัฒนาอีก 2.7 กิกะวัตต์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการสนับสนุนชิลีให้มากยิ่งขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้”
ติดต่อ:
Emmet Curley, Head of Communications & Positioning
โทร: +353 86 2411 690
อีเมล: emmet.curley@mainstreamrp.com
www.mainstreamrp.com
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/686512/Mainstream_Renewable_Power_Logo.jpg